อิสลามเริ่มต้นและจบลงอย่างคนแปลกหน้า

[L-umar]

بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
ขอพรและความสันติพึงมีแด่บรรดาศาสดาแห่งอัลลอฮ์  ขอพรและความจำเริญพึงมีแด่ท่านนบีมุฮัมมัด นบีองค์สุดท้ายของโลก
ขอความศานติพึงมีแด่บรรดาอิม่ามผู้นำ ผู้เป็นวงศ์วานของนบีมุฮัมมัด และบรรดาซอฮาบะฮ์ทั้งหลายผู้ทรงคุณธรรม
อัมมา บะอฺดุ


ในยุคที่ความคิดและพฤติกรรมแบบญาฮิลียะฮ์(ยุคงมงายก่อนประกาศอิสลาม) ได้หวนคืนกลับมาใหม่  ความญาเฮ้ลงมงายที่อัลลอฮ์ตรัสถึงมันในคัมภีร์อัลกุรอานว่า :

وَلَا تَبَرَّجْنَ تَبَرُّجَ الْجَاهِلِيَّةِ الْأُولَى

จงอย่าโอ้อวดความงาม เหมือนดั่งการโอ้อวดความงามของพวกญาฮิลียะฮ์  

( อัลอะห์ซาบ : 33 )

แต่ดูเหมือนว่าความงมงายในรูปแบบใหม่ได้ปรากฏขึ้นแล้วในยุคปัจจุบัน
เป็นยุคที่ความอธรรมและการกดขี่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ
วิชาความรู้ต่างๆของพระผู้เป็นเจ้าที่ศาสดาทั้งหลายนำมาให้กลับถูกหลบลู่ดูหมิ่น ถูกเหยียดหยามและถูกทำลาย ศาสนาอันบริสุทธิ์และบุคคลผู้เป็นแบบอย่างล้วนถูกบิดเบือน  เป็นยุคที่มุสลิมกำลังเฉไฉออกนอกกรอบอิสลาม
 
อิสลามที่แท้จริงจึงกลายเป็นสิ่งแปลกใหม่เหมือนครั้งที่เริ่มแรก


สังคมของเรากำลังต้องการอะไร  ?

สังคมมุสลิมกำลังต้องการเยาวชนหนุ่มสาว ปัญญาชน เข้ามาช่วยเหลือทำนุบำรุงกิจการศาสนา หากพวกเขารู้ซึ้งถึงคุณค่าในนิ๊อ์มัตที่อัลลอฮ์(ซ.บ.)ทรงประทานให้
 
เราต้องการเวทีอิสระ เป็นที่รองรับคนรุ่นใหม่เหล่านี้  ไม่มีอคติใดๆระหว่างพวกเขา ไม่มีความอคติในซุนนี่และชีอะฮ์  ที่นี่มีแต่อิสลาม
 
จะต้องเป็นเวทีที่ไม่ถูกจำกัดอยู่ในศาสนาใด  มัซฮับใด นิกายหรือลัทธิ กลุ่มใด และพวกใดพวกหนึ่งโดยเฉพาะ

ที่นั่นคือเวทีแห่งเอกภาพ แม้ต่างใจต่างกาย ต่างภาษา สำเนียง ต่างชนชั้นและวรรณะก็ตาม  เราต้องไม่เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นอุปสรรคกีดขวาง
ทุกศาสนา ล้วนเชื่อตรงกันเรื่องหนึ่งคือ กาลข้างหน้าจะมีบุรุษผู้หนึ่งออกมาปรับปรุงแก้ไข ฉุดสถานการณ์อันเลวร้ายบนโลกใบนี้ ให้รอดปลอดภัย เขาผู้นั้นจะออกมาชี้นำประชาชนทั้งผอง เป็นผู้ที่จะมาปราบความอธรรมและการกดขี่จนสิ้นซากในท้ายที่สุด  และเขาจะจัดตั้งยุคของเขาให้มีความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมด้วยตัวเขาเอง

มุสลิมส่วนมากเชื่อเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์ว่า แท้จริงบุรุษผู้นั้น ผู้ที่ทุกคนทุกประชาชาติเฝ้ารอ  เขาเป็นบุคคลคนเดียวกันนั่นคือ

อัลมะฮ์ดี  อะลัยฮิสสลาม

เขาคือผู้ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้สดใสใหม่เหมือนเดิม  เขาคือผู้ช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากความหายนะ
หากท่านสงสัยว่า ถ้าความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อสากลดังว่า  ทำไมบุคคลผู้นั้นต้องมาเอาอิสลามใหม่มาให้กับโลกนี้ด้วยเล่า ?
 
อีกอย่างหนึ่งชนต่างศาสนิกต่างปฏิเสธความเชื่อเรื่องการสร้างระบอบใหม่หรือศาสนาใหม่ เพราะของแท้ดั้งเดิม ดีอยู่แล้ว

อย่าว่าแต่ชนต่างศาสนิกเลย แม้แต่ผู้นับถือศาสนาอิสลามด้วยกันยังมีบางส่วนที่ไม่เชื่อถือในอะกีดะฮ์นี้  บางกลุ่มถึงขั้นปฏิเสธด้วยซ้ำ

สำหรับคำตอบในเรื่องนี้ ขอนำเสนอฮะดีษบทหนึ่งซึ่งทั้งอิม่ามแห่งอะฮ์ลุลุบัยต์นบี อะลัยฮิมุสสลามและบรรดาซอฮาบะฮ์ผู้ทรงคุณธรรม ร่อฎิยัลลอฮุ อันฮุม ได้รายงานว่า :  

ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า :

بَدَأَ الْإِسْلَامُ غَرِيبًا ثُمَّ يَعُودُ غَرِيبًا كَمَا بَدَأَ فَطُوبَى لِلْغُرَبَاءِ

อิสลามเริ่มต้นแบบคนแปลกหน้า  จากนั้นจะกลับมาแบบคนแปลกหน้าเหมือนตอนแรก  

ขอให้คนแปลกหน้าจงมีความผาสุกเถิด




New อิสลาม ที่กำลังจะมาในไม่ช้านี้   ไม่ได้หมายความตามที่คนบางคนคิดเดาเอาเองว่า มันจะเป็นอิสลามคนละอิสลามกับที่ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้เคยนำมา

แต่มันคืออิสลามมุฮัมมะดี ดีน(ศาสนา)เดียวกัน  เว้นเสียแต่ว่า มันกลายเป็นสิ่งใหม่  เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคที่มุสลิมกำลังเดินออกนอกกรอบอิสลาม

ซุนนะฮ์ที่แท้จริงของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กำลังถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครนำมาปฏิบัติ  อุตริกรรมบิดอะฮ์เกลื่อนเมือง บทบัญญัติศาสนาและวิชาการกำลังจางหายไปเรื่อยๆ

แต่กฎเกณฑ์และวิชาการต่างๆ ที่ห่างไกลจากมิติของอิสลามมุฮัมมะดีที่แท้จริงกำลังเข้ามาแทนที่

อิสลามของอัลมะฮ์ดีผู้ถูกรอคอย จึงถูกขนามนามว่าเป็น " อิสลามใหม่ "
สาเหตุเพราะการบิดเบือนทางศาสนาที่เที่ยงตรง ที่มุสลิมกำลังใช้ชีวิตอยู่กับมัน  พวกเขาจึงยึดมั่นว่า  " วาฮาบี " นี่แหล่ะคือ อิสลามที่แท้จริง

แน่นอนอัลมะฮ์ดีผู้สืบเชื้อสายจากอิม่ามฮูเซน จะนำอัลอิสลามเดิมกลับมาใหม่อีกครั้ง  ในภาพลักษณ์ที่ไม่เคยมีอยู่เหมือนสมัยของเรา ในยุคปัจจุบันนี้

ด้วยเหตุนี้ผู้คนทั้งหลายจึงพากันคิดว่า  ความเชื่อในเรื่องอัลมะฮ์ดี(อ)กับอิสลามที่เขาจะนำมา เป็นเรื่องแปลกใหม่

เพราะพวกเขาเคยชินกับการเรียนการสอนความรู้ทางศาสนาและบทบัญญัติ ที่ผิดแผกแตกต่างไปจากบทบัญญัติที่แท้จริงแน่นอน  และในไม่ช้าพวกเขาจะได้พบกับอะห์กามและวิชาการในรูปแบบใหม่  อย่างที่พวกเขาไม่เคยได้พบเห็นและได้ยินมาก่อน  พวกเขาจึงต้องกลายเป็นผู้ปฏิเสธของแท้ที่มาใหม่ไปโดยปริยาย  


ท่านอิม่ามศอดิก (อ) กล่าวว่า

إذا قام القائم عليه السلام جاء بأمر جديد كما دعى رسول الله في بدو الاسلام إلى أمر جديد

เมื่ออัลกออิม( อัลมะฮ์ดี) ลุกขึ้นปรากฏตัว   เขาจะนำกิจการใหม่มาให้ เหมือนที่ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้เชิญชวนในช่วงแรกของการประกาศอิสลามไปสู่กิจการใหม่

อ้างอิงจาก

บิฮารุลอันวาร  โดยอัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี  เล่ม  52 : 338


หยุดคิดสักนิดหากท่านคือ บุคคลหนึ่งที่มือไม่พาย แล้วยังอุตส่าเอาฝ่าพระบาท จุ่มลงไปในน้ำ  

หากอิสลามมุฮัมมะดี ต้องถูกย้ำยี แล้วท่านนั่งเฉย ทำเป็นพระ เดินเหยียบมดไม่ตาย

อย่าวาเราะอ์ผิดที่

อย่ากล้าหาญผิดสนามรบ

อย่าอพยพเพราะแหนงหน่าย  

อย่าบ่ายหน้าหนี  เพราะลำคาญ  

อย่าเผาผลาญพวกเดียวกัน  เพราะอยากดัง  


แต่จงทำทุกสิ่งเพราะกุรบะตัน อิลัลลอฮ์