Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 22, 2024, 08:57:51 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,698
  • หัวข้อทั้งหมด: 778
  • Online today: 13
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 22
Total: 22

ทำไมวาฮาบีไม่ยอมสุยูดบนดินแท้ๆ ???

เริ่มโดย L-umar, กันยายน 25, 2009, 01:14:46 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar




มักจะมีคนหลงผิด(ฎอลลีน) มองว่า การสุญูดบนดิน โดยเฉพาะบนดินกัรบะลาอ์ เป็นการกราบไหว้บูชาดินและ ถือว่า การกระทำเช่นนั้นของชีอะฮ์ เป็นการตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ โดยพวกเขาตัดสินให้ชีอะฮ์ตกเป็นมุชริกไปเลย  สำหรับข้อสงสัยดังกล่าวนี้ สิ่งจำเป็นที่ต้องกล่าวถึงคือ ระหว่างคำว่า   สุญูดลิลลาฮฺ (การกราบต่ออัลลอฮ์) กับสุญูดอะลัลอัรฎิ (การกราบบนดิน) นั้น มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ปัญหาที่เกิดเป็นข้อสงสัย เนื่องจากว่าผู้สงสัยไม่พยายามแยกแยะระหว่างความแตกต่างของทั้งสอง คำอธิบายโดยสรุปกล่าวคือ สุญูดลิลลาฮ์ หมายถึงทำการกราบอัลลอฮฺ ขณะที่ความหมายของคำว่า สุญูดอะลัลอัรฎิ คือการกราบลงบนพื้นดิน อีกนัยหนึ่งคือ พวกชีอะฮ์กราบลงบนพื้นดินเพื่อเป็นการกราบต่ออัลลอฮ์ ทั้งที่มุสลิมทั้งหลายโดยปรกติเมื่อต้องการจะกราบอัลลอฮ์ ก็ต้องสุญูดลงบนสิ่งอื่นทั้งสิ้น อันเป็นการบ่งบอกว่าได้ทำการกราบอัลลอฮฺ (ซบ.) บรรดานักแสวงบุญทั้งหลาย (ฮุจญาต) ได้ทำการกราบลงบนหินอ่อนของมัสญิดหะรอมทั้งสิ้น ขณะที่เป้าหมายในการกราบของเขานั้น คือ อัลลอฮ์ (ซบ.)

ดังนั้นจะเห็นว่าการกราบลงบนดิน พรม ใบไม้ และอื่น ๆ ไม่ได้หมายความว่า ได้ทำการสักการะบูชาสิ่งนั้น ทว่าการกราบนั้นเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ (ซบ.) ฉะนั้นการกราบลงบนดิน นอกเหนือไปจากการมิใช่กราบดินแล้ว  อัล-กุรอานกล่าวว่า

وَلِلّهِ يَسْجُدُ مَن فِي السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ

และผู้อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินต่างกราบต่ออัลลอฮฺด้วยความภักดี [1]

ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า

جُعِلَتْ لِىَ الارض مسجدًا و طهورًا

พื้นดินได้ถูกบันดาลให้เป็นสถานที่กราบ และทำความสะอาดสำหรับฉัน [2]

ด้วยเหตุนี้การกราบอัลลอฮฺ กับการซกราบลงบนดิน นอกจากจะไม่มีความขัดแย้งกันแม้แต่นิดเดียวแล้วยังสามารถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการสุญูดลงบนพื้นดิน หรือลงบนใบไม้คือสัญลักษณ์สุดท้ายของการนอบน้อม ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์

 

เพื่อสร้างความเข้าใจอย่างชัดเจนตามหลักการของชีอะฮ์ จะขอนำเสนอวจนะของท่านอิมามญะอ์ฟัร ศอดิก (อ.) ทายาทผู้บริสุทธิ์ของท่านศาสดา และเป็นอิมามที่ 6 ของชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ ท่านกล่าวว่า

 

عن هشام ابن الحكم قال قلت لأبي عبد الله (ع) اخبرني عما يجوز السجود عليه و عما لا يجوز ؟ قال : السجود لا يجوز الا على الأرض أو ما أنبتت الأرض إلا ما أكل أو لبس. فقلت له  جعلت فداك ما العلة في ذلك ؟ قال لأنّ السجود هو الخضوع لله عزّوجل فلا ينبغي أن يكون على ما يؤكل و يلبس لأنّ ابناء الدنيا عبيد ما يأكلون ويلبسون والساجد في سجوده على معبود ابناء الدنيا الذين اغتروا بغرورها والسجود على الأرض افضل لأنّه أبلغ في التّواضع و الخضوع لله عزّوجل

 

ฮิชาม บิน ฮะกัมพูดว่า ฉันได้ถามท่านอิมามศอดิก (อ.) เกี่ยวกับสิ่งที่สุญูดลงบนนั้นแล้ว ถือว่าถูกต้อง ท่านตอบว่า ต้องสุญูดลงบนดินหรือสิ่งที่งอกเงยขึ้นจากดิน ยกเว้นสิ่งที่เป็นอาหารหรือเครื่องนุ่งห่ม ฉันพูดว่า มีสาเหตุอะไรหรือ ท่านตอบว่า การสุญฅูดคือการแสดงความนอบน้อมและการภักดีที่มีต่ออัลลอฮ์ ซึ่งไม่เป็นการดีหากจะทำการสุญูดลงบนอาหารหรือเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากว่าจะกลายเป็นผู้ที่มีความลุ่มหลงต่อโลก บูชาอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ขณะที่ทำการสุญูดนั้นมนุษย์ได้แสดงการเคารพภักดีต่อพระองค์ ดังนั้นไม่เป็นการดีหากเราจะนำหน้าผากของเรา สุญูดลงบนสิ่งที่พวกบูชาโลกได้สักการะต่อมัน ส่วนการสุญูดลงบนดินเป็นการกระทำที่สูงและดีกว่า เนื่องจากว่าได้เข้าถึงแก่นของการแสดงความนอบน้อมถ่อมตน ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งและเกรียงไกร [3]

จากคำพูดของท่านอิมามศอดิก (อ.) เป็นที่ชัดเจนว่าการสุญูดบนดิน คือ สาเหตุที่นำไปสู่การนอบน้อมถ่อมตนได้มากกว่าการสุญูดลงบนสิ่งอื่น

 

ตรงนี้มีคำถามว่า ทำไมชีอะฮฺไม่สุญูดลงบนสรรพสิ่งอื่น ต้องเป็นบนดิน หรือบนสิ่งที่งอกเงยขึ้นจากดินที่ไม่ใช่อาหารเท่านั้น

ตอบว่า แก่นแท้หนึ่งของการอิบาดะฮ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า จำเป็นอย่างยิ่งต้องออกมาจากผู้วางกฎเกณฑ์ ส่วนเงื่อนไขและขั้นตอนในการปฏิบัติต้องผ่านการบอกกล่าว และการแสดงออกของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เท่านั้น เพราะท่านคือผู้ยึดมั่นอยู่กับอัล-กุรอาน ความประพฤติของท่านคือแบบอย่างสำหรับมวลประชาชาติทั้งหลาย

ต่อไปนี้จะขออธิบายรายงานฮะดีษที่ศอฮีฮ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มาอธิบายจริยวัตรและแบบฉบับของท่านศาสดา(ศ) ฉะนั้น เมื่อศึกษาให้ละเอียดจะพบว่าท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ไม่เคยสุญูดลงบนสิ่งอื่นใดนอกจากดิน และสิ่งที่งอกเงยขึ้นจากดิน เฉกดังเช่นที่ชีอะฮฺได้เชื่อและยึดถือปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันนี้

 

๑. มีนักรายงานฮะดีษกลุ่มหนึ่งได้บันทึกคำพูดของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ไว้ในตำราอัศศิฮาฮ์ และมุสนัดทั้งหลายว่า ท่านศาสดา(ศ)ได้ใช้พื้นดินเป็นสถานที่สุญูดท่านกล่าวว่า

جعلت لي الأرض مسجدا وطهورا

พระองค์ได้มอบให้ดินเป็นสถานที่ซัจดะฮฺ และทำความสะอาดแก่ ฉัน [4]

คำว่า ญะอะละ ในที่นี้หมายถึงการกำหนดกฎเกณฑ์ หมายถึงว่าสิ่งนี้เป็นกฎที่พระผู้เป็นเจ้าได้วางไว้สำหรับหมู่ชนที่ทำการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอิสลาม ด้วยเหตุนี้การสุญูดบนดิน หินและสิ่งที่งอกเงยขึ้นจากดินจึงเป็นการอนุญาตไปโดยปริยาย

๒. มีริวายะฮ์บางกลุ่มได้สนับสนุนทัศนะดังกล่าวโดยกล่าวว่า ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ได้เชิญชวนบรรดามุสลิมให้สุญูดลงบนดิน ดังที่ท่านหญิงอุมมุซะละมะฮฺ (ภรรยาท่านหนึ่งของท่านศาสดา) ได้รายงานจากท่านศาสดาว่า

ترّب وجهك لله

จงนำใบหน้าของเจ้าวางบนดินเพื่ออัลลอฮฺ [5]

จากคำว่า ترّب ในคำพูดของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ทำให้เกิดความกระจ่างขึ้นสองประเด็นดังนี้ หนึ่ง เป็นความจำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคน ขณะสุญูด ที่ต้องวางหน้าผากลงบนดิน สอง การกระทำของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) คือคำสั่งที่สั่งให้มุสลิมปฏิบัติ และในความเป็นจริงจำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคนต้องถือปฏิบัติเช่นนั้น เนื่องจากคำว่า ตัรริบ มาจากรากศัพท์ว่า ตุรอบ หมายถึงดินและเป็นกริยาในรูปคำสั่ง

๓. การกระทำของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) คือคำยืนยัน ที่สร้างความชัดเจนให้กับบรรดามุสลิม ท่านวาอิล บิน ฮะญัร พูดว่า

رأيت النبي صلّى الله عليه وآله وسلّم إذا سجد وضع جبهته و أنفه على الأرض

ฉันได้เห็นท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ขณะลงสุญูดได้เอาหน้าผากและจมูกวางลงบนพื้น [6]

ท่านอะนัส บินมาลิก ท่านอิบนุอับบาส และภรรยาบางคนของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เช่น อาอิชะฮ์- อุมมุซะละมะฮ์ และบรรดานักฮะดีษอีกจำนวนมากได้รายงานว่า

كان رسول الله (ص) يصلّى على الخمرة

ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้สุญูดลงบนคุมเราะฮ์  คุมเราะฮ์ หมายถึง เครื่องจักรสานที่ทำจากกาบและใบของอินทผลัม [7]

ท่านอะบูสะอีด ได้เล่าจากศอฮาบะฮ์คนหนึ่งของท่านศาสดา    (ศ็อล ฯ) ว่า

دخلت على رسول الله صلّى الله عليه وآله وسلّم وهو يصلّى على حصير

 

ฉันได้เข้าไปหาท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ขณะที่ท่านกำลังทำนมาซอยู่บนเสื่อ [8]

คำพูดดังกล่าวนี้เป็นหลักฐานที่สนับสนุนทัศนะของชีอะฮ์ ที่ว่าอนุญาตให้สุญูดลงบนสิ่งที่งอกเงยขึ้นจากดินที่ไม่ใช่อาหาร

๔. คำพูดและการกระทำของบรรดาศอฮาบะฮ์และตาบิอีน เปรียบเสมือนสุนนะฮ์ของศาสดา (ศ็อล ฯ) ท่านญาบิรอับดุลลอฮฺ อันศอรีย์พูดว่า

كنت أصلي الظهر مع رسول الله (ص) فآخذ قبضة من الحصاء لتبرد في كفي أضعها لجبهتي أسجد عليها لشدة الحر

ฉันได้ทำนะมาซซุฮฺริร่วมกับท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ซึ่งฉันได้กอบก้อนกรวดขึ้นมากำมือหนึ่งถือไว้ในมือเพื่อให้เย็น สำหรับวางหน้าผากเมื่อเวลาลงซัจดะฮฺ ที่ทำเช่นนี้เพราะว่าอากาศร้อนมาก [9]

นักรายงานได้กล่าวว่า ถ้าหากอนุญาตให้ทำการสุญูดเสื้อผ้าที่สวมใส่ ก็คงสะดวกกว่าการกำก้อนกรวดที่ร้อนไว้ในมือ

อิบนุสะอัด เสียชีวิตเมื่อ ฮ.ศ. ๒๐๙ ได้บันทึกไว้ในตำราของตน (อัฏเฏาะบะกอตุลกุบรอ) ว่า

كان مسروق إذا خرج يخرج بلبنة يسجد عليها في السفينة

มัซรูก บิน อัจดะอ์ เมื่อเวลาเดินทางไกลจะนำเอาดินแห้งติดตัวไปด้วย (เพื่อว่า) เมื่ออยู่ในเรือเขาจะได้ซัจดะฮฺบนมัน [10]  

สิ่งจำเป็นต้องกล่าวถึงคือ มัซรูก บิน อัจดะอฺ เป็นหนึ่งในตาบิอีนของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) เป็นเซาะฮาบะฮฺของอิบนิมัซอูด เจ้าของตำราอัฏเฏาะบะกอต ได้ยกย่องให้ท่านเป็นนักฮะดีซในชั้นแรกจากกูฟะฮฺ หลังจากท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) และท่านอิมามอะลี (อ.) ท่านอะบูบักรฺ อุมัร  อุซมาน และอับดุลลอฮ์ อิบนิมัสอูด

คำพูดของมัซรูกได้สร้างความกระจ่างแก่ผู้ที่กล่าวว่า การที่ชีอะฮฺพกพาดินติดตัวตลอดเวลาเพื่อซัจดะฮฺนั้นเป็นชิริกและเป็นบิดอะฮฺ จะเห็นว่าชีอะฮฺได้ทำเหมือนกับชนในยุคก่อนได้ทำ [11]

ท่านนาฟิอ์ พูดว่า

 

انّ ابن عمر كان إذا سجد و عليه العمامه يرفعها حتى يضع جبهه بالأرض

อับดุลลอฮ์ บินอุมัร กล่าวว่า เมื่อเวลาสุญูด ได้ขยับผ้าโพกศีรษะของตนออกเพื่อเอาหน้าผากวางลงบนดิน [12]

เราะซีนพูดว่า

كتب الى عليّ بن عبدالله بن عباس رضي الله عنه أن ابعث اليّ بلوح من أحجار المروة أسجد عليه

อะลี บินอับดุลลอฮฺ บิน อับบาซได้เขียนจดหมายถึงฉันว่า ให้ช่วยส่งหินเลาฮี ซึ่งเป็นหินจากเนินเขามัรวะฮฺเพื่อจะได้ซัจดะฮฺลงบนนั้น [13]

๕. นักฮะดีซอีกกลุ่มได้รายงานว่า ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้สั่งห้ามบุคคลที่ลงสุญูดแล้วแผ่ผ้าโพกศีรษะของตนออกเพื่อจะสุญูดลงบนนั้น

ศอลิห์ สะบายีพูดว่า

إنّ رسول الله (ص) رأي رجلا يسجد بجنبه و قد اعتمّ على جبهته فحسر رسول الله صلّى الله عليه وآله وسلّم عن جبهته

ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เห็นชายคนหนึ่งกำลังสุญูดลงบนผ้าโพกศีรษะใกล้ ๆ กับท่าน ท่านได้ดึงผ้าโพกศีรษะนั้นออกจากหน้าผากเขา [14]

อิยาฏ บิน อับดุลลอฮ์ กุเรชพูดว่า

رأي رسول الله (ص) رجلا يسجد على كور عمامته فأ ومأ بيده : إرفع عمامتك و أومأ إلى جبهته

 

ท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) ได้เห็นชายคนหนึ่งกำลังสุญูด ลงบนผ้าโพกศีรษะของตน ท่านได้ชี้ให้เขาเอาออก และชี้ไปที่หน้าผากของเขา [15]

จากริวายะฮฺดังกล่าวนี้เข้าใจได้ว่า ในสมัยของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ) มุสลิมทั้งหลายได้สุญูดลงบนดิน เพราะจะสังเกตเห็นว่าเมื่อมีมุสลิมคนหนึ่งสุญูดลงบนผ้าโพกศีรษะของตน ท่านจะสั่งห้ามทันที

๖. บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) ของชีอะฮฺ ตามรายงานของฮะดีษ  อัษษะเกาะลัยน์ คือผู้ที่ไม่แยกออกจากอัล-กุรอานตลอดกาล ท่านศาสดา    (ศ็อล ฯ) ได้กล่าวว่าคำพูดของท่านเป็นหลักฐานสำหรับประชาชาติ ท่านได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า

السجود علی الأرض فريضة و على الخمرة سنّة

การสุญูดบนดินเป็นข้อบังคับ (จากพระผู้เป็นเจ้า) ส่วนการสุญูดบนเสื่อเป็นซุนนะฮ์ [16]

อีกที่หนึ่งกล่าวว่า

السجود لا يجوز الاّ على الأرض أو على ما انبتت الأرض الاّ ما أكل أو لبس

ไม่เป็นที่อนุญาตให้สุญูดบนสิ่งอื่นใดนอกจากพื้นดิน และสิ่งที่งอกเงยจากดิน ยกเว้นสิ่งที่เป็นอาหารหรือเครื่องนุ่งห่ม [17]

สรุป จากเหตุผลที่ได้กล่าวมา ทำให้รู้ว่าไม่ใช่ริวายะฮฺที่มาจากอะฮ์ลุลบัยตฺ (อ.) เพียงอย่างเดียว ทว่าเป็นสุนนะฮ์ของท่านศาสดา (ศ็อล ฯ)  เป็นการปฏิบัติของเหล่าบรรดาศอฮาบะฮ์ และตาบิอีนของท่านศาสดา(ศ)ที่ได้ทำการสุญูดบนดิน และบนสิ่งที่งอกเงยขึ้นจากดิน (ยกเว้นสิ่งที่เป็นอาหารหรือเครื่องนุ่งห่ม) นอกเหนือจากนั้นเป็นที่รับทราบกันอย่างดีว่า การซัจดะฮฺบนสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นที่อนุญาต ขณะที่การอนุญาตให้สุญูดบนสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมา เป็นที่สงสัยและเป็นความขัดแย้งในหมู่นักปราชญ์และผู้รู้ ด้วยเหตุนี้ถือว่าเป็นการอิฮ์ติยาฏ (ระมัดระวัง) และเป็นการที่ดีควรสุญูดเฉพาะบนสิ่งที่ได้กล่าวมาเท่านั้น

 

สิ่งที่จำเป็นต้องกล่าวคือ ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องทางฟิกฮ์ (หลักปฏิบัติ) ซึ่งในหมู่ของนักปราชญ์มีทัศนะที่แตกต่างกันมาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่ต้องเป็นกังวล เพราะแม้แต่นักปราชญ์ของ ๔ มัซฮับเองก็มีความขัดแย้งในเรื่องของฟิกฮ์มากเช่นกัน เช่น ท่านอิมามมาลิก พูดว่าการเอาจมูกแตะพื้นขณะสุญูดเป็นมุสตะฮับ แต่อิมามฮัมบาลีพูดว่า การทำเช่นนั้นเป็นวาญิบ หากไม่ปฏิบัติถือว่าเป็นสาเหตุทำให้การสุญูดบาฏิล (โมฆะ)

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------

 

[1] เราะอฺดุ /๑๕

 

[2] เซาะฮียฺ บุคอรียฺ กิตาบุซเซาะลาฮฺ หน้าที่ ๙๑

 

[3] บิฮารุลอันวาร เล่มที่ ๘๕ หน้าที่ ๑๔๗ คัดลอกมาจากหนังสือ อิลัล ชะรอยิอฺ

 

[4] ซุนันบัยฮะกีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๑๒ บาบอัตตะยัมมุม บิซเซาะอีดิฏฏอยยิบะฮฺ, เซาะฮียฺบุคอรียฺ เล่มที่ ๑ กิตาบุซเซาะลาฮฺ หน้าที่ ๙๑, อิกติฎอ อัซซิรอตุลมุซตะกีม อิบนิตัยมียะฮฺ หน้าที่ ๓๓๒

 

[5] กันซุลอุมาล เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๔๖๕ ฮะดีซที่ ๑๙๘๐๙ กิตาบุซเซาะลาฮฺ อัซซุญูด วะมายะตะอัลละเกาะ บิฮี

 

[6] อะฮฺกามุลกุรอาน ญะซอซ ฮะนะฟียฺ เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๒๐๙ พิมพ์ที่เบรุต บาบ ซุญูด อะลัล วัจฮิ

 

[7] ซุนันบัยฮะกียฺ เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๔๒๑ กิตาบุซเซาะลาฮฺ บาบเซาะลาตุ อะลัลคุมเราะฮฺ

 

[8] ซุนันบัยฮะกียฺ เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๔๒๑ กิตาบุซเซาะลาฮฺ บาบเซาะลาตุ อะลัล ฮะซีร

 

[9] ซุนันบัยฮะกียฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๓๙ กิตาบุซเซาะลาฮฺ

 

[10] อัฏเฏาะบะกอตุลกุบรอ เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๗๙ ตอนอธิบายถึงสภาพของมัซรูก

 

[11] ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหนังสือ ซีเราะตะนา อัลลามะฮฺอามีนี

 

[12] ซุนันบัยฮะกียฺ เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๐๕ กิตาบบุซเซาะลฮฺ บาบ อัลกัชฟฺ อะนิซซัจดะฮฺ ฟิซซุญูด

 

[13] อัซเราะกียฺ อัคบารุลมักกะฮฺ เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๑๕๑

 

[14] ซุนันบัยฮะกียฺ เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๐๕

 

[15] ซุนันบัยฮะกียฺ เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๐๕

 

[16] วะซาอิลชีอะฮฺ เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๕๙๓ กิตาบเซาะลาฮฺ อับวาบ มายัซญุดุอะลัยฮิ ฮะดีซที่ ๗

 

[17] วะซาอิลชีอะฮฺ เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๕๙๑ กิตาบเซาะลาฮฺ อับวาบมายัซญุดุอะลัยฮิ ฮะดีซที่ ๑



ขอบคุณหนังสือ : ชีอะฮฺตอบ

เขียนโดย : ฮุจญฺตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ซัยยิดริฎอ ฮุซัยนี นะซับ

แปลโดย  : อุษา  จิตดำหริ

เรียงพิมพ์และรูปเล่ม นีกีย์ กราฟฟิก อาร์ต

จัดพิมพ์โดย : มูลนิธิ สถาบันอิมามอะลี (อ.)



คำถามสำหรับวาฮาบี

การสุยูดบนดินแท้ๆ คือซุนนะฮ์นบี  ทำไมท่านจึงทิ้งซุนนะฮ์นี้ ?
  •  

22 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้