Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 22, 2024, 08:10:23 หลังเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,703
  • หัวข้อทั้งหมด: 778
  • Online today: 102
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 46
Total: 46

อัลกุรอ่านกับอะฮ์ลุลบัยต์ 1

เริ่มโดย L-umar, สิงหาคม 21, 2009, 02:21:01 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


อัลกุรอ่านกับอะฮ์ลุลบัยต์ 1


ส่งเสริมให้ยึดมั่นต่อคัมภีร์อัลกุรอ่าน


بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ  الْحَمْدُ لِلَّهِ الَّذي نَزلَ الفرْقَانَ عَلَى عَبْده لِيكونَ لِلْعَالَمِينَ نَذِيراً
والصلاة والسلام على خير خلقه محمد وآله الطاهرين ، ولعنة الله على أعدائهم أجمعين  أما بعد :
 
โอ้พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย  พวกท่านคือประชาชาติที่ได้รับคัมภีร์อัลกุรอ่าน

اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلَا تَمُوتُنَّ إِلَّا وَأَنْتُمْ مُسْلِمُونَ

พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮฺอย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตายเป็นอันขาด นอกจากในสภาพที่พวกเจ้าเป็นมุสลิมีน
   
บทที่ 3 : 102

ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดทราบว่า  อัลเลาะฮฺ ญัลละญะลาล๊ะฮฺ ทรงมีบุญคุณเป็นอย่างยิ่งต่อบรรดามุอฺมิน พระองค์ได้ส่งนบีคนสุดท้ายมายังชาวโลกและได้ประทานอัลกุรอ่านเป็นคัมภีร์ฉบับสุดท้ายให้แก่รอซูลของพระองค์ เพื่อเป็นข้อชี้นำสำหรับมนุษยชาติ  จะได้นำพาพวกเขาออกจากความมืดสู่แสงสว่างด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ
   
อัลกุรอ่านคือคัมภีร์ที่มีทั้งเรื่องราวต่างๆทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต หากบุคคลใดแสวงหาทางนำอื่นจากคัมภีร์กุรอ่าน เขาก็ต้องหลงทาง และบุคคลใดยึดสิ่งอื่นจากคัมภีร์กุรอ่านเป็นสรณะ  เขาก็ต้องได้รับความตกต่ำ   คัมภีร์กุรอ่านคือเชือกที่มั่นคงแน่นเหนียว คือหนทางที่เที่ยงตรง  ผู้ศึกษาหาความรู้จากคัมภีร์กุรอ่านจะไม่มีวันอิ่ม และความมหัศจรรย์ของมันจะไม่มีวันหมดสิ้นไป ผู้กล่าวตามที่อัลกุรอ่านกล่าว เขาคือผู้พูดจริง ผู้ใช้อัลกุรอ่านตัดสินพิพากษา เขาคือผู้ยุติธรรม  อัลลอฮฺตะอาลาทรงให้สัญญาว่า จะตอบแทนความดีงามแก่ผู้ที่อ่านและปฏิบัติตามคัมภีร์กุรอ่าน และเขาคนนั้นจะไม่หลงทางในโลกนี้ และจะไม่พบกับความทุกข์โศรกในปรโลก  บุคคลใดทอดทิ้งคัมภีร์กุรอ่าน ไม่ใส่ใจและหลงลืมอัลกุรอ่าน เขาคนนั้นย่อมขาดทุนอย่างชัดเจนทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ


อัลลอฮ์ ตะอาลาทรงตรัสว่า

فَمَنِ اتَّبَعَ هُدَايَ فَلَا يَضِلُّ وَلَا يَشْقَى

แล้วผู้ใดปฏิบัติตามฮิดายะฮ์(คำแนะนำ)ของข้า  เขาก็จะไม่หลงผิด และจะไม่ได้รับความลำบาก

وَمَنْ أَعْرَضَ عَنْ ذِكْرِي فَإِنَّ لَهُ مَعِيشَةً ضَنْكًا وَنَحْشُرُهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ أَعْمَى

และผู้ใดผินหลังจากซิกรฺ(การรำลึก)ถึงข้า  แท้จริงสำหรับเขาคือ การมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้น และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮฺในสภาพของคนตาบอด

قَالَ رَبِّ لِمَ حَشَرْتَنِي أَعْمَى وَقَدْ كُنْتُ بَصِيرًا

เขากล่าวว่า  ข้าแต่องค์อภิบาลของฉัน  ทำไมพระองค์จึงทรงให้ฉันฟื้นขึ้นมาในสภาพของคนตาบอดเล่า  ทั้งๆที่ฉันเคยเป็นคนตาดี มองเห็น    

قَالَ كَذَلِكَ أَتَتْكَ آَيَاتُنَا فَنَسِيتَهَا وَكَذَلِكَ الْيَوْمَ تُنْسَى

(อัลลอฮฺ)ตรัสว่า  เช่นนั้นแหล่ะ เมื่อโองการทั้งหลายของเราได้มีมายังเจ้า เจ้าก็ทำเป็นลืมมัน และในทำนองเดียวกัน วันนี้เจ้าก็จะถูกลืม  

وَكَذَلِكَ نَجْزِي مَنْ أَسْرَفَ وَلَمْ يُؤْمِنْ بِآَيَاتِ رَبِّهِ وَلَعَذَابُ الْآَخِرَةِ أَشَدُّ وَأَبْقَى

และเช่นเดียวกัน เราจะตอบแทนผู้ที่ล่วงละเมิดขอบเขต และไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของพระผู้อภิบาลของเขา และแน่นอนการลงโทษในวันอาคิเราะฮฺนั้นรุนแรงยิ่งและยาวนาน

 
ซูเราะฮ์ตอฮา บทที่ 20 : 123-127



คุฏบะฮ์ครั้งสุดท้ายของท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)หลังกลับจากหัจญะตุลวิดาอฺ ณ. เฆาะดีรคุม

عَنْ أَبِي الطُّفَيْلِ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ :

อบู ฏุฟัยลฺ (ร.ฎ) เล่าว่า :  

لَمَّا دَفَعَ النَّبِيُّ صَلَّي اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم مِنْ حَجَّةِ الْوِدَاعِ وَنَزَلَ غَدِيْرَ خُمٍّ أَمَرَ بِدَوْحَاتٍ فَقُمِمْنَ
 
เมื่อท่านนบี(มุฮัมมัด ศ.)กลับจากการทำหัจญ์ครั้งสุดท้าย ท่านได้แวะพักที่เฆาะดีรคุม ท่านสั่งให้(พักตรง)ต้นไม้ใหญ่ แล้วให้กวาด(ลานให้สะอาด)  

ثُمَّ قَالَ : كَأَنِّيْ دُعِيْتُ فَأَجِبْتُ وَإِنِّيْ تَارِكٌ فِيْكُمُ الثَّقَلَيْنِ أَحَدَهُمَا أَكْبَرُ مِنَ الْآخَرِ :
 
จากนั้นท่านได้ปราศัยว่า : ดูเหมือนว่า ฉันถูกเรียก(กลับแล้ว) และฉันได้ตอบรับแล้ว แท้จริงฉันได้มอบไว้แก่พวกท่านสิ่งหนักสองสิ่ง สิ่งแรกใหญ่กว่าอีกสิ่งหนึ่งคือ

كِتَابُ اللهِ  وَعِتْرَتِيْ أَهْلُ بَيْتِيْ
   
1. คัมภีร์ของอัลเลาะฮฺ  และ 2. อิตเราะตี  คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  

فَانْظُرُوْا كَيْفَ تُخْلِفُوْنِيْ فِيْهِمَا
 
ดังนั้นจงดูเถิดว่า  พวกท่านจะขัดแย้งกับฉันในสองสิ่งนี้อย่างไร ?

فَإِنَّهُمَا لَنْ يَتَفَرَقَا حَتَّي يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ

เพราะแท้จริงสองสิ่งนี้จะไม่แยกจากกันอย่างเด็ดขาด จนกว่าทั้งสองจะกลับมาหาฉันที่อัลเฮาฎ์ (สระเกาษัร)
 
ثُمَّ قَالَ :  إِنَّ اللهَ مَوْلاَيَ وَأَنَا وَلِيُّ كُلِّ مُؤْمِنٍ
 
แล้วท่านได้กล่าวว่า : แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นเมาลา(ผู้คุ้มครอง)ของฉัน  และฉันเป็นวะลี(ผู้ปกครอง)ของผู้ศรัทธาทุกคน  

ثُمَّ إِنَّهُ أَخَذَ بِيَدِ عَلِيٍّ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ فَقَالَ :

จากนั้นท่านได้จับมือท่านอะลี ( ชูขึ้นเหนือศรีษะ ) แล้วกล่าวว่า :

مَنْ كُنْتُ وَلِيَّهُ فَهَذَا وَلِيَّهُ   اللّهُمَّ وَالِ مَنْ وَالاَهُ وَعَادِ مَنْ عَادَاهُ

บุคคลใดที่ฉันเป็นวะลี(ผู้ปกครอง)ของเขา  ดังนั้นอะลีก็เป็นวะลี(ผู้ปกครอง)ของเขา   โอ้อัลลอฮ์โปรดรักผู้ที่เป็นมิตรต่อเขา และโปรดชิงชังผู้ที่เป็นศัตรูต่อเขา  

سِلْسِلَةُ الْأَحَادِيْثِ الصَّحِيْحَةِ  مُحَمَّد نَاصِرُ الدِّيْنِ الأَلْبَانِيّ  
ج : 4 ص: 330  ح : 1750  نَوْعُ الْحَدِيْثِ : صَحِيْح


สถานะหะดีษ  :  เศาะหิ๊หฺ
ดู  ซิลซิละตุลอะฮาดีษิซ - ซอฮีฮะฮ์  เล่ม  4  : 330   หะดีษที่  1750  
ตรวจทานโดย เชคมุฮัมมัด นาศิรุดดีน  อัลบานี




ความโปรดปรานของอัลลอฮฺตะอาลาที่มีต่อปวงบ่าวของพระองค์คือ การประทานคัมภีร์อัลกุรอ่านนี้ลงมา   พระองค์ทรงตรัสว่า

يَا أَيُّهَا النَّاسُ قَدْ جَاءَتْكُمْ مَوْعِظَةٌ مِنْ رَبِّكُمْ وَشِفَاءٌ لِمَا فِي الصُّدُورِ وَهُدًى وَرَحْمَةٌ لِلْمُؤْمِنِينَ

โอ้มนุษย์เอ๋ย ! แท้จริงข้อตักเตือน(อัลกุรอ่าน)จากพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ได้มายังพวกท่านแล้ว และ(มัน)เป็นชิฟาอฺ(การบำบัด)สิ่งที่มีอยู่ในทรวงอก และเป็นฮูดา(ทางนำ)และเป็นเราะหฺมะฮ์(ความเมตตา)แก่บรรดามุอฺมิน

บทที่ 10 : 57

وَنَزَّلْنَا عَلَيْكَ الْكِتَابَ تِبْيَانًا لِكُلِّ شَيْءٍ وَهُدًى وَرَحْمَةً وَبُشْرَى لِلْمُسْلِمِينَ


และเราได้ประทานคัมภีร์แก่เจ้า เพื่อเป็นติ๊บยาน(ข้อชี้แจง)แก่ทุกสิ่ง และเพื่อเป็นฮูดา(ทางนำ)และเป็นเราะหฺมะฮฺ(ความเมตตา) และเป็นบุชรอ(ข่าวดี)แก่บรรดามุสลิม
บทที่ 3 : 102

قَدْ جَاءَكُمْ مِنَ اللَّهِ نُورٌ وَكِتَابٌ مُبِينٌ   يَهْدِي بِهِ اللَّهُ مَنِ اتَّبَعَ رِضْوَانَهُ سُبُلَ السَّلَامِ وَيُخْرِجُهُمْ مِنَ الظُّلُمَاتِ إِلَى النُّورِ بِإِذْنِهِ وَيَهْدِيهِمْ إِلَى صِرَاطٍ مُسْتَقِيمٍ

แน่นอน นูร(รัศมี)จากอัลลอฮฺและคัมภีร์มุบีน(อันชัดแจ้ง)ได้มายังพวกเจ้าแล้ว (ด้วยคัมภีร์นั้นแหละ) อัลลอฮฺจะทรงชี้นำทางผู้ที่ปฏิบัติตามริฎวาน(ความพึงพอพระทัย)ของพระองค์ ซึ่งคือสุบุลุสสะลาม(บรรดาทางแห่งความปลอดภัย) และจะทรงนำพวกเขาออกจากความมืดทั้งหลายไปสู่แสงสว่างด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ  และจะทรงฮิดายะฮฺ(นำทาง)พวกเขาสู่ศิรอตุลมุสตะกีม(ทางอันเที่ยงตรง )  
บทที่ 5 : 15-16

يَا أَيُّهَا النَّاسُ قَدْ جَاءَكُمْ بُرْهَانٌ مِنْ رَبِّكُمْ وَأَنْزَلْنَا إِلَيْكُمْ نُورًا مُبِينًا  
فَأَمَّا الَّذِينَ آَمَنُوا بِاللَّهِ وَاعْتَصَمُوا بِهِ فَسَيُدْخِلُهُمْ فِي رَحْمَةٍ مِنْهُ وَفَضْلٍ وَيَهْدِيهِمْ إِلَيْهِ صِرَاطًا مُسْتَقِيمًا

มนุษยชาติทั้งหลาย  แน่นอนได้มีบุรฮาน(หลักฐาน)จากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้ามายังพวกเจ้าแล้ว  และเราได้ให้นูร(แสงสว่าง)อันแจ่มแจ้งลงมาแก่พวกเจ้า
ส่วนบรรดาผู้ที่มีศรัทธาต่ออัลลอฮฺและยึดมั่นต่อพระองค์นั้น พระองค์จะทรงนำพวกเขาเข้ามาอยู่ในความเราะฆฺมะฮ์(เมตตา)และความโปรดปรานจากพระองค์  และจะทรงแนะนำพวกเขาซึ่งทางอันเที่ยงตรงไปสู่พระองค์
บทที่  4 : 174-175

إِنَّ هَذَا الْقُرْآَنَ يَهْدِي لِلَّتِي هِيَ أَقْوَمُ وَيُبَشِّرُ الْمُؤْمِنِينَ الَّذِينَ يَعْمَلُونَ الصَّالِحَاتِ أَنَّ لَهُمْ أَجْرًا كَبِيرًا

แท้จริง อัลกุรอ่านนี้ นำสู่ทางที่เที่ยงตรงยิ่ง และแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ประกอบความดีทั้งหลายว่า แท้จริงสำหรับพวกเขานั้นจะได้รับการตอบแทนอันยิ่งใหญ่
บทที่ 17 : 9

وَنُنَزِّلُ مِنَ الْقُرْآَنِ مَا هُوَ شِفَاءٌ وَرَحْمَةٌ لِلْمُؤْمِنِينَ وَلَا يَزِيدُ الظَّالِمِينَ إِلَّا خَسَارًا

และเราได้ให้ส่วนหนึ่งจากอัลกุรอ่านลงมา ซึ่งเป็นชิฟาอฺ(การบำบัด)และเป็นเราะหฺมะฮฺ(ความเมตตา)แก่บรรดาผู้ศรัทธา และมันมิได้เพิ่มอันใดแก่พวกซอลิม(อธรรม) นอกจากการขาดทุนเท่านั้น
บทที่ 17 : 82

قُلْ هُوَ لِلَّذِينَ آَمَنُوا هُدًى وَشِفَاءٌ وَالَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ فِي آَذَانِهِمْ وَقْرٌ وَهُوَ عَلَيْهِمْ عَمًى

จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) อัลกุรอ่านนั้นคือฮูดา(คำชี้นำ)และชิฟาอฺ(ยาบำบัด)สำหรับบรรดาผู้ศรัทธา  ส่วนบรรดาผู้ไม่ศรัทธานั้น อัลกุรอ่านจะทำให้หูของพวกเขาหนวก และตาของพวกเขาบอด
บทที่ 41 : 44

มีโองการอีกมากมาย ที่มีความหมายในเชิงส่งเสริมให้มุสลิมยึดมั่นต่อคัมภีร์อัลกุรอ่าน  ดั่งเช่นที่มีรายงานหะดีษจากท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)ได้สั่งเสียมุสลิมให้ยึดมั่นต่อกิตาบุลเลาะฮฺและอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านไว้เคียงคู่กัน

ดังที่ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ศ) กล่าวว่า

عَلِيٌّ مَعَ الْقُرْآنِ وَ الْقُرْآنُ مَعَ عَلِيٍّ لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلّيَّ الْحَوْضَ

อะลีอยู่กับอัลกุรอ่าน และอัลกุรอ่านอยู่กับอะลี  ทั้งสองจะไม่แยกจากกันอย่างเด็ดขาด จนกว่าทั้งสองจะกลับมาหาฉันที่อัลเฮาฎ์ (สระเกาษัร)

อัซ-ซะฮะบีกล่าวไว้ในหนังสืออัต-ตัลคีศว่า  : เศาะหิ๊หฺ
ดูอัลมุสตัดร็อก อะลัซ – ซ่อฮีฮัยนิ  โดยอัลฮากิม เล่ม 3 : 134 หะดีษที่ 4628


เพราะท่านอะลีและอะฮ์ลุลบัยต์นบีคือ ผู้ทำหน้าที่อรรถาธิบายคัมภีร์กุรอ่าน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมีชีวิตอยู่เคียงคู่กับคัมภีร์กุรอ่านตราบจนถึงวันกิยามะฮฺ

อะฮ์ลุลบัยต์คือ  อัลกุรอ่านที่มีชีวิต พวกเขาได้นำอัลกุรอ่านมาปฏิบัติเป็นตัวอย่างให้ประชาชาติอิสลามได้เห็นเป็นรูปธรรม  มุสลิมจะได้ตระหนักว่า การมีศรัทธาต่อคัมภีร์กุรอ่านอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ แต่จะต้องนำคำสั่งใช้คำสั่งห้ามของอัลลอฮฺมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันอีกด้วย จึงประสบความสำเร็จทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ

เพราะฉะนั้นขอเชิญชวนพี่น้องมุสลิมให้รีบพยายามนำคัมภีร์อัลกุรอ่านมาปฏิบัติ  โปรดอย่าได้รีรอหรือมีความกังขาใดๆเลยในคัมภีร์อัลกุรอ่านฉบับนี้

อะฮ์ลุลบัยต์คือผู้ที่รับเอาอัลกุรอ่านมาปฏิบัติ พวกเขาอ่านกุรอ่านโดยมีความเชื่อมั่นว่า อัลกุรอ่านคือพระดำรัสที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงตรัสกับพวกเขา โดยผ่านมาทางลิ้นของท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงถือธงแห่งอัลกุรอ่านนี้ไว้ทั้งคำพูดและการปฏิบัติ  พวกเขาได้ทำให้บรรดาศัตรูหวาดเกรง และพวกเขาได้เผยแผ่ความเป็นธรรมและสันติในโลกของอัลลอฮฺ

พวกเขาได้สืบทอดเจตนารมณ์ของท่านรอซูล(ศ) โดยได้นำพามนุษย์ออกจากการสักการะมนุษย์ด้วยกัน ไปสู่การอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺในฐานะพระเจ้าที่แท้จริง

พวกเขาได้นำพามนุษย์ออกจากความคับแคบของโลกไปสู่ความกว้างขวางของโลกนี้และโลกหน้า  พวกเขาได้ทำให้ความดีงามและความผาสุกทั้งหลายอุบัติขึ้นจริงสำหรับมนุษย์


พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย

วันนี้พวกเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสับสนโกลาหล  ทั้งความคิดและพื้นฐานต่างขัดแย้งและกระทบกระทั่งกัน จากนั้นก็เอานัฟซู(อารมณ์)มาเป็นตัวตัดสิน  คำถามและข้อคลุมเครือปรากฏขึ้นมากมายและท้าทายอยู่  มีผู้เชิญชวนไปสู่เรื่องบิดอะฮ์และเรื่องน่ารังเกียจกลาดเกลื่อน จนยากที่จะสลัดตัวให้หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายนัก แถมกำลังก็อ่อนแอไม่มั่นคง ชีวิตกำลังขาดความอบอุ่น จิตวิญญาณก็ขาดการปลอบประโลม สัญญาก็ยังไม่เป็นจริง เสถียรภาพก็ยังไม่บังเกิด ทั้งชายหญิงไม่อาจอยู่อย่างสงบสุขได้
นอกจากมุสลิมทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกประชาชาติ ทุกประเทศ  ทั้งบรรดาอุละมาอ์ตลอดจนประชาชนทั่วไป จะต้องมุ่งไปพึ่งพายังคัมภีร์อัลกุรอ่าน โดยทุกคนควรจะอ่านและไตร่ตรอง  ศึกษาทำความเข้าใจและนำไปปฏิบัติ


อัลกุรอ่านเปรียบเหมือน ตาน้ำอันใสบริสุทธิ์ ที่สามารถดับความกระหายของทุกคนได้   เราอยู่ในยุคที่มนุษย์โดยส่วนมากกำลังหันหลังให้กับคัมภีร์กุรอ่าน  


وَقَالَ الرَّسُولُ يَا رَبِّ إِنَّ قَوْمِي اتَّخَذُوا هَذَا الْقُرْآَنَ مَهْجُورًا

และรอซูลได้กล่าวว่า  โอ้องค์อภิบาลของฉัน  แท้จริงชนชาติของฉันได้ยึดเอาอัลกุรอ่านนี้เป็นที่ทอดทิ้งเสียแล้ว

บทที่ 25 : 30


ขออัลลอฮฺโปรดคุ้มครองมุอ์มินทั้งหลายให้พ้นจากการทอดทิ้งคัมภีร์กุรอ่านด้วยเถิด
  •  

L-umar


ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า

فَإِنَّ خَيْرَ الْحَدِيْثِ كِتَابُ الله وَخَيْرَ الْهَدْيِ هَدْيُ مُحَمَّدٍ وَشَرَّ الْأُمُوْرِ مُحْدَثَاتُهَا وَكُلُّ مُحْدَثَةٍ  بِدْعَةٌ وَكُلُّ بِدْعَةٍ ضَلاَلَةٌ

แท้จริงถ้อยคำที่ดีที่สุดคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์ แต่ทางนำที่ดีที่สุดคือ ทางนำของมุหัมมัด และบรรดาการงานที่ชั่วที่สุดคือ บรรดาสิ่งที่อุตริทำขึ้นมาใหม่(ไม่มีในชะเราะอ์-บทบัญญัติ) และทุกสิ่งที่อุตริทำขึ้นมาใหม่นั้น เป็นบิดอะฮ์ และทุกๆ บิดอะฮ์นั้น หลงทาง

ซอฮีฮุลบุคอรี หะดีษที่ 6735 และซอฮีฮุมุสลิม หะดีษที่ 1435
และอัลอะมาลี โดยเชคมุฟีด เล่ม 1 : 118 หะดีษที่ 14


แท้จริงความสูงส่ง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีและความเป็นผู้นำของมนุษย์ทั้งในโลกนี้และปรโลกนั้น อยู่ที่การยึดมั่นและปฏิบัติตามคัมภีร์อัลกุรอ่าน ตามที่รอซูลุลลอฮฺ(ศ)และอะฮ์ลุลบัยต์ได้กล่าวเอาไว้เช่น


ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า

إِنَّ اللَّهَ يَرْفَعُ بِهَذَا الْكِتَابِ أَقْوَامًا وَيَضَعُ بِهِ آخَرِينَ

แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงยกย่องหมู่ชนเพราะคัมภีร์นี้ และจะทรงลดเกียรติหมู่อื่นเพราะคัมภีร์(กุรอ่านนี้)

ซอฮีฮุมุสลิม หะดีษที่ 1934


ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า

خَيْرُكُمْ مَنْ تَعَلَّمَ الْقُرْآنَ وَعَلَّمَهُ

คนดีที่สุดของพวกท่าน คือผู้ที่เรียนอัลกุรอ่าน แล้วเขาได้สอนมัน(แก่ผู้อื่น)

ซอฮีฮุลบุคอรี หะดีษที่ 5027

ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า

اقْرَءُوا الْقُرْآنَ فَإِنَّهُ يَأْتِى يَوْمَ الْقِيَامَةِ شَفِيعًا لأَصْحَابِهِ

พวกท่านจงอ่านอัลกุรอ่าน เพราะแท้จริงในวันกิยามะฮ์ อัลกุรอานจะขอชะฟาอะฮ์ให้กับบรรดาผู้(อ่านอัลกุรอ่าน)

ซอฮีฮุมุสลิม หะดีษที่ 1910

ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า

مَنْ قَرَأَ حَرْفًا مِنْ كِتَابِ اللَّهِ فَلَهُ بِهِ حَسَنَةٌ وَالْحَسَنَةُ بِعَشْرِ أَمْثَالِهَا لاَ أَقُولُ الم حرْفٌ وَلَكِنْ أَلِفٌ حَرْفٌ وَلاَمٌ حَرْفٌ وَمِيمٌ حَرْفٌ

ผู้ใดอ่านหนึ่งอักษรจากกิตาบุลเลาะฮฺ สำหรับเขาคือหนึ่งความดีต่อการอ่านนั้น และความดีนั้นมีผลเพิ่มพูนสิบเท่าตัว  ฉันมิได้กล่าวว่า  อลีฟลามมีมคือหนึ่งอักษร แต่อลีฟคือหนึ่งอักษร  ลามคือหนึ่งอักษร และมีมคือหนึ่งอักษร  

สุนันตริมิซี  หะดีษที่ 3158


เพื่อให้ท่านทั้งหลายจะรับรางวัลอันยิ่งใหญ่ต่อการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านพร้อมทั้งศึกษาความหมายและอัสบาบุลนุซูล  เราจึงขอนำเสนอบทความ


(((((((((((((    อัลกุรอ่านกับอะฮ์ลุลบัยต์    ))))))))))))))))))))
  •  

46 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้