Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 22, 2024, 08:19:35 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,698
  • หัวข้อทั้งหมด: 778
  • Online today: 13
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 60
Total: 60

Q4 วาฮาB 7 อัลลอฮ์วาฮาบีมีร่างที่ไม่ใช่เนื้อกระดูก

เริ่มโดย L-umar, มีนาคม 11, 2010, 05:41:38 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar

Q4 วาฮาB  7       อัลลอฮ์ของวาฮาบีมีร่างกาย แต่ไม่ใช่เนื้อและกระดูก


พวกท่านสามารถอธิบายคำพูดของเชคอิบนุอุษัยมีน  อันสับสนนี้ได้ไหม ?

ภาพเชค
http://www.3rbbox.com/article/images/3092009-c828c.gif

เชคอิบนุอุษัยมีนกล่าวในหนังสือ ชัรฮุลอะกีดะฮ์ วาซิตียะฮ์ของอิบนิตัยมียะฮ์ หน้า 250 ว่า


وَأَماَّ الْجِسْمُ فَنَقُوْلُ : ماَذاَ تُرِيْدُوْنَ بِالْجِسْمِ ؟ أَتُرِيْدُوْنَ أَنَّهُ جِسْمٌ مُرَكَّبٌ مِنْ عَظْمٍ وَلَحْمٍ وَجِلْدٍ وَنَحْوِ ذَلِكَ،

ส่วนกรณีเรื่องญิสม์(เรือนร่าง,ตัวตนของอัลลอฮ์)นั้นเราขอกล่าวว่า   พวกท่านต้องการ(จะให้ความหมาย)กับคำ " ญิสม์ "  (ร่าง,ตัวตน) ว่าอะไร     พวกท่านต้องการ(จะให้ความหมาย)ว่า  แท้จริงพระองค์(อัลลอฮ์)ทรงประกอบมาจากกระดูกและเนื้อหนังหรือสิ่งที่คล้ายๆกับสิ่งนี้กระนั้นหรือ

فَهَذاَ باَطِلٌ وَ مُنْتَفٍ عَنْ اللَّه, لِأَنَّ اللهَ لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

แบบนี้ถือว่า บาเต้ล(ผิด)และถูกปฏิเสธออกไปจากอัลลอฮ์  เพราะอัลลอฮ์ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์  และพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น

أَمْ تُرِيْدُوْنَ بِالْجِسْمِ ماَ هُوَ قاَئِمٌ بِنَفْسِهِ مُتَّصِفٌ بِماَ يَلِيْقُ بِهِ ؟ فَهَذاَ حَقٌّ مِنْ حَيْثُ الْمَعْنَى، لَكِنْ لاَنُطْلِقُ لَفْظَهُ نَفْياً وَلاَ إِثْباَتاً

หรือพวกท่านต้องการ(จะให้ความหมาย)กับคำ ญิสม์(ร่าง,ตัวตน)ว่าหมายถึง พระองค์ทรงดำรงอยู่ด้วยตัวของพระองค์เอง ผู้ทรงถูกอธิบายด้วยสิ่งที่คู่ควรกับพระองค์ ? ถ้าแบบนี้ถือว่า ถูกต้องตามความหมาย  แต่เราจะไม่เรียกคำ ญิสมุน (ج - س- م)สำหรับอัลลอฮ์ทั้งในเชิงปฏิเสธและยืนยัน




۩  Q4 วาฮาB

1. อิบนุอุษัยมีนปฏิเสธ  การที่อัลลอฮ์จะเป็นญิสม์(เรือนร่าง)จากร่างประเภทเดียวกันกับเราคือประกอบด้วยเนื้อและกระดูก  ขณะเดียวกันเขาก็บอกว่าหะดีษที่อัลลอฮ์ตะอาลาได้ทรงสร้างอาดัมมาบนรูปลักษณ์ของพระองค์นั้นซอฮี๊ฮ์ และพระองค์ทรงมีมือ ซึ่งมือของพระองค์นี้มีห้านิ้วตามที่บุคอรีรายงาน หรือมีหกนิ้วตามที่อิม่ามอะหมัดรายงานไว้ เช่นเดียวกันวาฮาบียังเชื่อว่าอัลลอฮ์ทรงมีอวัยวะอื่นๆอีกด้วย

พวกวาฮาบีจะแก้ไขความขัดแย้งนี้อย่างไรหรือ (ระหว่างที่เชื่อว่า อัลลอฮ์มีมือมีนิ้วและมีอวัยวะอื่นๆกับ ) หะดีษที่รายงานว่า อัลลอฮ์มีรูปร่างเป็นชายหนุ่มผมหยิก เพียงแต่ว่าญิสม์(ร่าง)ของพระองค์ไม่ได้มาจากเนื้อและกระดูก และไม่ได้ทำมาจากพลาสติกเป็นต้น ?

2.คำพูดของอิบนุอุษัยมีนนี้ หมายความว่าอะไร

أَمْ تُرِيْدُوْنَ بِالْجِسْمِ ماَ هُوَ قاَئِمٌ بِنَفْسِهِ مُتَّصِفٌ بِماَ يَلِيْقُ بِهِ ؟ فَهَذاَ حَقٌّ مِنْ حَيْثُ الْمَعْنَى، لَكِنْ لاَنُطْلِقُ لَفْظَهُ نَفْياً وَلاَ إِثْباَتاً

หรือพวกท่านต้องการ(จะให้ความหมาย)กับคำ ญิสม์(ร่าง,ตัวตน)ว่า หมายถึง พระองค์ทรงดำรงอยู่ด้วยตัวของพระองค์เอง ผู้ทรงถูกอธิบายด้วยสิ่งที่คู่ควรกับพระองค์ ? ถ้าแบบนี้ถือว่า ถูกต้องตามความหมาย  แต่เราจะไม่เรียกคำ ญิสมุน (ج - س- م)สำหรับอัลลอฮ์ทั้งในเชิงปฏิเสธและยืนยัน

หลังจากที่อิบนุอุษัยมีนได้ยืนยันไปแล้วว่า อัลลอฮ์ทรงมีญิสม์(ร่าง,ตัวตน)ตามความหมายนั้น  จุดยืนของเขาที่เรียกอัลลออ์ด้วยคำว่า " ญิสม์ " มันจะให้ประโยชน์อะไรกับเขา หรือการที่เขาจะปฏิเสธคำว่าญิสม์ออกไปจากพระองค์

ทำไมพวกอุละมาอ์วาฮาบีชอบนำคำที่ไม่คู่ควรแบบนี้มาใช้กับอัลลอฮ์ ?
  •  


faruq

ก็อบเค้ามาครับ

ผู้เล่าหะดีษได้กล่าวว่า เขาเคยได้ยินท่านอาลีได้กล่าวว่า "เราเป็นพระเนตรของอัลลอฮ เป็นพระหัตถ์ของพระองค์ เป็นพระวรกายทางด้านสีข้างของพระองค์ และเป็นทางผ่านไปสู่พระองค์" จากหนังสือ อุศูล อัล-กาฟีย์ หน้า 309
  •  

L-umar

วิจารณ์  

หะดีษดังกล่าวที่คุณฟารูกยกมา มีสะนัด  และตัวบทอาหรับดังนี้


مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ الْحُسَيْنِ عَنْ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ أَبِي نَصْرٍ عَنْ حَسَّانَ الْجَمَّالِ قَالَ حَدَّثَنِي هَاشِمُ بْنُ أَبِي عُمَارَةَ الْجَنْبِيُّ قَالَ سَمِعْتُ أَمِيرَ الْمُؤْمِنِينَ (ع) يَقُولُ :
أَنَا عَيْنُ اللَّهِ وَ أَنَا يَدُ اللَّهِ وَ أَنَا جَنْبُ اللَّهِ وَ أَنَا بَابُ اللَّهِ
                         كتاب الكافي ج : 1  ص :  145 ح 8
 

ข้อสังเกตที่สำคัญที่สุดทางด้านสะนัดคือ  นักรายงานที่ชื่อ


هَاشِمُ بْنُ أَبِي عُمَارَةَ الْجَنْبِيُّ

ฮาชิม  บิน อะบี  อุมาเราะฮ์  อัลญันบี   ไม่มีตัวตน




เราขอท้าให้ท่านไปค้นหาชีวประวัติของบุคคลผู้นี้ได้จากตำราริญาลชีอะฮ์ ดังต่อไปนี้
http://www.q4sunni.com/believe/index.php?option=com_kunena&Itemid=71&func=view&catid=2&id=2071

ถ้าท่านหาเจอ  แล้วช่วยมาบอกเราด้วย ว่าอยู่ในตำราริญาลชีอะฮ์เล่มใด ???

เอาแค่สั้นๆเท่านี้ก่อน  แล้วจะชี้แจงต่อให้มากกว่านี้   คุณฟารูกอย่าลืมตอบด้วยนะว่า
รอวีย์ชื่อ  ฮาชิม  บิน อะบี  อุมาเราะฮ์  อัลญันบี     มีตัวตนในตำราชีอะฮ์หรือปล่าว ?
  •  

L-umar

۩  หะดีษ


مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ الْحُسَيْنِ عَنْ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ أَبِي نَصْرٍ عَنْ حَسَّانَ الْجَمَّالِ قَالَ حَدَّثَنِي هَاشِمُ بْنُ أَبِي عُمَارَةَ الْجَنْبِيُّ قَالَ سَمِعْتُ أَمِيرَ الْمُؤْمِنِينَ (ع) يَقُولُ
 :
أَنَا عَيْنُ اللَّهِ وَ أَنَا يَدُ اللَّهِ وَ أَنَا جَنْبُ اللَّهِ وَ أَنَا بَابُ اللَّهِ

كتاب الكافي  للشيخ الكليني (259 – 329 هـ) ج 1 ص 145 ح 8  
تَحْقِيْقُ مَرْكَزُ الْبُحُوْثِ الْكومبيوترية لِلْعُلُوْمِ الْإِسْلاَمِيَّةِ  : ضَعِيْفٌ
 
 มุฮัมมัดบินยะห์(อัลอัตต็อร  ษิเกาะฮ์ )  -  มุฮัมมัดบินอัลฮูเซน ( ดออีฟ) – อะหมัดบินอะบีนัศริน – จากหัสซานอัลญัมมาล เล่าว่า – ฮาชิม บินอะบีอุมาเราะฮ์อัลญัมบีย์( มัจญ์ฮูลฮ้าลคือไม่มีตัวตน)เล่าว่า   ฉันได้ยินท่านอิม่ามอาลี(อ)กล่าวว่า

ฉันคือ  อัยนุลเลาะฮ์ คือยะดุลเลาะฮ์  คือญัมบุลเลาะฮ์ และคือบาบุลเลาะฮ์


สถานะหะดีษ  : ดดอีฟ  ดูหนังสืออัลกาฟี  โดยเชคกุลัยนี  เล่ม  1 : 145 หะดีษที่ 8  
ตรวจทานโดยมัรกัซบุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์  กุม อิหร่าน



Θ  พิเคราะห์สายรายงาน

1- مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى (العطار) ←
2- مُحَمَّدِ بْنِ الْحُسَيْنِ (بن أبي الخطاب) ←

3- أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ أَبِي نَصْرٍ ←
4- حَسَّانَ الْجَمَّالِ (حسان بن مهران الجمال) ←
5- هَاشِمُ بْنُ أَبِي عُمَارَةَ الْجَنْبِيُّ  ←
أَمِيرَ الْمُؤْمِنِينَ ← هو الامام علي بن أبي طالب  (ع)

►อัลลามะฮ์ มุฮัมมัด ซอและห์ อัลมาซินดะรอนี  เจ้าของหนังสือชะเราะห์อุซูลกาฟี  ได้วิจารณ์นักรายงานหะดีษบทนี้  ในหมายเลขลำดับที่  1 และ 2 ข้างต้นว่า

الشَّرْحُ : (مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ الْحُسَيْنِ) بْنِ أَبِي الْخَطاَّبِ
 
الْأَوَّلُ ثِقَةٌ جَلِيْلُ الْقَدْرِ مِنْ أَصْحَابِناَ، وَالثاَّنِيُّ  ضَعِيْفٌ،

الكِتاَبُ : شَرْحُ أُصُوْلِ الْكاَفِيِّ  ج 3 ص 4
الْمُؤَلِّفُ : مُولَّي مُحَمَّدٌ صَالِحٌ الْمَازِنْدَ رَانِيُّ

> คนแรก  ( คือมุฮัมมัด บินยะห์ยา)  เชื่อถือได้

> คนที่สอง (คือ มุฮัมมัด บินอัลฮูเซน บินอะบิลคอตตอบ )  ดออีฟ  (อ่อนแอในการรายงาน)  


ดูชัรฮุ อุซูลกาฟี  โดยมุลลามุฮัมมัด  ซอและห์ อัลมาซินดะรอนี  เล่ม  3 หน้า  4

เมื่อพิจารณาในด้านสะนัดของหะดีษบทนี้  จะเห็นได้ว่า  มีรอวีย์บางคนที่ไม่อยู่ในระดับที่เชื่อถือได้นั่นเอง


ต่อไปเราจะมาพิจารณา   ความหมายหะดีษบทนี้....
  •  

faruq

ฮะดิษที่ผมยกมาอยู่ในอัลกาฟีย์ใช่มั้ยครับ
และผมก็รู้ดีว่าท่านจะบอกว่ามันใช้การไม่ได้ โดยที่ท่านอาจจะบอกว่า
อัลกาฟีย์มีฮะดิษฎออิฟ 9,485  ฮะดิษ จาก 16,121  ฮะดิษ
และผมก็จะยกข้อความต่อไปนี้จากอุละมาของท่าน เช่น

ซัยยิด อัลฮัรรุลอามิลี ปราชญ์ชีอะฮฺผู้รวบรวมตำรา วะซาอิลุชชีอะฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า
: أصحاب الكتب الأربعة وأمثالهم قد شهدوا بصحة أحاديث كتبهم وثبوتها ونقلها من الأصول المجمع عليها , فإن كانوا ثقات تعين قبول قولهم وروايتهم ونقلهم
บรรดาผู้ประพันธ์ตำรา "กุตตุบอัรบะอะฮฺ" ของชีอะฮฺ ได้พิสูจน์แล้วว่า บรรดาหะดิษจากตำราเหล่านั้นคือหะดีษซอเฮี๊ยฮฺ!!! จากอูศูลทั้งหมดของชีอะฮฺซึ่งเห็นพ้องต้องกัน และหากท่านพิจารณาว่านักปราชญ์เหล่านั้น เชื่อถือได้ ดังนั้นท่านต้องยอมรับคำพูดและรายงานของพวกเขา (วะซาอิลุชชีอะฮฺ เล่ม 20 หน้า 104)

นูรีย์อัตต็อบรอซี ปราชญ์ชีอะฮฺผู้เชี่ยวชาญในอิลมุลริญาล(วิชาว่าด้วยผุ้รายงานกล่าวว่า)
الكافي بين الكتب الأربعة كالشمس بين النجوم , وإذا تأمل المنصف استغنى عن ملاحظة حال آحاد رجال السند المودعة فيه , وتورثه الوثوق , ويحصل له الاطمئنان بصدورها وثبوتها وصحتها
อัลกาฟีย์ ท่ามกลางตำราทั้ง 4 ก็ดุจดั่งดวงอาทิตย์ที่ดำรงอย่างเจิดจรัสท่ามกลางหมู่ดาว และบรรดาผู้ที่พิจารณาอย่างเป็นธรรมแล้ว จะไม่ต้องการพิจารณาสถานะบรรดาผู้รายงานในสะนัดของหะดีษในต่างๆในตำราเล่มนี้ (หมายถึงไม่มีความสงสัยใดๆต่อผู้รายงานในตำรานี้) (มุสตะร็อก อัลวะซาอิล อัตต็อบรอซีย์ หน้า 532 เล่ม 3)

ท่านชัยคฺ มุฟีดกล่าวไว้ว่า
الكافي وهو من أجل كتب الشيعة وأكثرها فائدة
อัลกาฟีย์คือ ตำราดีเยี่ยมที่สุดของชีอะฮฺและมีประโยชน์มากที่สุดต่อชีอะฮฺ

ซึ่งนี่เป็นแค่จำนวนหนึ่ง ผมมีเรื่องอยากถามแต่นึกออกว่าไม่มีประโยชน์จะตั้งคำถามกับท่านเพราะท่านบอกแล้วว่าไม่ตอบ
แต่ผมถามผู้อ่านกับคำถามเดียวที่ชะอะฮฺชอบถามซุนนะฮฺ ว่าผู้บันทึกฮะดิษของท่านคือท่านอัลกุลัยนีย์ ไม่รู้หรือว่ามันใช้การไม่ได้
และท่านจะให้ผมเชื่อหรือว่าผู้รู้ของท่าน ที่รับรองหนังสืออัลกาฟีย์รับรองมันโดยไม่ได้อ่านฮะดิษทั้งเล่ม เป็นไปได้มั้ยที่ระดับผู้รู้จะยกย่องหนังสือที่มีฮะดิษใช้การไม่ได้เกินครึ่งหนึ่งว่ามันยอดเยี่ยม แล้วมันคืออะไรกันแน่??

หากท่าน l-umar เลือกที่จะเชื่อว่าชาวซุนนะฮฺเชื่ออย่างนั้นอย่างนี้โดยยกหลักฐานมาตามแต่ท่านพอใจ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อว่าชีอะฮฺเป็นยังงั้นยังงี้ตามหลักฐานของท่านตามแต่ผมพอใจได้เช่นกัน

ผมรู้ว่าท่านจะบอกว่า มีผู้รู้ซุนนะฮฺรับรองฮะดิษที่ท่านยกมาว่าซอเฮี๊ยะ และผมก็จะบอกเช่นเดียวกันว่ามีผู้รู้ของท่านรับรองหนังสืออัลกาฟีย์ว่าเชื่อถือได้ตามที่ยกไปแล้วววว
  •  

L-umar

อ้าว  ...   ทำไมท่านฟารูก   รีบด่วนสรุปเรื่องราวเสียแล้วล่ะ



เรายังว่า  กันไม่จบเลย นะ   เกี่ยวกับความหมายของหะดีษบทนี้



หรือว่า   คุณฟารูก  ต้องการเพียงแค่ ยกมาให้ดูเฉยๆ   ก็ไหนเห็นอาการแสดงออกว่า   คุณอยากศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องราวของชีอะฮ์  จริงๆ  มิใช่รึ
  •  

faruq

เชิญ คุณ l-umar ว่าต่อไปครับ
เพราะผมก็เข้ามาอ่านตลอด ผมก็อยากรู้อยู่แล้วแต่คุณ i-umar บอกผมเองว่าอย่าไปรู้เลยเรื่องราวของพวกท่าน
เวลาผมถามคุณเองไม่ใช่เหรอว่าเวบมีไว้ถามไม่ได้มีไว้ตอบ แล้วจะให้ผมรู้ได้ยังไงครับ มีผู้ศึกษาคนไหนได้ปัญญาจากการฟังอย่างเดียวโดยไม่ตั้งข้อสงสัยและซักถาม แต่ช่างเถอะถือว่าผมผิดเชิญคุณ l-umar  อธิบายความหมายฮะดิษบทนั้นต่อครับ
  •  

L-umar

อย่าทำเป็นน้อยใจไปเลยน่า  เรื่องเล็กน้อย   เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า




ฝ่ายซุนนี่ก็พยายามยัดเยียดให้ชีอะฮ์ทั้งหมด   ยอมรับว่า    หะดีษในหนังสืออัลกาฟี    ซอแฮะฮ์   ทั้งหมด


ทั้งๆที่  เราก็ว่าไปตาม  วิชาการแล้วในการพิสูจน์อย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับ  ชีวประวัตินักรายงานหะดีษ  ว่า


คนไหน   เชื่อได้   คนไหนมีสถานะ   ดออีฟ ในการรายงานหะดีษ  แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า  คุณไม่ยอมรับเอง



ทีนี้ขอให้คุณลองย้อนกลับไปมอง   ตำราหะดีษ  ของฝ่ายคุณบ้าง


กล่าวคือ    หนังสือหะดีษสองเล่ม   ที่ชาวซุนนี่ทั้งโลกเชื่อว่า   มัน  ซอแฮะฮ์  ทั้งหมด  และยังเป็นตำรา รองลงมาจากคัมภีร์กุรอ่านอีกด้วย    ตามความเชื่อของอุละมาอ์ซุนนี่ทั้งหลาย


แต่คุณจะว่า  อย่างไร   เมื่อปรากฏว่า  


เชค  มุฮัมมัด   นาซิรุดดีน   อัลบานี    นักปราชญ์ที่เชี่ยวชาญด้านหะดีษ   เกิดออกมาฟัตวาว่า


ทั้งซอแฮะฮ์ บุคอรี และซอแฮะฮ์มุสลิม   มีหะดีษบางบท  ที่  ไม่ซอแฮะฮ์   กล่าวคือ  มัน  ดออีฟ


ตรงนี้    คุณฟารูก  ช่วยอธิบาย ที  


และยังมีนักปราชญ์ซุนนี่    คนอื่นๆอีกบางส่วนที่มีความเห็นเหมือนกันกับ  เชคอัลบานี  


แต่เราขอสนทนาแค่เรื่อง  เชคอัลบานี  ฟัตวาว่า   ซอแฮะฮ์บุคอรีและมุสลิม   มีหะดีษ  ดออีฟ   แค่นี้ก่อน


คุณจะอธิยายอย่างไร  ???  
     


   
  •  

L-umar

เชคอัลบานี   ฟัตวาว่า   ซอแฮะฮ์บุคอรีและมุสลิม   มีหะดีษ  ดออีฟ




และ

http://alimaklad.blogspot.com/2007/11/blog-post_12.html
  •  

L-umar

อยากเรียนถามคุณฟารูกหน่อยเถิดว่า  ชาวซุนนี่  เชื่อว่า  


อัลกะอ์บะฮ์   คือ  บัยตุลเลาะฮ์(บ้านของอัลลอฮ์)  ใช่ หรือไม่ ?

มัสญิดิลฮะรอม  คือ  บาบุลเลาะฮ์(ประตูบ้านของอัลลอฮ์)  ใช่หรือไม่ ?

และญัมบุลเลาะฮ์  คือ พระวรกายของอัลลอฮ์ ทางด้านสีข้างใช่หรือไม่ ?
  •  

L-umar

ในขณะที่อะฮ์ลุสซุนนะฮ์ทั้งโลกมีมติพ้องตรงกันว่า  (( ซอแฮะฮ์บุคอรี  และ ซอแฮะฮ์มุสลิม  ))  


เป็นกิตาบ(ตำรา)ถูกต้องที่สุด รองจากกิตาบุลลอฮ์ (คัมภีร์อัลกุรอ่าน)

ตามที่ท่านอิหม่าม นะวาวี  ได้กล่าวเอาไว้ว่า  

اتفق العلماء رحمهم الله على أن أصح الكتب بعد القرآن العزيز الصحيحان البخاري ومسلم وتلقتهما الامة بالقبول    ← شرح النووي على مسلم ج 1 / ص 14

บรรดาอุละมาอ์ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า   ตำราซอแฮะฮ์ทั้งสองคือบุคอรีและมุสลิมนั้นเป็นหนังสือที่ซอแฮะฮ์(ถูกต้อง)ที่สุด  รองจากคัมภีร์อัลกุรอ่าน  และบรรดาอุมมะฮ์ทั้งหมดก็ให้การยอมรับต่อตำราทั้งสอง(ตามนั้น)
อ้างอิงจาก  หนังสือชัรฮุนนะวาวีย์   เล่ม  1 หน้า  14



۩  วิจารณ์    จากคำพูดของอิหม่ามนะวาวีข้างต้น  เราได้รับเข้าใจดังนี้

1.   อุละมาอ์ซุนนี่มีมติเอกฉันท์ว่า   ซอแฮะฮ์บุคอรีและมุสลิมเป็นกิตาบที่ซอแฮะฮ์ที่สุดรองจากคัมภีร์กุรอ่าน  
2.   ชาวซุนนี่เอาวามทั้งหมดก็ให้การยอมรับว่า ซอแฮะฮ์บุคอรีและมุสลิมเป็นตำราซอแฮะฮ์ที่สุดรองจากคัมภีร์กุรอ่าน


นั่นหมายความว่า    สะนัดและมะตั่นหะดีษทุกบท  ขอย้ำว่าหะดีษทั้งหมดในตำราซอแฮะอ์ทั้งสอง  ตามความเชื่อของซุนนี่ทั้งระดับอาเล่มและเอาวามเชื่อว่า ถูกต้องที่สุด  อย่างชนิดที่เรียกได้ว่า   ไร้ข้อตำหนิใดๆทั้งสิ้น  โดยไม่ต้องสงสัย

แล้วคุณฟารูกจะให้คำตอบอย่างไร  เมื่อเชคอัลบานี ได้ออกมาแสดงหลักฐานว่า  มีหะดีษในตำราทั้งสองเล่มนี้   ไม่ซอแฮะฮ์  ???   อันนี้คุณต้องชี้แจง


ตรงนี้ต่างกับชีอะฮ์ เพราะเท่าที่พบ อาเล่มชีอะฮ์มักกล่าวว่า

كتاب الكافي وهو أصح الكتب الاربعة

อัลกาฟีเป็นกิตาบถูกต้องที่สุดจากกิตาบหะดีษทั้งสี่  คือ

1.   อัลกาฟี
2.   มันลายะห์ฎุรุฮุลฟะกีฮ์
3.   อัลอิศติบศ็อร และ
4.   อัตตะฮ์ซีบ



มีไหมที่อุละมาอ์ชีอะฮ์ได้กล่าวว่า  อุละมาอ์มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า   อัลกาฟีเป็นตำราซอแฮะฮ์ที่สุด  รองจากคัมภีร์อัลกุรอ่าน  

ขอย้ำว่า  มีชีอะฮ์คนใดเจาะจงกล่าวเช่นนี้ไหมว่า   อัลกาฟีซอแฮะฮ์ที่สุดรองจากอัลกุรอ่าน      

หากคุณฟารูกมีหลักฐานก็ช่วยนำเสนอด้วย  
 
  •  

faruq

ตรงนี้ต่างกับชีอะฮ์ เพราะเท่าที่พบ อาเล่มชีอะฮ์มักกล่าวว่า

كتاب الكافي وهو أصح الكتب الاربعة

อัลกาฟีเป็นกิตาบถูกต้องที่สุดจากกิตาบหะดีษทั้งสี่ คือ

1. อัลกาฟี
2. มันลายะห์ฎุรุฮุลฟะกีฮ์
3. อัลอิศติบศ็อร และ
4. อัตตะฮ์ซีบ

แน่นอนครับอัลกุรอานย่อมเป็นอันดับหนึ่ง(ไร้ข้อผิดพลาด) ตำราฮะดิษที่เชื่อถือได้ของท่านมี 4 เล่ม เล่มที่ถูกต้องที่สุดคืออัลกาฟีย์ เท่ากับว่าบรรดาหนังสือทั้งหมดที่ท่านมี อัลกาฟีย์ อยู่บนสุด แต่บนสุดของมันก็อยู่ใต้อัลกรุอาน แล้วความหมายมันจะต่างกันตรงไหนกับซอแฮที่สุดรองจากอัลกุรอาน
  •  

faruq

จากที่คุณ l-umar เกี่ยวกับฮะดิษของพวกท่านโดยเฉพาะอัลกาฟีย์ซึ่งถือว่าเหนือกว่ากิตาบฮะดิษทั้งหมด

ผมเข้าใจว่าหนังสืออัลกาฟีย์เป็นหนังสือที่ใช้ในการตัดสินปัญหาต่างๆในมัซฮับชีอะฮฺ(ผมเรียกมัซฮับเพราะผมไม่ถือว่าชีอะฮฺเป็นกาเฟร) ทีนี้ปัญหาคือว่า อัลกุลัยนี ซึ่งเป็นผู้บันทึกฮะดิษ มีชีวิตอยู่ในช่วงเดียวกับ ตัวแทนคนสุดท้ายของอิหม่ามมะดีย์มีชีวิตอยู่
ท่านปี เกิดฮ.ศ.260 เสียชีวิต ฮ.ศ. 329  ท่านใช้เวลา 20 ปีในการรวบรวมฮะดิษ และหนังสือบันทึกฮะดิษของท่านก็ถูกใช้ในการตัดสินปัญหาในมัซฮับชีอะฮฺมาตลอด เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของตำราชีอะฮฺ
 มาถึงประเด็นที่ผมสนใจ ในอัลกาฟีย์มีฮะดิษ 16,121 ฮะดิษ ผู้รู้ชีอะฮในยุคหลังบอกว่ามีฮะดิษ 9,485 ฮะดีษ และในจำนวนทั้งหมดยังมีฮะดิษปลอมอยู่อีกด้วย

ทางชีอะฮฺภาคภูมิใจและประกาศต่อชาวซุนนะฮฺมาตลอดว่าพวกท่านอยู่ในทางตรง อยู่ด้วยกับบรรดาอะลุลบัยต์ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาการศาสนามาจากท่านนบี นี่คือสิ่งที่ท่านบอกว่าเหนือกว่าชาวซุนนะฮฺอย่างยิ่งยวด แต่ปรากฏว่า ฮะดิษของพวกท่านที่บันทึกโดยคนร่วมสมัยกับตัวแทนอิหม่ามมะดีย์ มีฮะดิษอ่อนหลักฐานมากกว่าครึ่งทั้งยังมีฮะดิษเก๊อีก

แล้ว........ท่านจะแตกต่างกับชาวซุนนะฮฺตรงไหน
หากผมจะเข้าชีอะฮฺเพราะเชื่อว่าพวกท่านอยู่ในทางตรงกว่าวิชาการถูกต้องกว่าเพราะมาจากอะลุลบัยต์โดยตรง
แต่หนังสือที่บันทึกฮะดิษที่เป็นความภาคภูมิใจกลับมีฮะดิษที่ใช้ไม่ได้เกินกว่าครึ่ง และผู้ที่บอกว่ามันใช้การไม่ได้ก็เป็นนักวิชาการในยุคหลัง คือไม่ได้อยู่ร่วมสมัยกับอิหม่ามทั้งสิบสองท่าน ผมจะตอบตัวเองยังไงครับ ปัญหาก็กลับย้อนไปยังจุดเริ่มต้นสมัยหลังจากนบีวะฟาต พวกท่านบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่นบีจะไม่ได้มอบตัวแทนของท่านไว้ ซึ่งป้องกันการหลงทาง แต่เมื่อท่านได้ตัวแทนจากนบีมาถึงสิบสองท่าน กลับปรากฏว่าหนังสือที่ใช้ในการตัดสินปัญหามีฮะดิษใช้การไม่ได้แน่นเอี๊ยด แล้วภาคภูมิใจของท่านละครับ สิ่งที่ท่านอัลกุลัยนีทำ มันไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งที่ ท่านบุคอรี มุสลิม อะฮฺหมัด ฯลฯ ของฝ่ายซุนนะฮฺทำ ซึ่งฮะดิษของพวกเค้าก็มีทั้งใช้การได้และใช้การไม่ได้ มิหนำซ้ำฮะดิษที่ท่านอัลกุลัยนีบันทึกกลับมีฮะดิษอ่อนแอเกินกว่าครึ่ง ท่านพยายามบอกฝ่ายซุนนะฮฺมาตลอดว่าเดินทางผิด ส่วนพวกท่านเดินมาตรงและถูกทางแล้ว ................ทำไมคนที่เดินทางผิดกับทางถูกถึงได้มาบรรจบ ณ จุดเดียวกัน
ซึ่งผมเชื่อแน่ว่า อุละมาฮฺฝ่ายท่านก็ไม่ต่างจากอุละมาซุนนะฮฺ คือ ฮะดิษเดียวกัน แต่ให้สถานะฮะดิษต่างกัน แล้วคนยุคก่อนของท่านล่ะ ยุคที่หนังสืออัลกาฟีย์ยังไม่ได้แยกแยะฮะดิษไว้ในสถานะต่างๆ ท่านจะอธิบายยังไง แล้วมาตรฐานที่จะรับรองว่าสิ่งนั้นมาจากอะลุลบัยต์จริงๆอยู่ตรงไหนครับ
  •  

faruq

ทั้งฮะดิษของบุคคอรีและมุสลิม หากมันจะมีฮะดิษฎออีฟก็ไม่แปลก และผมก็เชื่อว่ามันมี เพราะคำว่ารองจากอัลกรุอานมันแปลว่าต้องมีข้อผิดพลาดไปในตัวอยู่แล้ว
ท่านอย่าได้สนใจเรื่องของบุคคอรีกับมุสลิมเลยหากมันจะมีฮะดิษปลอมฮะดิษเก๊ เพราะมันไม่ได้มาจากสายตรงอะลุลบัยต์อย่างที่พวกท่านบอก สิ่งที่ควรสนใจคือทำไมฮะดิษในกิตาบฮะดิษที่ชื่ออัลกาฟี ซึ่งท่านยอมรับว่ามันเหนือกว่าบรรดาหนังสือทั้งหมดของชีอะฮฺ มีฮะดิษอ่อนแอ และฮะดิษปลอมรวมกันเกินครึ่ง ทั้งๆที่พวกท่านก็บันทึกของท่านเอง ไม่ได้มีชาวซุนนะฮฺคนไหนบันทึกให้ ทั้งๆที่ผู้ที่อยู่ในมัซฮับชีอะฮฺได้รับการถ่ายทอดจากอะลุลบัยต์โดยตรง ตรงนี้ต่างหากที่น่าสนใจ
  •  

60 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้