เมื่ออำนาจชีอะฮ์เบ่งบานในอิรัก

[L-umar]

จันทร์เสี้ยวชีอะห์


การเปลี่ยนแปลงอำนาจในอิรัก บ่งบอกว่า ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในหลายประเทศแถบชาติอาหรับ


กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนตรัสถึงเรื่องนี้ว่าเป็นปรากฏการณ์ \\\"จันทร์เสี้ยวชีอะห์\\\"


ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ นักวิจัยสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า

หมายถึงภาวะหรือบทบาทหรืออำนาจ อิทธิพลของมุสลิมชีอะห์ที่เบ่งบานขึ้นในพื้นที่ส่วนหนึ่งในตะวันออกกลาง เช่น ปาเลสไตน์ ซีเรีย เลบานอน อิรัก

เหตุการณ์ที่ว่าเห็นได้ชัดเจนเมื่อปีที่ผ่านมา แม้จันทร์เสี้ยวชีอะห์เริ่มแผ่ขยายมาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วในเลบานอน หลังสงครามเลบานอนเมื่อกลางปี 2549 กลุ่มเฮซบัลเลาะห์ซึ่งเป็นมุสลิมสายชีอะห์ได้รับการชื่นชมจากชาวเลบานอน

ในอิรักยิ่งเห็นได้ชัดเจนถึงปรากฏการณ์นี้ หลังจากที่สหรัฐอเมริกาโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งเป็นมุสลิมสุหนี่ลงจากเก้าอี้ได้ กลุ่มชาวอิรักนิกายชิอะห์ก็ขึ้นเป็นรัฐบาลแทน

คำถามคือ จันทร์เสี้ยวชีอะห์จะทำให้เกิดอะไรขึ้นในโลกใบนี้

คำตอบคือมีผลทำให้เกิดความหวาดระแวง ความหวาดกลัวของรัฐอิสลามสุหนี่เพราะเป็นภาวะที่ตกอยู่ในอันตรายอันมีสาเหตุจากความไม่ไว้วางใจ ความแตกแยกระหว่าง 2 นิกายนี้ และที่น่ากลัวกว่าคือมหาอำนาจเข้ามาเป็นมือที่ 3


ย้อนกลับไปครั้งสงครามอิรักและอิหร่านที่ยาวนาน 8 ปี แม้ผลสงครามไม่มีฝ่ายใดชนะ แต่เชื่อว่าชาติที่ได้ประโยชน์จากการที่อิรักทำสงครามกับอิหร่านก็รวยจากการค้าอาวุธ

และชาติที่ว่าก็คือ   สหรัฐอเมริกา


ล่าสุดความวุ่นวายภายในเลบานอนและปาเลสไตน์ก็มาจากความไม่สมานฉันท์ระหว่างชีอะห์และสุหนี่ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสหรัฐเกี่ยวโยงด้วยทั้งสิ้น

แม้สหรัฐพยายามจะแสดงตนเป็นผู้ช่วยสงบศึก แต่วิธีการที่เข้ามานั้นทำให้การแบ่งแยกระหว่างนิกายชัดเจนยิ่งขึ้น

และอาจไม่เป็นผลดีกับสันติภาพ


อ้างอิงจากเวบ พลังจิต


http://www.iqna.ir/th/news_detail.php?ProdID=482460