Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 28, 2024, 07:13:36 หลังเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 70
  • Online ever: 70
  • (วันนี้ เวลา 05:38:43 หลังเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 53
Total: 53

ฮะดีษเฮือกสุดท้าย สำหรับผู้ที่ยกหลักฐานอ้างอิงเรื่อง มุตอะฮ์สตรีคือสิ่งฮะร่าม

เริ่มโดย AdminSu, มกราคม 28, 2019, 08:20:53 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

AdminSu

ฮะดีษเฮือกสุดท้าย
สำหรับผู้ที่ยกหลักฐานอ้างอิงเรื่อง มุตอะฮ์สตรีคือสิ่งฮะร่าม

۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩

หลังจากที่การแอบอ้างเรื่องสั่งห้ามมุตอะฮ์สตรีในตำราซอฮิฮ์บุคอรีย์และซอฮิฮ์มุสลิมถูกทำลายลงไปด้วยเหตุผลต่างๆตามที่เราได้วิจารณ์ผ่านไปแล้ว 

จึงเหลือหลักฐานเฮือกสุดท้ายที่พวกเขาได้หยิบตำราฮะดีษอันดับที่ห้า(คือสุนันอิบนิมาญะฮ์)มาอ้างอิง

۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩

حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ خَلَفٍ الْعَسْقَلاَنِىُّ حَدَّثَنَا الْفِرْيَابِىُّ عَنْ أَبَانَ بْنِ أَبِى حَازِمٍ عَنْ أَبِى بَكْرِ بْنِ حَفْصٍ عَنِ ابْنِ عُمَرَ قَالَ

มุฮัมมัด บิน ค่อลัฟ อัลอัสก่อลานี → จากอัลฟิรยาบี →จากอะบาน บิน อบีฮาซิม →จากอบีบักร บิน ฮัฟซ์→ จาก

ท่านอิบนุอุมัร ได้เล่าว่า 

لَمَّا وَلِىَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ خَطَبَ النَّاسَ فَقَالَ

เมื่อท่านอุมัร บิน คอตตอบได้ปกครอง เขาได้คุตบะฮ์ต่อประชาชนว่า

إِنَّ رَسُولَ اللَّهِ (ص) أَذِنَ لَنَا فِى الْمُتْعَةِ ثَلاَثًا

ท่านรอซูล(ศ)ได้อนุญาตให้พวกเราในเรื่องมุตอะฮ์สตรี สามครั้ง

ثُمَّ حَرَّمَهَا وَاللَّهِ لاَ أَعْلَمُ أَحَدًا تَمَتَّعَ وَهُوَ مُحْصَنٌ إِلاَّ رَجَمْتُهُ بِالْحِجَارَةِ

ต่อมาท่านรอซูลได้ห้ามทำมุตอะฮ์  ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ฉันไม่รู้ว่ามีใครได้ทำมุตอะฮ์สตรีในขณะที่เขาคือผู้บริสุทธิ์ ยกเว้น ฉันจะขว้างเขาด้วยก้อนหิน

إِلاَّ أَنْ يَأْتِيَنِى بِأَرْبَعَةٍ يَشْهَدُونَ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ أَحَلَّهَا بَعْدَ إِذْ حَرَّمَهَا

ยกเว้น ถ้าใครนำพยานมาให้ฉัน สี่คน ว่า ท่านรอซูลได้ฮะลาลมุตอะฮ์ หลังจากที่ท่านรอซูลได้ห้ามมัน

ดูหนังสือ สุนัน อิบนิมาญะฮ์  ฮะดีษที่  2039

۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩۩

วิจารณ์ - 
ฮะดีษที่อิบนิมาญะฮ์นำออกรายงานเรื่องห้ามมุตอะฮ์สตรีนี้  เป็นเรื่องที่ไม่จริง ด้วยประการต่อไปนี้

1.ฮะดีษในตำราซุนนะฮ์เองได้อ้างว่า  ท่านรอซูล(ศ)ได้อนุมัติให้ทำมุตอะฮ์สตรี เกินสี่ครั้ง  ไม่ใช่แค่สามครั้ง หรือสามคืนเท่านั้น คืออย่างน้อยสี่-ห้าครั้งที่อนุญาตให้ทำ  แต่นี่ท่านอุมัรบอกว่าสามครั้ง

2.ท่านรอซูล(ศ)ไม่เคยออกฮุก่มว่า คนใดทำมุตอะฮ์สตรีต้องถูกขว้าง ดังนั้นคนทำมุตอะฮ์สตรีจะไม่ถูกขว้าง  แต่ท่านอุมัรได้ออกกฎใหม่ว่า คนทำมุตอะฮ์ต้องถูกขว้าง

3.สมมุติว่า ฮะดีษของท่านอุมัรบทนี้ ถูก(แค่สมมุตินะ) มันก็ไปขัดแย้งกับฮะดีษของท่านญาบิร , อิบนิมัสอู๊ด,อิบนิอับบาส,อิมรอน บิน ฮุซ็อยน์ และซอฮาบะฮ์คนอื่นๆอีกมากมาย ตามที่เราได้กล่าวไปแล้ว และจะนำมากล่าวใหม่ในคราวต่อไป

4.ท่านอุมัรได้อ้างถึงฮุก่ม(กฎ)หนึ่ง พาดพิงไปถึงท่านรอซูล(ศ)แค่เขาคนเดียว แต่ทำไมอุมัรกลับต้องให้ฝ่ายค้านกับเขานั้น ต้องมีเกินหนึ่งคน  เพราะความจริง แค่มีซอฮาบะฮ์หนึ่งคนได้มีรายงาน ตรงกันข้ามกับรายงานของอุมัร เพียงคนเดียวก็พอแล้ว และถือว่ารายงานของอุมัรเป็นอันตกไปจากความน่าเชื่อถือ ยิ่งโดยเฉพาะถ้าหลักฐานนั้นมาจากตำราฮะดีษที่น่าเชื่อถือกว่าอย่างเช่นซอฮิฮ์บุคอรีและมุสลิม ซึ่งจะได้นำเสนอในคราวต่อไป

5.ฮะดีษของท่านอุมัรบทนี้ บ่งบอกว่า การถือว่ามุตอะฮ์สตรีเป็นสิ่งฮะร่ามนั้น ไม่ใช่ตลอดกาล เพราะอุมัรพูดเองว่า((ยกเว้น ถ้าหากใครนำพยานมาให้ฉัน ถึงสี่คน ว่า ท่านรอซูลได้ฮะลาลมุตอะฮ์)) คำพูดของอุมัรนี้ได้แสดงว่า เขาก็ยังเฝ้ารออย่างหวั่นๆถึงการเป็นฮะล้าลของมุตอะฮ์อยู่ แค่มีพยานสี่คนจากซอฮาบะฮ์ด้วยกัน  และเราจะได้กล่าวในคราวต่อไป  ถึงรายงานฮะดีษของซอฮาบะฮ์ที่เป็นหลักฐานว่า มุตอะฮ์สตรียังคงเป็นสิ่งฮะลาล

6.สมมุติว่า รายงานของอุมัรนี้ถูก(แค่สมมุตินะ) นั่นแสดงว่า ท่านอุมัร ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลยว่า ท่านรอซูล(ศ)ได้เคยสั่งห้ามมุตอะฮ์สตรีถึงวันกิยามะฮ์มาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งท่านได้ทำหารคุตบะฮ์โดยยืนอยู่ระหว่างรุกน์กับมะกอมอิบรอฮีม ตามที่ซับเราะฮ์ บิน มะอ์บัดได้รายงานไว้เพียงคนเดียวเช่นกัน โดยไม่มีใครในกองทัพซอฮาบะฮ์ที่ไปพิชิตมักกะฮ์สักคนรายงาน  และต่อมาหลังจากพิชิตมักกะฮ์ ท่านรอซูล(ศ)ก็ได้อนุมัติให้ซอฮาบะฮ์ทำมุตอะฮ์สตรีได้อีก ทั้งๆในวันพิชิตมักกะฮ์ซับเราะฮ์ได้อ้างว่า มันถูกสั่งห้ามทำจนกิยามะฮ์ แต่หลังจากนั้นท่านรอซูล(ศ)ได้อนุญาตให้ทำอีก นั่นได้เผยให้เห็นที่ความมุสาของผู้เล่า(คือซับเราะฮ์) เพราะถ้าท่านรอซูล(ศ)สั่งห้ามยันวันกิยามะฮ์จริงๆ แล้วทำไมท่านยังมาอนุญาตให้ทำได้อีก  ก็เหมือนกรณีการเล่าของท่านอุมัร เพราะถ้าท่านรอซูล(ศ)สั่งห้ามจริงๆ ทำไมหลังจากอุมัรตาย ยังมีรายงานว่า ซอฮาบะฮ์คนอื่นๆยังถือว่า มุตอะฮ์สตรีคือสิ่งฮะล้าล  ประเด็นนี้สิน่าคิดเพราะมีซอฮาบะฮ์หลายคนสะด้วย 

7.ทำไมท่านอุมัรต้องสร้างเงื่อนไขว่า ต้องมีพยานถึงสี่คน มายืนยันว่า มุตอะฮ์สตรียังเป็นสิ่งฮะลาล หลังจากที่เขาออกปากอ้างไปแล้วว่ามุตอะฮ์คือสิ่งฮะร่าม ซึ่งความจริงมีพยานที่เชื่อถือได้แค่หนึ่งคนก็เพียงพอแล้ว  เพราะมันไม่ใช่เรื่องทำซีนาที่ต้องใช้พยานสี่คน อันที่จริงมันเป็นการยืนยันเรื่องฮุก่มชัรอีย์(บทบัญญัติศาสนา)หนึ่งว่า มันฮะลาล หรือ มันฮะร่าม   ทำไมเอาพยานมาแค่สองคนหรือสามคนไม่พอหรือ  ในเมื่อชาวซุนนะฮ์เชื่ออยู่แล้วว่า ซอฮาบะฮ์ทุกคนนั้นมีอะดาละฮ์  ขนาดฮุก่มเรื่องมรดกท่านนบี(ศ)คือซอดาเกาะฮ์เห็นมีคนยืนยันเรื่องนี้ว่าจริง แค่พยานคนเดียวเองยังยอมรับกันเลยนั่นคือท่านอบูบักร แต่พอเรื่องมุตอะฮ์ฮะลาลกลับมากำหนดว่าต้องมีพยานถึงสี่คน

8.คำพูดของท่านอุมัรที่ว่า((ยกเว้น ถ้าหากใครนำพยานมาให้ฉัน ถึงสี่คน ว่า ท่านรอซูลได้ฮะลาลมุตอะฮ์ หลังจากที่ท่านรอซูลได้ห้ามมัน)) ชี้ให้เห็นว่า ตัวอุมัรเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนักว่า ฮุก่มห้ามมุตอะฮ์สตรีนี้ยังคงดำเนินอยู่ต่ออีกหรือปล่าว  หรือชี้ให้เห็นว่า ตัวเขาก็ยังไม่มั่นใจนักว่า การห้ามนี้เป็นการห้ามที่ส่งผลถึงเรื่องฮะร่าม เพราะบางทีอาจเป็นการห้ามปรามในเชิงควบคุมบริหารเพื่อพิทักษ์สิทธิสตรี ที่ในไม่ช้าพอวาระการสมรสนี้ต้องหมดไประหว่างคู่สมรส ฝ่ายชายก็ต้องเดินทางจากสถานที่ๆไปรบกลับสู่บ้านเมืองของพวกเขา

นี่คือการวิจารณ์ แบบชวนใช้สมองคิดควบคู่ไปกับการที่เราจะนำหลักฐานจากฮะดีษและคำอธิบายของอุลามาอ์ซุนนะฮ์ มาพิสูจน์ถึงความเป็นโมฆะในรายงานของอิบนิมาญะฮ์บทนี้ในคราวต่อไป อินชาอัลลอฮ์ ตะอาลา
  •  

53 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้