Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 22, 2024, 11:18:17 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,698
  • หัวข้อทั้งหมด: 778
  • Online today: 54
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 51
Total: 51

1 มุหัรรอม ฮ.ศ.1431 รำลึกโศกนาฎกรรมในวันอาชูรอ

เริ่มโดย L-umar, พฤศจิกายน 19, 2009, 12:11:57 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 4 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 15 :  

การร้องไห้ให้คนตาย


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

เรื่องที่ 3  - การร้องไห้ให้คนตาย(ที่ซอและห์)


2 –  ท่านนบีมุฮัมมัดร้องไห้ให้กับท่านญะอ์ฟัรฏ็อยย้าร,เซด บินฮาริษะฮ์และอับดุลเลาะฮ์ บินร่อวาฮะฮ์


عَنْ أَنَس : أَنَّ النَّبِيَّ (ص) نَعَى زَيْدًا ، وَجَعْفَرًا ، وَابْنَ رَوَاحَةَ ، لِلنَّاسِ ، قَبْلَ أَنْ يَأْتِيَهُمْ خَبَرُهُمْ ، فَقَالَ : أَخَذَ الرَّايَةَ زَيْدٌ فَأُصِيبَ ، ثُمَّ أَخَذَ جَعْفَرٌ فَأُصِيبَ ، ثُمَّ أَخَذَ ابْنُ رَوَاحَةَ فَأُصِيبَ ، وَعَيْنَاهُ تَذْرِفَانِ ، حَتَّى أَخَذَهَا سَيْفٌ مِنْ سُيُوفِ اللهِ ، حَتَّى فَتَحَ اللهُ عَلَيْهِمْ

ท่านอะนัสเล่าว่า :

แท้จริงท่านนบีได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเซด(บินฮาริษะฮ์),ญะอ์ฟัร(ต็อยยาร)และ(อับดุลลอฮ์) อิบนุ ร่อวาฮะฮ์ต่อหน้าประชาชน ก่อนที่ข่าวจะมาถึงพวกเขา โดยท่านกล่าวว่า เซดนำธงออกไปรบแล้วก็ถูกสังหาร ต่อมาญะอ์ฟัรถือธงออกไปรบแล้วก็ถูกสังหาร แล้วอิบนุร่อวาฮะฮ์ถือธงออกไปรบก็ถูกสังหาร (ในขณะเล่า) ท่านก็มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง  
 
ดูซอฮีฮุลบุคอรี  หะดีษที่ 1246
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 16 :  

การร้องไห้ให้คนตาย


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

เรื่องที่ 3  - การร้องไห้ให้คนตาย(ที่ซอและห์)

3 – ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ร้องไห้ให้กับอิบรอฮีมบุตรชาย

عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ - رضى الله عنه - ...فَقَالَ لَهُ عَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ عَوْفٍ - رضى الله عنه - وَأَنْتَ يَا رَسُولَ اللَّهِ فَقَالَ « يَا ابْنَ عَوْفٍ إِنَّهَا رَحْمَةٌ » . ثُمَّ أَتْبَعَهَا بِأُخْرَى فَقَالَ - صلى الله عليه وسلم - « إِنَّ الْعَيْنَ تَدْمَعُ ، وَالْقَلْبَ يَحْزَنُ ، وَلاَ نَقُولُ إِلاَّ مَا يَرْضَى رَبُّنَا ، وَإِنَّا بِفِرَاقِكَ يَا إِبْرَاهِيمُ لَمَحْزُونُونَ »


ท่านอับดุลเราะห์มาน บินเอาฟ์กล่าวกับท่านนบี(ศ)ว่า :

โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ท่านร้องไห้ด้วยหรือ ) ?  

ท่านตอบว่า :  โอ้อิบนุเอาฟ์ น้ำตาคือเราะห์มัต  แล้วท่าน(ศ)กล่าวว่า : แท้จริงดวงตานั้นร่ำไห้  จิตใจก็อาดูร   และเราจะไม่กล่าวสิ่งใดนอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์พึงพอพระทัย  แน่นอนโอ้อิบรอฮีมเอ๋ย  การจากไปของเจ้า ช่างทำให้เราทุกข์ระทมยิ่งนัก


ดูซอฮีฮุลบุคอรี  หะดีษที่ 1303


จะเห็นได้ว่า หะดีษนี้ ท่านนบี (ศ) ได้เรียกน้ำตาว่า " เราะห์มะฮ์ - ความเมตตาสงสาร "  นั่นคือหลักฐานแสดงว่า การร้องไห้แก่คนตายเป็นสิ่งดี
แต่จะเป็นสิ่งฮะร่ามก็ต่อเมื่อ  เรากล่าวสิ่งที่ทำให้อัลลอฮ์ไม่ทรงพอพระทัย

และนี่คือคำพูดและการกระทำของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ)
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 17 :  

การร้องไห้ให้คนตาย


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

เรื่องที่ 3  - การร้องไห้ให้คนตาย(ที่ซอและห์)

4- ท่านนบีมุฮัมมัดไปเยี่ยมสุสานมารดา และร้องไห้ทั้งๆที่มารดาเสียชีวิตไปนานแล้ว

عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ قَالَ زَارَ النَّبِىُّ -صلى الله عليه وسلم- قَبْرَ أُمِّهِ فَبَكَى وَأَبْكَى مَنْ حَوْلَهُ

ท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์เล่าว่า :

ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ) ได้ไปเยี่ยมสุสานมารดาของท่าน (คือท่านหญิงอามินะฮ์ ) ท่านได้ร้องไห้และทำให้ผู้คนที่อยู่รายรอบท่านร้องไห้ตามไปด้วย


ดูซอฮี๊ฮฺมุสลิม  หะดีษที่ 2304


หะดีษนี้เป็นหลักฐานถึงสองประการคือ

หนึ่ง-   ท่านนบี(ศ)ร้องไห้ให้กับมารดาที่เสียชีวิตไปตอนท่านมีอายุหกขวบ
สอง-   เมื่อซอฮาบะฮ์ร้องไห้ตามท่าน  ท่านกลับไม่ห้ามปรามพวกเขา

และที่สำคัญฝ่ายอะฮ์ลุสซุนนะฮ์เชื่อว่า มารดาของท่านนบีนั้นเป็นมุชริก(ไม่ใช่มุสลิม) นั่นหมายความว่าท่านนบี(ศปได้ร้องไห้ให้กับมุชริก

(ขออัลลอฮ์โปรดให้อภัยแก่เราด้วยที่ยกตัวอย่างเช่นนี้ เพราะผู้ยึดมั่นในแนวทางอะฮ์ลุลบัยต์นบีมีความเชื่อว่า  มารดาของท่านนบี(ศ)นั้นเป็นผู้ศรัทธาในดีนฮะนีฟียะฮ์ มิใช่กาเฟ็ร.)
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 18 :  

การร้องไห้ให้คนตาย


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

เรื่องที่ 3  - การร้องไห้ให้คนตาย(ที่ซอและห์)

5- ซอฮาบะฮ์ร้องไห้ให้กับการเสียชีวิตของครอบครัวท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)


أَخْبَرَنَا عَلِىُّ بْنُ حُجْرٍ قَالَ حَدَّثَنَا إِسْمَاعِيلُ (ابْنُ جَعْفَرٍ ) عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ عَمْرِو بْنِ حَلْحَلَةَ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ عَمْرِو بْنِ عَطَاءٍ أَنَّ سَلَمَةَ بْنَ الأَزْرَقِ قَالَ سَمِعْتُ أَبَا هُرَيْرَةَ قَالَ  : مَاتَ مَيِّتٌ مِنْ آلِ رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- فَاجْتَمَعَ النِّسَاءُ يَبْكِينَ عَلَيْهِ فَقَامَ عُمَرُ يَنْهَاهُنَّ وَيَطْرُدُهُنَّ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- « دَعْهُنَّ يَا عُمَرُ فَإِنَّ الْعَيْنَ دَامِعَةٌ وَالْقَلْبَ مُصَابٌ وَالْعَهْدَ قَرِيبٌ ».


ท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์เล่าว่า :

มีมัยยิตจากครอบครัวของท่านรอซูลุลลอฮ์คนหนึ่งเสียชีวิต บรรดาสตรี(ซอฮาบะฮ์หญิง)ได้ร่วมกันร้องไห้ให้เขา  ท่านอุมัรจึงลุกขึ้นไปห้ามปรามพวกนางและไล่พวกนาง  

ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า :
โอ้อุมัร  จงปล่อยพวกนางเถิด เพราะดวงตานั้นร่ำไห้ ส่วนดวงใจก็รู้สึกอาดูร และเวลาเพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ


ดูสุนัน-นะซาอี หะดีษที่ 1870  



เมื่อท่านได้ศึกษาหะดีษทั้งหมดที่ผ่านมาจึงขอถามว่า ยังจะมีมุสลิมคนใดที่ไม่ยอมรับเรื่องการร้องไห้ให้กับคนตายอีกไหม หลังจากที่พบหลักฐานยืนยันทั้งคำพูดและการกระทำของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)แล้ว ดังที่อัลลอฮ์ ตะอาลาทรงตรัสว่า

وَمَن يَرْغَبُ عَن مِّلَّةِ إِبْرَاهِيمَ إِلاَّ مَن سَفِهَ نَفْسَهُ

และใครเล่าจะไม่พึงปรารถนาในแนวทางของอิบรอฮีม นอกจากผู้ที่ทำตัวเองโง่เขลาเท่านั้น  
ซูเราะฮ์อัลบะเก็าะเราะฮ์  : 130



สรุป เรื่องร้องไห้ให้มัยยิตมุสลิม


1 - อัลลอฮ์ทรงอนุญาติให้มุสลิมร้องไห้ได้ เพราะนบียะอ์กูบร้องไห้และอัลลอฮ์มิทรงบัญญัติห้ามไว้

2 – การร้องไห้ให้คนตายเป็นซุนนะฮ์ของท่านนบี(ศ)และซอฮาบะฮ์  ผู้ใดไม่เห็นด้วย ก็เท่ากับผู้นั้นไม่ยอมรับการกระทำของท่านนบี(ศ)และซอฮาบะฮ์  และเขาได้ฝ่าฝืนธรรมชาติความเป็นมนุษย์สู่ความเป็นสัตว์ดุร้ายที่มีจิตใจป่าเถื่อนไร้เมตตา

3 – เมื่ออิสลามอนุญาติให้ร้องไห้แก่มัยยิตธรรมดาได้ อิสลามก็ต้องอนุญาตให้ร้องไห้แก่ผู้ตายชะ ฮีดอย่างท่านอิม่ามฮูเซนได้ เพราะท่านคือหัวหน้าแห่งมวลผู้ศรัทธาและบรรดาชายหนุ่มในสวรรค์ ยิ่งกว่านั้น การร้องไห้ให้ท่านอิม่ามฮูเซนยังเป็นการแสวงหาความใกล้ชิดกับอัลลอฮ์อีกหนทางหนึ่งด้วย  

4 -  บรรดาอิม่ามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ต่างไว้ทุกข์และร่ำไห้ให้กับท่านอิม่ามฮูเซน และพวกท่านได้สั่งให้ผู้มีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์จัดมัจลิสในเดือนมุหัรร็อมเพื่อรำลึกถึงโศฏนาฏกรรมของท่านอิม่ามฮูเซน มาทุกยุคทุกสมัย และให้การสนับสนุนมาโดยตลอด.
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 19 :  

เรื่องที่ 4  - มะระเซี่ย  (บทกลอนรำพันถึงคนตาย)


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

ชาวอาหรับเรียกกลอนที่แต่งไว้อาลัยแก่คนตายว่า  

ริซาอ์    رِثَاءٌ    หรือ   มะระเซี่ย   مَرَثِـيْه


เรื่องมะระเซี่ย ฝ่ายอะฮ์ลุสซุนนะฮ์แบ่งออกเป็น 2 ทัศนะคือ

1.   ถ้ามะระเซี่ยกระตุ้นให้เกิดความเศร้าและเจ็บปวดใจ ถือว่าฮะร่าม

2.   ถ้าไม่เป็นเหตุดังข้อหนึ่ง  อนุญาติให้แต่งมะระเซี่ยแก่มัยยิตได้


แต่ที่ถูกต้องคือ การแต่งมะระเซี่ยเป็นเรื่องที่อิสลามอนุญาติโดยไม่มีขอบเขตจำกัด  เพราะไม่มีหลักฐานใดมาจำกัด   มะระเซี่ยมีมาแต่โบราณแต่น่าแปลกที่ฝ่ายอะฮ์ลุสซุนนะฮ์กลับไม่ค่อยรู้จัก  

   
ประวัติศาสตร์อิสลามเล่าว่า

นบีอาดัมร้องไห้ให้กับการตายของบุตรชายชื่อฮาบีล   จนลูกหลานอาดัมยังร้องไห้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ)ยังคงทำให้ซอฮาบะฮ์ร้องไห้ بُكاَءٌ และรู้สึกเศร้าเสียใจ حُزْنٌ ด้วยวิธีอ่านมะระเซี่ยอันเป็นกลอนสดุดีอาลัยถึงคนตาย  


อัลบุคอรีได้บันทึกบทมะระเซี่ยของท่านรอซูล(ศ)เอาไว้

 
باب رِثَاءِ النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم - سَعْدَ ابْنَ خَوْلَةَ  ح : 1295

บทว่าด้วย  มะระเซี่ยของท่านนบี(ศ)  ซอฮีฮุลบุคอรี  หะดีษที่ 1295


บทมะระเซี่ย   ถูกบันทึกไว้ในตำราต่างๆมากมายเช่น
 
หนังสืออัลอิสตีอาบ  โดยอิบนุอับดุลบัรริ  

อัลอิซอบะฮ์ ฟีตัมยีซิส ซอฮาบะฮ์  โดยอิบนุหะญัร  

หนังสืออัลอุกดุลฟะรีด ทั้งหมดที่อ้างอิงถึงมิใช่อื่นใดเลย นอกจากต้องการชี้ให้พี่น้องมุสลิมทราบว่า  


มะระเซี่ยของซอฮาบะฮ์และตาบิอีน ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจขึ้นมาใหม่ทันทีเมื่อได้อ่านหรือได้ฟัง โดยเฉพาะช่วงที่ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)พึ่งเสียชีวิตใหม่ๆ ซอฮาบะฮ์ทั้งหลายต่างอ่านบทมะระเซี่ย(กลอน)ไว้อาลัยแด่ท่านนบี(ศ)  

ท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้อ่านมะระเซี่ยให้บิดาหลายบท ซึ่งในเนื้อหาล้วนแต่ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าสลดเสียใจทั้งสิ้น


มะระเซี่ยของท่านหญิงฟาติมะฮ์

يَا أَبَتَاهْ ، أَجَابَ رَبًّا دَعَاهُ ،   يَا أَبَتَاهْ ، مَنْ جَنَّةُ الْفِرْدَوْسِ مَأْوَاهُ ،  يَا أَبَتَاهْ ، إِلَى جِبْرِيلَ نَنْعَاهْ

โอ้พ่อจ๋า !  ท่านได้ตอบรับอัลลอฮ์แล้ว เมื่อทรงเรียกหา      

โอ้พ่อจ๋า ผู้ที่สวรรค์ฟิรเดาส์คือที่พำนักของท่าน โอ้พ่อจ๋า เราขอสดุดีเกียรติคุณท่านยังญิบรออีล  


ดูซอฮีฮุลบุคอรี   หะดีษที่ 4103  และซอฮี๊ฮฺมุสลิม  หะดีษที่ 2450


ท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้พรรณนาถึงบิดาหลังจากวะฟาตต่อหน้าซอฮาบะฮ์ทั้งหลาย นางร้องไห้และทำให้บรรดาซอฮาบะฮ์ร้องไห้ตาม  

หากมะระเซี่ยนี้เป็นบิดอะฮ์ จะต้องมีซอฮาบะฮ์บอกนางว่า นี่คือบิดอะฮ์จงอย่าทำเลย

บรรดาซอฮาบะฮ์ได้แต่งมะระเซี่ยไว้อาลัยแด่การจากไปของท่านนบีมุฮัมมัดมากมาย ถ้าจะทำการรวบรวมมะระเซี่ยจากหนังสืออัลอิสตีอาบ,อัลอิซอบะฮ์,อุสดุลฆอบะฮ์และตำราหะดีษต่างๆจะพบว่าบทมะระเซี่ยของซอฮาบะฮ์ล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาทำให้เกิดความโศกเศร้าเสียใจ ด้วยวิธีรำพันถึงความดีของผู้ตายมากมายนับไม่ถ้วน  

ถ้าบทมะระเซี่ยเป็นบิดอะฮ์ ซอฮาบะฮ์ย่อมไม่แต่งมันขึ้นมา
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 20 :  

มะระเซี่ย  (บทกลอนรำพันถึงคนตาย)

بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ


มะระเซี่ย ไว้อาลัยแด่ซอฮาบะฮ์ชื่อมาลิก บินนุวัยเราะฮ์



มุตัมมิม บิน นุวัยเราะฮ์

เป็นอีกคนหนึ่งที่แต่งมะระเซี่ยอันน่าเศร้าอาลัยแด่พี่ชายไว้มากมาย  ครั้งหนึ่งที่มัสญิดหลังจากนมาซซุบฮ์เสร็จ เขายืนค้ำคันถนูและอ่านมะระเซี่ยต่อหน้าท่านอบูบักรว่า :

نِعمَ القَتِيلُ إِذاً الرياحُ تَنَوحَت ... خَلفَ البُيُوتِ قَتلتَ يابْنَ الأزْوَرِ

ผู้ถูกสังหารช่างดีกระไร เมื่อสายลมสะอื้นไห้

อยู่หลังบ้านเรือน  ว่าโอ้บุตรของอัซวัร(คอลิดบินวะลีด)เจ้าได้สังหารเขา(มาลิก)แล้วเอย

จากนั้นมุตัมมิมชี้ไปที่ท่านอบูบักร   และอ่านมะระเซี่ยตำหนิท่านอบูบักรว่า

وَدَعَوتَهُ بِاللّه ثُم غَدَرتَهُ ... لَو هُوْ دَعاكَ بِذِمَة لَمْ يَغْدرِ

ท่านชวนเขา(ให้วางอาวุธ)ด้วยนามอัลลอฮ์  แล้วท่านได้หักหลังเขา

หากเขาชวนท่านด้วยความเป็นมุสลิม  เขาจะไม่หักหลังท่านได้เลย

فَقَالَ أَبُوْ بَكْرٍ: وَاللهِ مَا دَعَوْتُهُ وَلاَ غَدَرْتُهُ

ท่านอบูบักรได้ตอบว่า ด้วยนามอัลลอฮ์ ฉันไม่เคยชวนเขาและมิเคยหักหลังเขา



อ้างอิงจากหนังสือ

วะฟะยาตุล อะอ์ยาน เล่ม 6 หน้า 15
ท่านมุตัมมิมได้อ่านมะระเซี่ยไปร้องไห้ไปจนล้มคว้ำลงไปกับพื้น  แต่เขาก็ยังไม่หยุดร้องไห้ ไม่มีซอฮาบะฮ์คนใดห้ามปรามเขาให้หยุดร้องหรือหยุดอ่านมะระเซี่ยเลย ยิ่งกว่านั้นท่านอุมัรได้บอกกับเขาว่า  ฉันอยากให้ท่านแต่งมะระเซี่ยให้พี่ชายฉัน(คือเซด) เหมือนที่ท่านแต่งให้พี่ชายท่านจังเลย    เมื่อเซด บิน ค็อฏฏ็อบตาย  มุตัมมิมได้แต่งมะระเซี่ยให้ แต่ไม่กินใจเหมือนที่แต่งให้พี่ชายเขา  ท่านอุมัรจึงถามว่า  ทำไมท่านจึงแต่งมะระเซี่ยให้พี่ชายฉันไม่ซึ้งเหมือนที่แต่งให้พี่ชายท่าน ? มุตัมมิมตอบว่า  ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า การตายของมาลิกทำให้ฉันแต่งได้เช่นนั้น แต่การตายของเซดไม่มีแรงบันดาลใจต่อฉันเท่าไร่นัก  

ซอฮาบะฮ์ยุคต่อมายอมรับว่ามะระเซี่ยของมุตัมมิมที่แต่งให้มาลิก บินนุวัยเราะฮ์เป็นสิ่งดี(อิสติ๊ห์ซาน)   ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เองยังแต่งมะระเซี่ยให้พี่ชาย ตอนที่นางยืนร้องไห้อยู่หน้าสุสานอับดุลเราะห์มาน บุตรอบูบักรฺ ซึ่งมะระเซี่ยของนางถูกบันทึกอยู่ในหนังสืออัลอิสตีอาบ ตัรญุมะฮ์อาอิชะฮ์


มะระเซี่ยยังเป็นที่แพร่หลายในสังคมมุสลิมและสังคมอื่นทุกยุคทุกสมัย ทุกประเทศ โดยที่ไม่มีใครปฏิเสธมัน  

ในเมื่อมะระเซี่ยที่แต่งให้ซอฮาบะฮ์อาทิเช่น ท่านมาลิกบินนุวัยเราะฮ์,เซดบินคอฏฏ็อบ,อับดุลเราะห์มาน บินอบูบักร ไม่ถูกนับว่าเป็นบิดอะฮ์


แล้วทำไมมะระเซี่ยที่แต่งให้กับอิม่ามฮูเซนจึงเป็นบิดอะฮ์ ?  

หรือว่า มันคือความอคติส่วนบุคคลของคนบางกลุ่มที่ไม่มีความรักต่อลูกหลานนบีมุฮัมมัด ?
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 21 :  


เรื่องที่ 5 - การแจกจ่ายเพื่อคนตายในด้านความดี ( เช่นอุทิศส่วนกุศลให้คนตายด้วยการเลี้ยงอาหาร )


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ


เรื่องการทำบุญเลี้ยงอาหารแทนมัยยิตเป็นซุนนะฮ์ เพียงพอแล้วด้วยหะดีษของท่านหญิงอาอิชะฮ์ :


عَنْ عَائِشَةَ - رضى الله عنها - قَالَتْ مَا غِرْتُ عَلَى أَحَدٍ مِنْ نِسَاءِ النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم - مَا غِرْتُ عَلَى خَدِيجَةَ ، وَمَا رَأَيْتُهَا ، وَلَكِنْ كَانَ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - يُكْثِرُ ذِكْرَهَا ، وَرُبَّمَا ذَبَحَ الشَّاةَ ، ثُمَّ يُقَطِّعُهَا أَعْضَاءً ، ثُمَّ يَبْعَثُهَا فِى صَدَائِقِ خَدِيجَةَ

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า :

ฉันไม่เคยหึงหวงภรรยาของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)คนใดเท่ากับท่านหญิงคอดีญะฮ์เลย ทั้งๆที่ฉันก็ไม่เคยพบเห็นนางมาก่อน แต่ว่าท่านนบีจะเอ่ยถึงนางบ่อยมาก  และบางครั้งท่านเชือดแกะและสับมันเป็นชิ้นๆจากนั้นท่านได้นำมันไปแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆของท่านหญิงคอดีญะฮ์


ดูซอฮีฮุลบุคอรี  หะดีษที่ 3818


สิ่งที่ได้รับจากหะดีษนี้คือ อิสลามส่งเสริมให้เชื่อมโยงคนรักและมิตรสหายของผู้ตายในหนทางของอัลลอฮ์ด้วยวิธีการหนึ่งคือ เลี้ยงอาหารแทนผู้ตาย   ยังมีหะดีษอื่นสนับสนุนถึงเรื่องนี้อีกคือ

عَنْ عَائِشَةَ أَنَّ رَجُلاً أَتَى النَّبِىَّ -صلى الله عليه وسلم- فَقَالَ يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنَّ أُمِّىَ افْتُلِتَتْ نَفْسَهَا وَلَمْ تُوصِ وَأَظُنُّهَا لَوْ تَكَلَّمَتْ تَصَدَّقَتْ أَفَلَهَا أَجْرٌ إِنْ تَصَدَّقْتُ عَنْهَا قَالَ « نَعَمْ ».


ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า :

มีชายคนหนึ่งมาพบท่านนบี(ศ) เขากล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูล บังเอิญมารดาฉันเสียชีวิตกะทันหันและนางไม่ทันได้สั่งเสียสิ่งใดไว้ และฉันคิดว่า หากนางจะบอกกล่าวไว้ นางคงให้ทำซอดะเกาะฮ์    แม่ฉันจะได้รับผลบุญไหม หากฉันจะทำซอดะเกาะฮ์แทนนาง     ท่าน(ศ)ตอบว่า : ได้ซิ


ดูซอฮี๊ฮฺมุสลิม หะดีษที่ 2373


عَنْ عَائِشَةَ أَنَّ امْرَأَةً قَالَتْ يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنَّ أُمِّىَ افْتُلِتَتْ نَفْسُهَا وَلَوْلاَ ذَلِكَ لَتَصَدَّقَتْ وَأَعْطَتْ أَفَيُجْزِئُ أَنْ أَتَصَدَّقَ عَنْهَا فَقَالَ النَّبِىُّ -صلى الله عليه وسلم- « نَعَمْ فَتَصَدَّقِى عَنْهَا ».


ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า :

มีสตรีนางหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ แท้จริงมารดาฉัน เสียชีวิตกะทันหัน หากนางยังไม่เสียชีวิต ท่านจะทำทานซอดะเกาะฮ์และให้แจกจ่ายแน่ จะแทนกันได้ไหม โดยฉันจะทำซอดาเกาะฮ์แทนนาง  ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า ได้ซิ เธอจงทำซอดาเกาะฮ์แทนนางเถิด  


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ   ดูซอฮีฮุ อบีดาวูด  หะดีษที่ 2505  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี


หากท่านนบีมุฮัมมัดแจกจ่ายอาหารเลี้ยงผู้คน แทนท่านหญิงคอดีญะฮ์คือซุนนะฮ์

ในทำนองเดียวกัน หากมีมุสลิมทำอาหารเลี้ยงผู้คน แทนอิม่ามฮูเซน ท่านจะบอกว่า มันฮะร่ามกระนั้นหรือ ?
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 22 :  

การแจกจ่ายเพื่อคนตายในด้านความดี


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ


ตระกูลฮาชิม(ตระกูลของนบีมุฮัมมัด)จัดงานไว้ทุกข์ให้กับอิม่ามฮาซัน 1 เดือนเต็ม

عَنْ أُمِّ بَكْرٍ بِنْتِ الْمِسْوَرِ قَالَتْ : « كَانَ الْحَسَنُ بْنُ عَلِيٍّ سُمَّ مِرَارًا كُلُّ ذَلِكَ يَفْلِتُ حَتَّى كَانَتِ الْمَرَّةَ الْأَخِيْرَةَ الَّتِيْ مَاتَ فِيْهَا ، فَإِنَّهُ كاَنَ يَخْتَلِفُ كَبْدُهُ ، فَلَمَّا مَاتَ أَقَامَ نِسَاءُ بَنِيْ هَاشِمٍ النُوْحَ عَلَيْهِ شَـهْرًا »    

ท่านหญิงอุมมุบักรฺ บินติ อัลมิสวัรเล่าว่า :

ท่านฮาซัน บุตร อะลี ถูกวางยาพิษหลายครั้ง แต่ก็รอดมาทุกครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่ท่านเสียชีวิตนั้นยาพิษได้ทำให้ตับท่านฉีกขาด เมื่อท่านเสียชีวิต พวกสตรีแห่งตระกูลฮาชิมได้จัดงานไว้ทุกข์ร้องไห้ให้กับท่านฮาซันหนึ่งเดือน  
 

สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ  ดูอัลมุสตัดร็อกอัลฮากิม หะดีษที่ 4787 ตามเงื่อนไขของบุคอรีและมุสลิม


หากตระกูลฮาชิมซึ่งพวกเขาเป็นทั้งอะฮ์ลุลบัยต์นบีและเป็นซอฮาบะฮ์ทำเรื่องบิดอะฮ์   แน่นอนจะต้องมีซอฮาบะฮ์ห้ามปรามพวกเขามิให้จัดงานไว้ทุกข์ให้กับอิม่ามฮาซันที่จัดขึ้นในเมืองมะดีนะฮ์ถึงหนึ่งเดือนเต็ม แน่นอนคนในตระกูลนบี(ศ) ย่อมรู้ดีว่า มันเป็น ซุนนะฮ์  ไม่ใช่ บิดอะฮ์  


สรุป  

หากว่าการปฏิบัติต่อผู้ตายมุสลิมทั้งห้าคือ

1  การบรรยายหรือพูดถึงความดีและมุซีบัตของมัยยิต

2  การนั่งเศร้าไว้อาลัยถึงมัยยิตเนื่องจากนึกถึงความหลังเก่าๆและสำนึกในบุญคุณของมัยยิต

3  การร้องไห้ให้มัยยิตที่เป็นคนดี หรือตายชะฮีด

4  การอ่านมะระเซี่ยถึงมัยยิต

5 การแจกจ่ายเพื่อมัยยิตในด้านความดี  เช่นเลี้ยงอาหารแทนมัยยิต



มีหลักฐานจากอัลกุรอานและหะดีษของฝ่ายอะฮ์ลุสซุนนะฮ์เองกำกับไว้ว่าเป็นสิ่งที่อิสลามอนุญาตให้กระทำได้และเป็นซุนนะฮ์  

รูปแบบของพิธีมุหัรร็อมก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากห้าเรื่องดังกล่าว

เพราะฉะนั้นการจัดพิธีมุหัรร็อม  ก็ย่อมเป็นสิ่งที่อิสลามอนุญาติให้กระทำได้เช่นเดียวกัน  

หากพี่น้องอะฮ์ลุสซุนนะฮ์คนใดไม่ยอมรับ ก็เท่ากับเขาได้ปฏิเสธซุนนะฮ์ของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)
  •  

L-umar



มุหัรร็อม ตอน 23 :  

การจัดงานมัจญ์ลิสอาชูรอให้กับอิม่ามฮูเซนโดยเฉพาะ



بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

เราไม่ทราบว่า ทำไมมุสลิมบางส่วนจึงต้องมีอคติต่อพิธีมุหัรร็อม ทั้งๆที่มูลเหตุของงานนี้มีที่มาจากความเสียใจของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)  ตัวท่านเองได้เคยร้องไห้ล่วงหน้าให้กับหลานรักก่อนที่โศกนาฏกรรมนั้นจะเกิดขึ้น


ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า  ในอนาคตอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านจะถูกทำร้าย

อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน


عَنْ عَبْدِ اللهِ بْنِ مَسْعُوْد قَالَ بَيْنَمَا نَحْنُ عِنْدَ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم اِذًا أَقْبَلَتْ فَتِيْةٌ مِنْ بَنِيْ هَاشِمٍ فَلَمَّا رَآهُمْ اِغْرَوْرَقَتْ عَيْنَاهُ وَتَغَيَّرَ لَوْنُهُ قَالَ فَقُلْتُ يَا رَسُوْلَ اللهِ مَا نَزَالُ نَرَى فِيْ وَجْهِكَ شَيْئًا نَكْرَهُهُ فَقَالَ إِنَّا أَهْلُ بَيْتٍ اِخْتَارَ اللهُ لَنَا الْآخِرَةَ عَلَى الدُّنْيَا وَإِنَّ أَهْلَ بَيْتِيْ سَيُلْقُوْنَ بَعْدِيْ بَلاَءً وَتَشْرِيْدًا وَتَطْرِيْدًا        

ท่านอิบนุมัสอูดเล่าว่า :

ขณะที่พวกเราอยู่กับท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ทันใดนั้นมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งจากตระกูลฮาชิมตรงเข้ามาหา  พอท่านแลเห็นพวกเขา ดวงตาทั้งสองของท่านก็มีน้ำตานองหน้า ผิวท่านเปลี่ยนสี  

อิบนุมัสอูดเล่าว่า :  

พวกเรากล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ พวกเราสังเกตเห็นที่ใบหน้าท่านมีบางสิ่งที่เราไม่ชอบเลย  ท่านกล่าวว่า : แท้จริงพวกเราคืออะฮ์ลุลบัยต์ที่อัลลอฮ์ได้เลือกอาคิเราะฮ์แทนดุนยานี้ให้สำหรับเรา และแท้จริงอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน ในอนาคตหลังจากฉันจากไป พวกเขาจะต้องเผชิญกับภัยบาลา ถูกขับไล่และถูกเนรเทศกระจัดกระจายไปทั่ว


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ  ดูซิลาลุล ญันนะฮ์ เล่ม2    หะดีษที่ 1499  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี



عن عَبْدِ اللَّهِ بْنِ مَسْعُودٍ رَضِىَ اللهُ تَعَالَى عَنْهُ قَالَ أَتَيْنَا رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم فَخَرَجَ إِلَيْنَا مُسْتَبْشِرًا يُعْرَفُ السُّرُوْرُ فِيْ وَجْهِهِ فَمَا سَأَلْنَاهُ عَنْ شَيْءٍ إِلاَّ أَخْبَرَنَا بِهِ وَلاَ سَكَتْنَا إِلاَّ إِبْتَدَأْنَا حَتَّى مَرَّتْ فَتِيْةٌ مِنْ بَنِيْ هَاشِمٍ فِيْهِمِ الْحَسَنُ وَالْحُسَيْنُ فَلَمَّا رَآهُمْ اِلْتَزَمَهُمْ وَانْهَمَلَتْ عَيْنَاهُ فَقُلْنَا يَا رَسُوْلَ اللهِ مَا نَزَالُ نَرَىْ فِيْ وَجْهِكَ شَيْئًا نَكْرَهُهُ فَقَالَ إِنَّا أَهْلُ بَيْتٍ اِخْتَارَ اللهُ لَنَا الْآخِرَةَ عَلَى الدُّنْيَا وَأَنَّهُ سَيَلْقَى أَهْلُ بَيْتِيْ مِنْ بَعْدِيْ تَطْرِيْدًا وَتَشْرِيْدًا فِي الْبِلاَدِ

ท่านอิบนุมัสอูดเล่าว่า :

พวกเราได้มาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ท่านออกมาพบพวกเราด้วยใบหน้าสุขใจ  เราถามท่านด้วยสิ่งใด ท่านก็ให้คำตอบ และเราไม่หยุด(สนทนา)เว้นแต่เราเริ่ม(สนทนาไปเรื่อยๆ) จนกระทั่งมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งจากตระกูลฮาชิมซึ่งในนั้นมี " ท่านฮาซันและฮูเซน " รวมอยู่ด้วยเดินผ่านมา พอท่านแลเห็นพวกเขา ดวงตาทั้งสองของท่านก็หลั่งน้ำตาออกมา  
พวกเรากล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ พวกเราสังเกตเห็นที่ใบหน้าท่านมีบางสิ่งที่เราไม่ชอบเลย
ท่านกล่าวว่า : แท้จริงพวกเราคืออะฮ์ลุลบัยต์ที่อัลลอฮ์ได้เลือกอาคิเราะฮ์แทนดุนยานี้ให้สำหรับเรา และแท้จริงอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน ในอนาคตหลังจากฉันจากไป พวกเขาจะต้องเผชิญกับการถูกขับไล่ถูกเนรเทศ กระจัดกระจายไปทั่วเมือง


สถานะหะดีษ :  เศาะหิ๊หฺ  ดูอัลมุสตัดร็อกอัลฮากิม  หะดีษที่ 8434  


หะดีษข้างต้น ท่านนบี(ศ)ได้กล่าวอย่างกว้างๆว่า  อะฮ์ลุลบัยต์ของท่านจะถูกทำร้าย ถูกขับไล่และท่านได้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจให้กับหลานรักทั้งสอง  ท่านจึงย้ำเตือนสติประชาชาติของท่านว่า อะฮ์ลุลบัยต์ของท่านคือ ผู้นำทางพวกเขาสู่สวรรค์

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : أَيُّهَا النَّاسِ قَدْ تَرَكْتُ فِيْكُمْ مَا إِنْ أَخَذْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُوْا : كِتَابَ اللهِ وَ عِتْرَتِيْ أَهْلَ بَيْتِيْ

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า :

โอ้ประชาชนทั้งหลาย ! แท้จริงฉันได้ทิ้งไว้ให้แก่พวกท่านถึงสิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้นแล้ว  พวกท่านจะไม่หลงทางโดยเด็ดขาด สิ่งนั้นคือคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และอิตเราะฮ์ของฉัน คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน


สถานะของหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ  ดูซอฮีฮุลญามิอิซ-ซ่อฆีร วะซิยาดะฮ์   โดยเชคอัลบานี   หะดีษที่ 4514  
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 24 :  

การจัดงานมัจญ์ลิสอาชูรอให้กับอิม่ามฮูเซนโดยเฉพาะ



بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

ท่านนบีมุฮัมมัดกล่าวว่า กลุ่มชนที่ชิงชังอาฆาตอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านมากที่สุดคือ ตระกูลอุมัยยะฮ์



قَالَ أَبُو سَعِيدٍ الْخُدْرِيُّ رَضِىَ اللهُ تَعَالَى عَنْهُ قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنَّ أَهْلَ بَيْتِيْ سَيَلْقَوْنَ مِنْ بَعْدِيْ مِنْ أُمَّتِيْ قَتْلاً وَتَشْرِيْدًا وَإِنَّ أَشَدَّ قَوْمِنَا لَنَا بُغْضًا بَنُوْ أُمَيَّة وَبَنُوْ الْمُغِيْرَةِ وَبَنُوْ مَخْزُوْمٍ
هَذَا حَدِيْثٌ صَحِيْحُ الْإِسْنَادِ وَلَمْ يُخْرِجَاهُ

ท่านอบูสะอีด อัลคุดรีเล่าว่า :

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า :

แท้จริงอะฮ์ลุลบัยต์ของฉันจะต้องเผชิญกับการถูกสังหารและถูกขับไล่ภายหลังจากฉันจากไป และแท้จริงหมู่ชนที่ชิงชังอาฆาตพวกเรามากที่สุดคือ ตระกูลอุมัยยะฮ์ ตระกูลมุฆีเราะฮ์และตระกูลมัคซูม


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ ดูอัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม  หะดีษที่ 8638   ตามเงื่อนไขของท่านบุคอรีและมุสลิม


แม้ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ) ได้เตือนสติคนในตระกูลอุมัยยะฮ์เป็นพิเศษว่า จงระวังเรื่องสิทธิที่มีต่ออะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน   แต่ประวัติศาสตร์อิสลามได้ระบุชัดว่า คนในตระกูลอุมัยย์ได้แสดงตนเป็นปรปักษ์ศัตรูต่ออะฮ์ลุลบัยต์มาโดยตลอด
เราจะพบว่าตระกูลอุมัยยะฮ์มีปัญหาขัดแย้งกับท่านอะลีและบุตรชายทั้งสองของท่านคือท่านฮาซันและฮูเซน รวมทั้งตระกูลอะลาวี(ลูกหลานของท่านอะลี)  หรือว่า พวกตระกูลอุมัยยะฮ์ไม่เคยได้ยินหะดีษบทนี้

قَالَ رَسُوْلُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَنْ أَحَبَّهُمَا فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَبْغَضَهُمَا فَقَدْ أَبْغَضَنِي يَعْنِي حَسَنًا وَحُسَيْنًا
تعليق شعيب الأرنؤوط : إسناده قوي رجاله ثقات رجال الشيخين

ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ)กล่าวว่า :

บุคคลใดให้ความรักต่อเขาทั้งสอง เท่ากับเขามีความรักต่อฉัน และบุคคลใดชิงชังเป็นศัตรูกับเขาทั้งสอง ก็เท่ากับเขาแสดงความเป็นศัตรูกับฉัน หมายถึงฮาซันและฮูเซน


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ ดูมุสนัดอะหมัด หะดีษที่ 7863 ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ


หากมุอาวียะฮ์มีความรักต่อท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)จริง   เขาคงไม่ยกทัพไปรบกับท่านอิม่ามอะลีและอิม่ามฮาซัน

หากยะซีดบุตรมุอาวียะฮ์มีความรักต่อท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)จริง เขาคงไม่ส่งคนไปบังคับอิม่ามฮูเซนให้มอบสัตยาบันแก่เขาและจบลงด้วยการที่กองทหารยะซีดได้ปลิดชีวิตอิม่ามฮูเซนลงเพียงเหตุผลประการเดียวคือ อิม่ามฮูเซนไม่ยอมมอบบัยอะฮ์ให้กับเขา


จากพฤติกรรมของมุอาวียะฮ์และยะซีด ย่อมแสดงว่า เขาทั้งสองไม่ได้รักท่านนบีมุฮัมมัดจริง


สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นคือ

เราพบมุสลิมมากมายพยายามหาเหตุผลต่างๆนานามาปกป้องมุอาวียะฮ์และยะซีด  นั่นย่อมแสดงให้เห็นชัดว่า พวกเขามิได้มีความรักให้กับท่านฮาซันและฮูเซนเลย นอกจากเพียงลมปากเท่านั้นเอง  แล้วบุคคลเหล่านี้จะมาสนใจอะไรกับการจัดงานรำลึกนึกถึงฮูเซน บุคคลที่ท่านนบีมีความรักต่อเขา  
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 25 :  

คนแรกที่ร้องไห้แสดงความเสียใจ ให้กับอิม่ามฮูเซนคือใคร ?


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ


ตอบ
 
ท่านนบีมุฮัมมัดคือบุคคลแรกที่ร้องไห้และแสดงความเสียใจให้กับอิม่ามฮูเซน




ด้วยเหตุนี้เราจึงถือว่ามัจญ์ลิสอาชูรอนั้นเป็นซุนนะฮ์ที่ท่านนบีมุฮัมมัดทำไว้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชาติอิสลาม


อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน

قَالَ  : \\\" أَتَانِيْ جِبْرِيْلُ عَلَيْهِ الصَّلاَةُ وَ السَّلاَمُ , فَأَخْبَرَنِيْ أَنَّ أُمَّتِيْ سَتَقْتُلُ ابْنِيْ هَذَا( يَعْنِي الْحُسَيْن ) , فَقُلْتُ : هَذَا ? فَقَالَ : نَعَمْ , وَ أَتَانِيْ بِتُرْبَةٍ مِنْ تُرْبَتِهِ حَمْرَاء \\\"

ท่าน(นบีมุฮัมมัด)กล่าวว่า :

ท่านญิบรออีลได้มาหาฉัน เขาได้แจ้งข่าวกับฉันว่า แท้จริงประชาชาติของฉัน จะสังหารหลานชายของฉันคนนี้(หมายถึงฮูเซน) ฉันจึงถามว่า : เด็กคนนี้นะหรือ ? ท่านตอบว่า : ใช่แล้ว  และท่านได้มอบดินสีแดงให้กับฉัน(อุมมุลฟัฎลฺ)


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ ดูซิลซิละตุลอะฮาดีษิซ-ซอฮีฮะฮ์  หะดีษที่ 821  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี


ท่านต้องทราบก่อนว่า

เรื่องที่ท่านนบีมุฮัมมัดร้องไห้ให้กับการที่ฮูเซนจะถูกสังหารนั้นเป็นหะดีษมุตะวาติร  ซึ่งต่างกรรมต่างวาระด้วยกัน เริ่มตั้งแต่

วันแรกที่อิม่ามฮูเซนเกิด

หลังจากท่านฮูเซนเกิดครบเจ็ดวัน

ที่บ้านของท่านหญิงฟาติมะฮ์

ที่ห้องของท่าน

บนมิมบัร

และในระหว่างที่ท่านกำลังเดินทาง

 
บางครั้งท่านนบี(ศ)ร้องไห้อยู่คนเดียวและจุมพิตที่ลูกกระเดือกของท่านฮูเซน บางครั้งท่านจูบที่ริมฝีปากของท่านฮูเซน  คราใดที่ท่านนบีเห็นท่านฮูเซนดีใจ ท่านนบีจะร้องไห้ ยิ่งเมื่อท่านเห็นท่านฮูเซนเสียใจ ท่านนบีก็จะยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 26 :  

คนแรกที่ร้องไห้เสียใจให้กับอิม่ามฮูเซนคือใคร


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน

عَنْ اُمِّ سَلَمَة أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم قَالَ لَهَا : \\\" لَقَدْ دَخَلَ عَلَيَّ الْبَيْتَ مَلَكٌ لَمْ يَدْخُلْ عَلَيَّ قَبْلَهَا , فَقَالَ لَيْ : إِنَّ ابْنَكَ هَذَا : حُسَيْنٌ  مَقْتُوْلٌ وَ إِنْ شِئْتَ أَرَيْتُكَ مِنْ تُرْبَةِ الْأَرْضِ الَّتِيْ يُقْتَلُ بِهَا \\\" .

ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์เล่าว่า :

แท้จริงท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้เล่าให้นางฟังว่า : มี มลาอิกะฮ์ท่านหนึ่งได้เข้ามาพบฉัน ซึ่งท่านไม่เคยเข้ามาหาฉันมาก่อนเลย ท่านกล่าวกับฉันว่า :  แท้จริงฮูเซนหลานชายท่านคนนี้ จะถูกสังหาร  และหากท่านต้องการ(เห็น) ฉันจะให้ท่านได้เห็นดินจากแผ่นดินที่เขาจะถูกสังหาร


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ  ดูซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์   หะดีษที่  822  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี


วิเคราะห์สายรายงาน

เชคอัลบานีกล่าวว่า : สายรายงานหะดีษนี้ ซอฮี๊ฮฺ(ถูกต้อง)ตามเงื่อนไขของท่านเชคทั้งสอง(บุคอรีและมุสลิม) และท่านอัลฮัยษะมีกล่าวไว้ในมัจญ์มะอุซะวาอิด เล่ม 9 : 187  
ท่านอิม่ามอะหฺมัดก็ได้รายงานไว้ นักรายงานหะดีษนี้เป็นบุคคลที่ถูกต้อง หะดีษนี้ยังมีพยานอื่นอีกจากรายงานของท่านอะนัสเป็นต้น ซึ่งบันทึกอยู่ในมุสนัดอะหมัดเล่ม 3 หน้า 242 และ 265 รายงานอิมาเราะฮ์ บิน ซาดาน จากษาบิตได้เล่าให้เราฟัง อิมาเราะฮ์คนนี้เป็นคนเชื่อถือได้ ผิดพลาดมาก ตามที่กล่าวไว้ในหนังสือตักรีบุต-ตะฮ์ซีบ

ยังมีพยานหลักฐานอื่นๆอีกซึ่งเป็นรายงานของท่านอับดุลลอฮฺ  บินนุญัยย์ จากบิดาเขาเล่าว่า :
เขาได้ร่วมเดินทางมากับท่านอิม่ามอะลี... ท่านอะลีเล่าว่า วันหนึ่ง ฉันได้เข้ามาพบท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)  ในขณะที่ดวงตาทั้งสองของท่านมีน้ำตาเอ่อล้น ฉันจึงถามว่า โอ้ท่านนบีแห่งอัลลอฮ์ ใครทำให้ท่านโกรธ แล้วมีเรื่องอะไรดวงตาทั้งสองของท่านจึงหลั่งน้ำตาออกมา  ท่านกล่าวว่า หามิได้ แต่ก่อนหน้านี้ท่านญิบรีลพึ่งลุกออกไปจากฉัน เขาได้เล่าให้ฉันฟังว่า แท้จริงอัลฮูเซนนั้นจะถูกสังหารที่ริมฝั่งน้ำฟูรอต  สถานะหะดีษ : ฮาซัน (ดี) ดูมุสนัดอะหมัด หะดีษที่  613  เป็นหะดีษเดียวกับหะดีษของท่านหญิงอุมมุลฟัฏลฺ บินติหาริษได้เล่าไว้

เชคอัลบานีกล่าวว่า : ผู้รายงานหะดีษนี้ เชื่อถือได้ ยกเว้นนุญัย  อิบนุหะญัรกล่าวว่า : รายงานเขาถูกยอมรับ คือมันเป็นรายงานที่ติดต่อกันมา และอัลฮัยษะมียังกล่าวไว้ในมัจญ์มะอุซ-ซะวาอิด เล่ม 7 หน้า187 รายงานหะดีษนี้โดยอะหมัด,อบู ยะอ์ลา,อัลบัซซ้ารและอัต-ต็อบรอนี  ผู้รายงานหะดีษนี้ เชื่อถือได้ นุญัยไม่ได้รายงานหะดีษนี้เพียงคนเดียว จากนั้นหะดีษนี้ยังมีรายงานที่มาจากท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์และท่านอบูตุเฟล ซึ่งสายรายงานหะดีษนี้ ดี


อ้างอิงจากหนังสือ

ซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์ เล่ม 2 หะดีษที่ 822 เชคอัลบานีกล่าวว่าเป็นหะดีษเศาะหิ๊หฺ
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 27 :  

คนแรกที่ร้องไห้เสียใจให้กับอิม่ามฮูเซนคือใคร


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน

عَنْ أُمِّ الْفَضْلِ بِنْتِ الْحَارِثِ : أَنَّهَا دَخَلَتْ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ (ص) فَقَالَتْ يَا رَسُوْلَ اللهِ إِنِّيْ رَأَيْتُ حِلْمًا مُنْكَرًا الْلَيْلَةَ قَالَ مَا هُوَ قَالَتْ إِنَّهُ شَدِيْدٌ قَالَ مَا هُوَ قَالَتْ رَأَيْتُ كَأَنَّ قِطْعَةً مِنْ جَسَدِكَ قُطِعَتْ وَوُضِعَتْ فِيْ حِجْرِيْ فَقَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم رَأَيْتِ خَيْرًا تَلِدُ فَاطِمَةُ إِنْ شَاءَ اللهُ غُلاَمًا فَيَكُوْنُ فِيْ حِجْرِكِ فَوَلَدَتْ فَاطِمَةُ الْحُسَيْنَ فَكَانَ فِيْ حِجْرِيْ كَمَا قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم فَدَخَلْتُ يَوْمًا إِلَى رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم فَوَضَعْتُهُ فِيْ حِجْرِهِ ثُمَّ حَانَتْ مِنِّيْ اِلْتِفَاتَة فَإِذَا عَيْنَا رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم تَهْرِيْقَانِ مِنَ الدُّمُوْعِ
قَالَتْ فَقُلْتُ يَا نَبِيَّ اللهِ بِأَبِيْ أَنْتَ وَأُمِّيْ مَالَكَ قاَلَ أَتَانِيْ جِبْرِيْلُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم فَأَخْبَرَنِيْ أَنَّ أُمَّتِيْ سَتَقْتُلُ ابْنِيْ هَذَا فَقُلْتُ هَذَا فَقَالَ نَعَمْ وَأَتَانِيْ بِتُرْبَةٍ مِنْ تُرْبَتِهِ حَمْرَاءَ
المُسْتَدْرَك الحاكم  حديث : 4818    هذا حديث صحيح على شرط الشيخين ولم يخرجاه


ท่านหญิงอุมมุลฟัฎลิ บินติลฮาริษเล่าว่า  :

นางได้เข้ามาพบท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) นางกล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ เมื่อคืนฉันฝันไม่ค่อยดีเลย  
ท่านถามว่า : อะไรหรือ ?   นางบอกว่า มันรุนแรงมาก
ท่านถามว่า : อะไรล่ะ ?  นางจึงเล่าว่า : อย่างกับเนื้อส่วนหนึ่งหลุดออกมาจากร่างท่าน ฉันจึงเก็บมาวางไว้ที่ตักฉัน

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า :  เธอฝันดี  ฟาติมะฮ์จะได้บุตรชาย อินชาอัลลอฮ์ เด็กคนนั้นจะอยู่ในตักเธอ   ต่อมาเมื่อท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้คลอดออกมาเป็นท่านฮูเซน  ปรากฏว่าเขาอยู่ในตักฉันจริงดังที่ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ทำนายไว้  
แล้ววันหนึ่งฉันเข้ามาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ฉันนำฮูเซนวางไว้บนตักท่าน  แล้วท่านได้ผิน ออกไปจากฉัน  ดวงตาทั้งสองของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา
ฉันจึงถามว่า : โอ้ท่านนบีแห่งอัลลอฮ์ ฉันขอเอาบิดามารดาฉันไถ่แทนท่าน เกิดอะไรขึ้นกับท่านกระนั้นหรือ ?    
ท่านตอบว่า : ท่านญิบรีลมาหาฉัน เขาบอกกับฉันว่า แท้จริงประชาชาติของฉัน  จะสังหารหลานชายของฉันคนนี้  
ฉันจึงถามว่า : เด็กคนนี้หรือ ?   ท่านตอบว่า : ใช่แล้ว   แล้วท่านได้มอบดินสีแดงก้อนหนึ่งให้กับฉัน



สถานะหะดีษ : ซอฮี๊ฮฺ
ดูอัลมุสตัดร็อกอัลฮากิม หะดีษที่ 4818   ตามเงื่อนไขของบุคอรีและมุสลิม
หนังสือและซิลซิละตุลอะฮาดีษิซ-ซอฮีฮะฮ์  หะดีษที่ 821  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี
  •  

L-umar


มุหัรร็อม ตอน 28 :  

คนแรกที่ร้องไห้เสียใจให้กับอิม่ามฮูเซนคือใคร


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน

أَخْبَرَنِيْ أَبُو الْقَاسِمِ الْحَسَنُ بْنُ مُحَمَّدٍ السُّكُوْنِيّ ، باِلْكُوْفَةِ ، ثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ عَبْدِ اللهِ الْحَضْرَمِيّ ، ثَنَا أَبُو كُرَيْبٍ ، ثَنَا أَبُو خَالِدٍ الْأَحْمَرُ ، حَدَّثَنِيْ رَزِيْنٌ ، حَدَّثَتْنِيْ سَلْمَى . قَالَتْ : دَخَلْتُ عَلَى أم سَلَمَةَ وَهِيَ تَبْكِي . فَقُلْتُ : مَايُبْكِيكِ ؟ قَالَتْ : (( رَايْتُ رَسُولَ اللهِِ - صلى الله عليه وسلم - ، تَعْنِي فِي الْمَنَامِ ، وَعَلَى رَاْسِهِ وَلْحِيَتِهِ التُّرَابُ . فَقُلْتُ : مَالَكَ يَارَسُولَ اللهِِ ؟ قَالَ : شَهِدْتُ قَتْلَ الْحُسَيْنِ انِفًا.)).

นางซัลมาเล่าว่า :

ฉันเข้ามาหาท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ ซึ่งท่านกำลังร้องไห้อยู่ ท่านจึงถามว่าอะไรทำให้ท่านร้องไห้หรือ ?
นางเล่าว่า : ฉันฝันเห็นท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ที่ศรีษะและเคราของท่านมีดิน  ฉันจึงถามว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ เกิดอะไรขึ้น  ?
ท่านตอบว่า : ฉันได้เห็นการตายของฮูเซนเมื่อสักครู่นี้  
   

สุนันติรมิซี  หะดีษที่ 3771, 4140  และอัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม หะดีษที่ 6848  


عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ نُجَيٍّ عَنْ أَبِيهِ أَنَّهُ سَارَ مَعَ عَلِيٍّ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ وَكَانَ صَاحِبَ مِطْهَرَتِهِ فَلَمَّا حَاذَى نِينَوَى وَهُوَ مُنْطَلِقٌ إِلَى صِفِّينَ فَنَادَى عَلِيٌّ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ اصْبِرْ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ اصْبِرْ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ بِشَطِّ الْفُرَاتِ قُلْتُ وَمَاذَا قَالَ قَالَ دَخَلْتُ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ذَاتَ يَوْمٍ وَعَيْنَاهُ تَفِيضَانِ قُلْتُ يَا نَبِيَّ اللَّهِ أَغْضَبَكَ أَحَدٌ مَا شَأْنُ عَيْنَيْكَ تَفِيضَانِ قَالَ بَلْ قَامَ مِنْ عِنْدِي جِبْرِيلُ قَبْلُ فَحَدَّثَنِي أَنَّ الْحُسَيْنَ يُقْتَلُ بِشَطِّ الْفُرَاتِ قَالَ فَقَالَ هَلْ لَكَ إِلَى أَنْ أُشِمَّكَ مِنْ تُرْبَتِهِ قَالَ قُلْتُ نَعَمْ فَمَدَّ يَدَهُ فَقَبَضَ قَبْضَةً مِنْ تُرَابٍ فَأَعْطَانِيهَا فَلَمْ أَمْلِكْ عَيْنَيَّ أَنْ فَاضَتَا

ท่านอับดุลลอฮ์ บินนุญัยย์จากบิดาเขาเล่าว่า :

เขาได้ร่วมเดินทางมากับท่านอิม่ามอะลี... เมื่อท่านมาถึงนัยนะวา (ชื่อหนึ่งของแผ่นดินกัรบาลา) ขณะที่ท่านกำลังมุ่งไปที่ซิฟฟีน ท่านอะลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุได้กล่าวด้วยเสียงอันดังว่า จงอดทนเถิด โอ้ อบาอับดิลลาฮ์ๆ(เป็นฉายาของท่านฮูเซน) ณ.ที่ริมฝั่งน้ำยูเฟรติส
ฉันถาม(บิดา)ว่า ท่านอะลีกล่าวสิ่งใด ?  (บิดาฉันกล่าวว่า ท่านอะลี) เล่าว่า วันหนึ่ง ฉันได้เข้ามาพบท่านนบี(ศ)   ในขณะที่ดวงตาทั้งสองของท่านมีน้ำตาเอ่อล้น ฉันจึงถามว่า โอ้ท่านนบีแห่งอัลลอฮ์ ใครทำให้ท่านโกรธ แล้วมีเรื่องอะไรดวงตาทั้งสองของท่านจึงหลั่งน้ำตาออกมา ?  
ท่านกล่าวว่า : หามิได้ แต่ก่อนหน้านี้ท่านญิบรีลพึ่งลุกออกไปจากฉัน เขาได้เล่าให้ฉันฟังว่า แท้จริงอัลฮูเซนนั้นจะถูกสังหารที่ริมฝั่งน้ำฟูรอต ท่านกล่าวว่า เอาไหมฉันจะให้ท่านได้ดมกลิ่นจากดินที่เขา(จะถูกสังหาร) ?  ท่านอะลีกล่าวว่า เอาครับ แล้วท่านได้ยื่นมือของท่านออกมาให้ ซึ่งท่านได้เก็บดินไว้กำหนึ่ง ท่านมอบดินนั้นให้ฉัน  ฉันจึงมิอาจสกัดกั้นน้ำตาเอาไว้ได้


มุสนัดอิหม่ามอะหมัด หะดีษที่  613

สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ  
ดูซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์  หะดีษที่  1171  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี
  •  

L-umar



มุหัรร็อม ตอน 29 :  

คนแรกที่ร้องไห้เสียใจให้กับอิม่ามฮูเซนคือใคร


بِسْمِ اللّـــــهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

หะดีษที่อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน

عَنْ عُرْوَةَ عَنْ عَائِشَةَ  قَالَتْ: دَخَلَ الْحُسَيْنُ بْنُ عَلِيٍّ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ (ص) وَهُوَ يُوْحَى إِلَيْهِ، فَقَالَ جَبْرَائِيْلُ : إِنَّ أُمَّتَكَ سَتُفْتَتَنَّ بَعْدَكَ وَتَقْتُلُ ابْنَكَ هَذَا مِنْ بَعْدِكَ، وَمَدَّ يَدَهُ فَأَتَاهُ بِتُرْبَةٍ بَيْضَاء، وَقَالَ : فِيْ هَذِهِ يُقْتَلُ ابْنُكَ، اِسُمُهَا الطَّفُّ، قَالَ : فَلَمَّا ذَهَبَ جَبْرَائِيْلُ، خَرَجَ رَسُوْلُ اللهِ (ص) إِلَى أَصْحَابِهِ وَالتُّرْبَةُ بِيَدِهِ ـ وَفِيْهِمْ : أَبُوْ بَكْرٍ، وَعُمَر، وَعَلِيٌّ، وَحُذَيْفَة، وَعُثْمَان، وَأَبُوْ ذَر ـ وَهُوَ يِبْكِي، فَقَالُوْا: مَا يَبْكِيْكَ يَا رَسُوْلَ اللهِ ؟ فَقَالَ : «أَخْبَرَنِيْ جَبْرَائِيْلُ : أَنَّ ابْنِي الْحُسَيْنَ يُقْتَلُ بَعْدِيْ بِأَرْضِ الطَّفِّ، وَجَاءَنِيْ بِهَذِهِ التُّرْبَةِ، فَأَخْبَرَنِيْ أَنَّ فِيْهَا مَضْجَعَهُ ».  

كتاب : أَعْلاَمُ النُّبُوَّةِ  الباب الثاني عشر ص : 23  


ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า :

ท่านฮูเซน บุตรอะลีได้เข้ามาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ในขณะนั้นมีวะห์ยูมายังท่าน,  ท่านญิบรออีลกล่าวว่า : แท้จริงประชาชาติของท่านจะสร้างฟิตนะฮ์หลังจากท่านจากไป และพวกเขาจะสังหารหลานชายท่านคนนี้หลังจากท่านจากไป  ท่านญิบรออีลได้ยื่นดินสีขาวให้ท่านนบี และกล่าวว่า :

หลานชายของท่านจะถูกสังหารที่แผ่นดินนี้ มันมีชื่อว่า อัต-ต็อฟ  

เมื่อท่านญิบรออีลจากไป ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้ออกมาพบกับซอฮาบะฮ์ของท่าน ตอนนั้นมีท่านอบูบักร  อุมัร  อาลี  ฮุซัยฟะฮ์  อุษมาน  อบูซัร  มีดินอยู่ในมือท่านและท่านอยู่ในสภาพร้องไห้  บรรดาซอฮาบะฮ์จึงถามว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์อะไรทำให้ท่านร้องไห้หรือ ?  ท่านตอบว่า : ท่านญิบรออีลได้แจ้งให้ฉันทราบว่า : แท้จริงฮูเซนหลานชายของฉันนั้น จะถูกสังหารหลังจากฉันจากไปที่แผ่นดินชื่อต็อฟ  แล้วท่านยังนำดินที่นั่นมาให้ฉันด้วย ท่านบอกว่า ณ.ที่นั่นคือที่ตายของเขา(ฮูเซน)


อ้างอิงจากหนังสือ
อะอ์ลามุน-นุบูวะฮ์ โดยอัลมาวัรดี  บาบที่  12 หน้า 23
  •  

51 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้