Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 26, 2024, 08:06:37 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,718
  • หัวข้อทั้งหมด: 779
  • Online today: 15
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 12
Total: 12

25 ซุลฮิจญะฮ์ นุซูลซูเราะฮ์อินซานแก่อะฮ์ลุลบัยต์

เริ่มโดย L-umar, พฤศจิกายน 19, 2009, 03:02:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


25 ซุลฮิจญะฮ์  นุซูลซูเราะฮ์อินซานแก่อะฮ์ลุลบัยต์นบี





76. ซูเราะฮฺ อัลอินซาน



 

سورة الإنسان

بسم الله الرحمن الرحيم

هَلْ أَتَى عَلَى الْإِنْسَانِ حِينٌ مِنَ الدَّهْرِ لَمْ يَكُنْ شَيْئًا مَذْكُورًا (1) إِنَّا خَلَقْنَا الْإِنْسَانَ مِنْ نُطْفَةٍ أَمْشَاجٍ نَبْتَلِيهِ فَجَعَلْنَاهُ سَمِيعًا بَصِيرًا (2) إِنَّا هَدَيْنَاهُ السَّبِيلَ إِمَّا شَاكِرًا وَإِمَّا كَفُورًا (3) إِنَّا أَعْتَدْنَا لِلْكَافِرِينَ سَلَاسِلَ وَأَغْلَالًا وَسَعِيرًا (4) إِنَّ الْأَبْرَارَ يَشْرَبُونَ مِنْ كَأْسٍ كَانَ مِزَاجُهَا كَافُورًا (5) عَيْنًا يَشْرَبُ بِهَا عِبَادُ اللَّهِ يُفَجِّرُونَهَا تَفْجِيرًا (6) يُوفُونَ بِالنَّذْرِ وَيَخَافُونَ يَوْمًا كَانَ شَرُّهُ مُسْتَطِيرًا (7) وَيُطْعِمُونَ الطَّعَامَ عَلَى حُبِّهِ مِسْكِينًا وَيَتِيمًا وَأَسِيرًا (8) إِنَّمَا نُطْعِمُكُمْ لِوَجْهِ اللَّهِ لَا نُرِيدُ مِنْكُمْ جَزَاءً وَلَا شُكُورًا (9) إِنَّا نَخَافُ مِنْ رَبِّنَا يَوْمًا عَبُوسًا قَمْطَرِيرًا (10) فَوَقَاهُمُ اللَّهُ شَرَّ ذَلِكَ الْيَوْمِ وَلَقَّاهُمْ نَضْرَةً وَسُرُورًا (11) وَجَزَاهُمْ بِمَا صَبَرُوا جَنَّةً وَحَرِيرًا (12) مُتَّكِئِينَ فِيهَا عَلَى الْأَرَائِكِ لَا يَرَوْنَ فِيهَا شَمْسًا وَلَا زَمْهَرِيرًا (13) وَدَانِيَةً عَلَيْهِمْ ظِلَالُهَا وَذُلِّلَتْ قُطُوفُهَا تَذْلِيلًا (14) وَيُطَافُ عَلَيْهِمْ بِآَنِيَةٍ مِنْ فِضَّةٍ وَأَكْوَابٍ كَانَتْ قَوَارِيرَ (15) قَوَارِيرَ مِنْ فِضَّةٍ قَدَّرُوهَا تَقْدِيرًا (16) وَيُسْقَوْنَ فِيهَا كَأْسًا كَانَ مِزَاجُهَا زَنْجَبِيلًا (17) عَيْنًا فِيهَا تُسَمَّى سَلْسَبِيلًا (18) وَيَطُوفُ عَلَيْهِمْ وِلْدَانٌ مُخَلَّدُونَ إِذَا رَأَيْتَهُمْ حَسِبْتَهُمْ لُؤْلُؤًا مَنْثُورًا (19) وَإِذَا رَأَيْتَ ثَمَّ رَأَيْتَ نَعِيمًا وَمُلْكًا كَبِيرًا (20) عَالِيَهُمْ ثِيَابُ سُنْدُسٍ خُضْرٌ وَإِسْتَبْرَقٌ وَحُلُّوا أَسَاوِرَ مِنْ فِضَّةٍ وَسَقَاهُمْ رَبُّهُمْ شَرَابًا طَهُورًا (21) إِنَّ هَذَا كَانَ لَكُمْ جَزَاءً وَكَانَ سَعْيُكُمْ مَشْكُورًا (22) إِنَّا نَحْنُ نَزَّلْنَا عَلَيْكَ الْقُرْآَنَ تَنْزِيلًا (23) فَاصْبِرْ لِحُكْمِ رَبِّكَ وَلَا تُطِعْ مِنْهُمْ آَثِمًا أَوْ كَفُورًا (24) وَاذْكُرِ اسْمَ رَبِّكَ بُكْرَةً وَأَصِيلًا (25)
وَمِنَ اللَّيْلِ فَاسْجُدْ لَهُ وَسَبِّحْهُ لَيْلًا طَوِيلًا (26) إِنَّ هَؤُلَاءِ يُحِبُّونَ الْعَاجِلَةَ وَيَذَرُونَ وَرَاءَهُمْ يَوْمًا ثَقِيلًا (27) نَحْنُ خَلَقْنَاهُمْ وَشَدَدْنَا أَسْرَهُمْ وَإِذَا شِئْنَا بَدَّلْنَا أَمْثَالَهُمْ تَبْدِيلًا (28) إِنَّ هَذِهِ تَذْكِرَةٌ فَمَنْ شَاءَ اتَّخَذَ إِلَى رَبِّهِ سَبِيلًا (29) وَمَا تَشَاءُونَ إِلَّا أَنْ يَشَاءَ اللَّهُ إِنَّ اللَّهَ كَانَ عَلِيمًا حَكِيمًا (30) يُدْخِلُ مَنْ يَشَاءُ فِي رَحْمَتِهِ وَالظَّالِمِينَ أَعَدَّ لَهُمْ عَذَابًا أَلِيمًا (31)
  •  

L-umar


ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์  ผู้ทรงเราะห์มาน  ผู้ทรงเราะฮีม


  1. แน่นอนกาลเวลาที่ยาวนานได้เกิดขึ้นแก่มนุษย์ เมื่อเขามิได้เป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงเลย  

 
2. แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์จากน้ำเชื้อผสมหยดหนึ่ง เพื่อเราได้ทดสอบเขา ดังนั้นเราจึงทำให้เขาเป็นผู้ได้ยิน เป็นผู้ได้เห็น  

 
3. แท้จริงเราได้ชี้แนะแนวทางให้แก่เขาแล้ว บางทีเขาก็เป็นผู้กตัญญู และบางทีเขาก็เป็นผู้เนรคุณ (*1*)  

(1)  คือ เวลาอันยาวนานได้ผ่านพ้นไปโดยที่มนุษย์ยังมิได้ปรากฏเป็นตัวตนและมิได้ มีการกล่าวขวัญถึงกันเลย เพราะความไร้ค่า และความอ่อนแอของเขา อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงกล่าวถึงมนุษย์ว่า พระองค์ทรงสร้างเขามาจากน้ำที่น่ารังเกียจคือน้ำอสุจิ ซึ่งได้พุ่งออกมาจากกระดูกสันหลังของผู้ชาย เข้าไปผสมกับน้ำของผู้หญิงในมดลูกของเธอ และจากนั้นก็ได้กลายมาเป็นมนุษย์ผู้ประหลาด เพื่อเราจะได้ทดสอบเขาด้วยบัญญัติศาสนาข้อใช้ข้อห้ามเพื่อดูว่าเขาจะเป็นผู้กตัญญูหรือผู้ขอบคุณ และเราได้ให้เขามีสติปัญญา แยกแยะคือมีปราสาทฟังและเห็น ซึ่งหมายถึงการมีความเข้าใจและแยกแยะ และเราได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องและการหลงผิด ความดีและความชั่วด้วยการส่งบรรดาร่อซูลมา และประทานคัมภีร์ทั้งหลายเพื่อให้พิจารณาใคร่ครวญแล้ว  

 
4. แท้จริงเราได้เตรียมโซ่ตรวน และกุญแจมือ และไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (*1*)  

(1)  สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาผู้กระทำผิด เราได้เตรียมโซ่ตรวนไว้สำหรับมัดกับเท้าของพวกเขาและกุญแจมือล่ามไว้กับต้นคอ และโยนเข้าสู่กองไฟที่กำลังลุกโชติช่วง  

 
5. แท้จริงบรรดาผู้ทรงคุณธรรมนั้น จะได้ดื่มจากแก้วน้ำ ซึ่งผสมด้วยการบูรหอม  

 
6. เป็นตาน้ำพุที่ปวงบ่าวของอัลลอฮฺจะได้ดื่ม พวกเขาทำให้มันพวยพุ่งออกมาอย่างล้นเหลือ  

 
7. พวกเขาปฏิบัติตามคำสัตย์สาบาน และกลัวต่อวันหนึ่งที่ความชั่วร้ายของมันจะกระจายไปทั่ว (*1*)  

(1)  สำหรับบรรดามุอฺมินผู้ศรัทธา ผู้จงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ พวกเขาจะได้ดื่มเหล้าที่ผสมด้วยการบูรบรรจุไว้เต็มแก้ว ซึ่งเป็นน้ำที่มีกลิ่นหอมและมีค่ามากที่สุด การบูรเป็นชื่อของตาน้ำในสวนสวรรค์ไหลออกมาเป็นลำธารซึ่งบรรดาปวงบ่าวที่ดีคือผู้ศรัทธาและมีความยำเกรงใช้สำหรับดื่ม บรรดาปวงบ่าวที่มีลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา และสัตย์สาบานในการจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ ในการมีชีวิตของพวกเขานั้นมีความกลัวต่อวันชำระบุญบาป วันแห่งการลงโทษ ในวันนั้นความชั่วร้ายของมันจะแผ่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง  

 
8. และพวกเขาให้อาหารเนื่องด้วยความรักต่อพระองค์แก่คนยากจน เด็กกำพร้าและเชลยศึก  

 
9. (พวกเขากล่าวว่า) แท้จริงเราให้อาหารแก่พวกท่าน โดยหวังความโปรดปรานของอัลลอฮฺ เรามิได้หวังการตอบแทนและการขอบคุณจากพวกท่านแต่ประการใด  

 
10. แท้จริงเรากลัวต่อพระเจ้าของเราซึ่งเป็นวันแห่งหน้านิ่วคิ้วขมวดและแสนสาหัส (*1*)  

(1)  กระนั้นก็ดีปวงบ่าวผู้ศรัทธาเหล่านั้นยังได้ให้อาหารแก่คนยากจนอนาถาที่ปราศจากที่พึ่งอาศัยเด็กกำพร้าที่ไร้บิดาและเชลยศึกในยามสงคราม ทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็ยังมีความต้องการต่ออาหารเหล่านั้น "และพวกเขาให้สิทธิผู้อื่นก่อนตัวของพวกเขาเอง ถึงแม้ว่าพวกเขายังมีความต้องการอยู่มากก็ตาม" ความจริงเราได้ทำความดีแก่พวกท่านนี้ โดยหวังความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ เรามิได้หวังการตอบแทนหรือคำชมเชยใด ๆ จากท่านเลย และการที่เราทำเช่นนี้เราหวังว่าอัลลอฮฺจะทรงปกป้องเราให้พ้นจากความกลัวแห่งวันแสนสาหัสซึ่งใบหน้าจะบูดบึ้งคิ้วขมวดเพราะความตื่นตระหนก  

 
11. ดังนั้น อัลลอฮฺจะทรงปกป้องพวกเขาให้พ้นจากความชั่วร้ายของวันนั้น และจะทรงให้พวกเขาพบกับความสดชื่นและความปิติ  

 
12. และพระองค์จะทรงตอบแทนแก่พวกเขาด้วยสวนสวรรค์ และอาภรณ์ไหมแพรเนื่องเพราะพวกเขาอดทน (*1*)  

(1)  บุลคลเหล่านั้นอัลลอฮฺจะทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากความชขั่วร้ายของวันที่น่าหวาดกลัว และจะให้ใบหน้าของพวกเขาสดชื่นเบิกบานมีความปิติยินดีและจะทรงตอบแทนพวกเขา อันเนื่องมาจากความอดทนต่อความจงรักภักดีต่อพระองค์ ซึ่งสวนสวรรค์อันกว้างใหญ่ไพศาล และให้พวกเขาสวมใส่อาภรณ์ที่ทำด้วยไหมแพร  

 
13. นอนเอกเขนก อยู่บนเก้าอี้นวมยาวในสวนสวรรค์ พวกเขาจะไม่พบเห็นแสงอาทิตย์ และความเหน็บหนาว  

 
14. และร่มเงาของสวนสวรรค์จะปกคลุมพวกเขาอย่างใกล้ชิด และผลไม่ในสวนสวรรค์ถูกโน้มต่ำลงมาใกล้พวกเขา(*1*)  

(1)  ในสวนสวรรค์นั้นพวกเขาจะนอนเอกเขนกอยู่บนเตียง หรือเก้าอี้นวมยามที่ประดับด้วยผ้าชนิดพิเศษ และม่านอันตระการตา พวกเขาจะไม่พบกับความร้อนและความหนาว เพราะบรรยากาศพอประมาณไม่ร้อน ไม่หนาวจะมีลมเย็น ๆ พัดโชยอยู่ตลอดเวลา ร่มเงาของต้นไม้อยู่ใกล้ ๆ ตัวพวกเขา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีแสงแดดส่งมาเลย เมื่อเขาต้องการนจะกินผลไม้มันก็จะโน้มต่ำลงมาให้พวกเขาเก็บกินตามที่พวกเขาต้องการ  

 
15. และมีภาชนะที่ทำด้วยเงิน และแก้วน้ำที่ทำด้วยแก้วใสถูกวนเวียนรอบๆพวกเขา  

 
16. แก้วที่ทำด้วยเงินโดยพวกเขาจะเติมมันตามสัดส่วนที่พวกเขาต้องการ(*1*)  

(1)  คนรับใช้จะวนเวียนให้บริการแก่พวกเขาด้วยภาชนะที่ทำด้วยเงินมีสีขาวคล้ายไข่มุก และภาชนะที่ทำด้วยทองบริสุทธิ์ และแก้วน้ำหรือจอกน้ำที่ทำด้วยแก้วใสบางน่ารัก ภาชนะทุกอย่างที่ใช้บริการพวกเขานั้นจะบรรจุอาหารและเครื่องดื่มที่พอเหมาะพอสมควรตามสัดส่วน  

 
17. และในสวนสวรรค์นั้นพวกจะได้รับเครื่องดื่มจากแก้วซึ่งผสมด้วยขิง  

 
18. ในสวนสวรรค์มีตาน้ำพุที่มีชื่อว่า ซัลสะบีล(*1*)  

(1)  ในสวนสวรรค์พวกเขาจะได้รับบริการ เครื่องดื่ม คือ เหล้าผสมกับน้ำขิงที่มีกลิ่นหอมชวนดื่ม นอกจากนี้ยังมีตาน้ำพุที่มีชื่อว่า ซัลสะบีล เป็นตาน้ำที่มีรสอร่อย  

 
19. และมีเด็กวัยรุ่นวนเวียนรอบๆ พวกเขา เมื่อเจ้าเห็นพวกเขา เจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นไข่มุกที่เรียงราย  

 
20. และเมื่อเจ้ามองไปยังที่นั่นเจ้าจะพบแต่ความสุข และอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาล(*1*)  

(1)  ในสวนสวรรค์นั้นจะมีเด็กวัยรุ่นที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันไว้สำหรับบริการบรรดามุอฺมินผู้ศรัทธาเมื่อเจ้ามองเห็นพวกเขาเหล่านั้นเดินเรียงรายกระจายไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อบริการชาวสวรรค์ เจ้าจะคิดว่าเขาเหล่านั้นเป็นเสมือนไข่มุกที่เรียงรายเป็นภาพที่สง่างามตระการตา และเมื่อเจ้ามองออกไปเบื้องหน้าและรอบ ๆตัว เจ้าในสวนสวรรค์จะเป็นภาพลักษณ์ที่อบอุ่นและเบิกบานใจ มันเป็นความสุขที่ไม่อาจจะบรรยายเป็นตัวอักษรได้ ดังที่หะดีษกุดซีย์ได้กล่าวไว้ว่า "ข้าได้เตรียมไว้สำหรับปวงบ่าวที่ดีของข้า สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น หูไม่เคยได้ยิน และมิได้อยู่ในความคาดฝันของมนุษย์เลย"  



 
21. บนพวกเขามีอาภรณ์สีเขียวทำด้วยผ้าไหมละเอียด และผ้าไหมหยาบ และถูกประดับด้วยกำไลเงิน และพระเจ้าของพวกเขาจะทรงให้พวกเขาได้ดื่มเครื่องดื่มอันบริสุทธิ์ยิ่ง  

 
22. แท้จริงนี่คือ การตอบแทนแก่พวกเจ้า และการบากบั่นของพวกเจ้านั้นเป็นที่ยอมรับด้วยความยินดี (*1*)  

(1)  เครื่องแต่งตัวของพวกเขาเป็นแพรไหมสีเขียวแบบละเอียดและหยาบ และถูกประดับด้วยกำไลเงินกำไลทอง และกำไลที่ทำจากไข่มุก ตามความต้องการของพวกเขา และอัลลอฮฺจะให้พวกเขาใด้ดื่มเครื่องดื่มอันบริสุทธิ์ไม่เหมือนกับเครื่องดื่มที่ได้กล่าวมาแล้ว และนี้คือการตอบแทนต่อการอีมานของพวกเจ้า และการยำเกรงของพวกเจ้า ตลอดจนการกระทำของพวกเจ้าด้วยความอดทนนั้นเป็นที่ยอมรับและเป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮฺ  

 
23. แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานให้แก่เจ้าเป็นขั้นตอน  

 
24. ดังนั้น เจ้าจงอดทนคอยข้อตัดสินของพระเจ้าของเจ้า และอย่าเชื่อฟังผู้ประพฤติชั่ว และผู้ปฏิเสธศรัทธาคนใดในหมู่พวกเขา (*1*)  

(1)  เราได้ประทานอัลกุรอานนี้ให้แก่เจ้า โอ้มุฮัมมัดเอ๋ย เป็นขั้นตอนเพื่อให้เจ้าเตือนพวกเขาถึงสัญญาดีและสัญญาร้าย ดังนั้นเจ้าอย่าเบื่อหน่ายเสียใจ เจ้าจงอดทนและคอยฟังข้อตัดสินชี้ขาดของพระเจ้าของเจ้า จะต้องแก้แค้นให้แก่เจ้า เพื่อให้เจ้าพอใจด้วยการทำลายล้างพวกเขาไม่ช้าก็เร็ว เจ้าอย่าได้เชื่อฟังพวกมุชริกีนกุเรชเช่น อะบุณะฮฺล อุตบะฮฺ อิบนฺร่อบีอะฮฺ และอัลวะลีด อิบนุลมุฆีเราะฮิ อย่าไปเชื่อฟังข้อเสนอของพวกเขา  

 
25. และจงรำลึกถึงพระนามของพระเจ้าของเจ้าทั้งในยามเช้าและยามเย็น  

 
26. และจากส่วนหนึ่งของกลางคืนก็จงสุญดต่อพระองค์ และจงแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ ในยามกลางคืนอันยาวนาน(*1*)  

(1)  จงดำเนินหน้าที่เผยแผ่สัจธรรมของเจ้าต่อไปโดยอาศัยการละหมาด การตัสบีหฺ การซิกรุลลอฮฺ และการวิงวอน ขอดุอาอฺ ทั้งในยามเช้าและยามเย็นหมายถึงละหมาดศุบฮฺ ดุฮฺร และอัศรฺ ส่วนหนึ่งของกลางคืนหมายถึงละหมาดตะฮัจญุด เพราะการละหมาดเป็นการช่วยเหลือที่ดีแก่บ่าว  

 
27. แท้จริง ชนเหล่านี้ (พวกปฏิเสธศรัทธา) รักชีวิตชั่วคราว และปล่อยทิ้งวันอันหนักหน่วงไว้เบื้องหลังพวกเขา  

 
28. เราได้บังเกิดพวกเขา และเราได้ทำให้เรือนร่างของพวกเขามั่นคงแข็งแรง และหากเราประสงค์ เราก็จะเปลี่ยนพวกอื่นเยี่ยงพวกเขา  

 
29. แท้จริง นี่คือข้อตักเตือนสติ ดังนั้นผู้ใดต้องการก็ให้เขายึดแนวทางสู่พระเจ้าของเขา (*1*)  

(1)  คือพวกมุชริกีนเหล่านั้นเทิดทูนการมีชีวิตอยู่ในโลกดุนยาเหนือโลกอาคิเราะฮฺ พวกเขาดื่มด่ำอยู่กับอารมณ์ใฝ่ต่ำและตัณหาไม่สนใจใยดีต่อวันอันหนักหน่วงที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือวันกิยามะฮฺ เราได้บังเกิดพวกเขาจากไม่มีอะไรเลยและเราได้ทำให้เรือนร่างทุกส่วนของพวกเขามั่นคงแข็งแรงด้วยเดชานุภาพของเรา หากเราต้องการที่จะทำลายล้างพวกเขา เราก็จะเปลี่ยนพวกอื่นที่ดีกว่าพวกเขา ซึ่งจะเป็นบ่าวที่ดียิ่งจงรักภักดียิ่ง ในตอนท้ายของอายะฮฺนี้ประมวลไว้ด้วยข้อเตือนสติอย่างมาก ดังนั้น ผู้ใดประสงค์จะนำเอาไปทำประโยชน์และบทเรียนก็จงยึดเอาเป็นแนวทางแห่งการดำเนินชีวิตไปสู่ความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ตะอาลา พระเจ้าของเขา  

 
30. แต่พวกเจ้าจะไม่สมความปรารถนาได้ เว้นแต่ที่อัลลอฮฺ เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ  

 
31. พระองค์จะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์เข้าสู่ความเมตตาของพระองค์ แต่บรรดาผู้อธรรมนั้น พระองค์ทรงเตรียมการลงโทษอันเจ็บปวดไว้สำหรับพวกเขา (*1*)  

(1)  สิ่งที่พวกเจ้าปรารถนาในกิจการหนึ่งกิจการใดจะไม่เกิดขึ้นเว้นแต่ด้วยการกำหนดและพระประสงค์ของอัลลอฮฺ แม้แต่การจงรักภักดีและการยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้อง อิบนุกะซีร กล่าวว่า ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะฮิดายะฮฺให้แก่ตัวเองได้ และเขาจะไม่เข้าสู่การอีมาน และไม่อาจที่จะนำประโยชน์มาสู่ตัวเองได้ นอกจากด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮฺ ตะอาลา พระองค์ทรงรอบรู้สภาพต่าง ๆ ของปวงบ่าวของพระองค์ ทรงปรีชาญาณในการจัดระบบและการกระทำของพระองค์ ทรงรอบรู้ว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะได้รับฮิดายะฮฺแล้วพระองค์ก็จะทรงให้ความสะดวกง่ายดายในการฮิดายะฮฺให้แก่เขา และผู้ใดสมควรจะอยู่ในการหลงผิดก็จะทรงให้เขาได้รับความสะดวกที่จะประสบกับสาเหตุแห่งการหลงผิดแก่เขา พระองค์จะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์เข้าสู่สวนสวรรค์ และความโปรดปรานของพระองค์ตามพระประสงค์และเคล็ดลับของพระองค์ ผู้ที่ได้รับเกียรติอันนี้คือบรรดามุอฺมินผู้ศรัทธา ส่วนพวกมุชริกีนผู้อธรรมนั้นพระองค์ทรงจัดเตรียมการลงโทษอันเจ็บปวดยิ่งไว้สำหรับพวกเขาแล้วในนรกญะฮันนัม ซูเราะฮฺจบลงด้วยการชี้แจงถึงทางกลับของบรรดามุอฺมินผู้ยำเกรง และทางกลับของพวกปฏิเสธศรัทธาผู้กระทำผิด  
  •  

12 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้