Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

เมษายน 28, 2024, 06:49:49 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,625
  • หัวข้อทั้งหมด: 650
  • Online today: 65
  • Online ever: 153
  • (เมษายน 26, 2024, 05:40:09 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 68
Total: 68

กำเนิด ราชวงศ์ ซาอู๊ด กับ กำเนิด วาฮาบี

เริ่มโดย L-umar, ตุลาคม 07, 2009, 11:09:04 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


กำเนิดราชวงศ์ซาอู๊ด กับกำเนิดวาฮาบี



              ประวัติศาสตร์ประเทศซาอุดิอาระเบียเริ่มขึ้นประมาณปี 1950 ในใจกลางคาบสมุทรอาระเบีย เมื่อมุฮัมมัด บินซาอู๊ด Mahammad bin Saud ผู้นำท้องถิ่นได้ร่วมมือกับมุฮัมมัด บินอับดุลวาฮาบ Mahammad Abd Al-Wahhab  ผู้นำทางศาสนาก่อตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นมา

แต่ประเทศที่เป็นซาอุดิอาระเบียในปัจจุบันนั้นสถาปนาขึ้นโดย คิงอับดุลอะซีซ อัสซาอูด King Abd Al-Aziz Al-Saud (หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม อิบนิซาอูด Ibn Saud) ในปี 1902

อิบนิซาอูด Ibn Saud ได้ยึด ริย๊าด ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของราชวงศ์ซาอูดคืนมาจากพวก อัลรอชิด Al-Rashid ซึ่งเป็นศัตรูคู่แข่งของราชวงศ์ซาอูด

ต่อจากนั้น ก็ได้ยึดเมืองต่างๆ มาได้ ได้แก่ Al-Hasa Nejd และฮิญ๊าซ Hijzaz ในปี 1932 อิบนิซาอูดได้ทำการรวมประเทศขึ้นเป็นราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย
             
การเจรจาทำสนธิสัญญาแบ่งเส้นเขตแดนระหว่างซาอุดิอาระเบียกับจอร์แดน อิรัก และคูเวต มีขึ้นช่วงทศวรรษ 1920 และได้มีการจัดตั้ง \\\"neutral zones\\\" ขึ้นด้วยกัน 2 เขตคือ
ระหว่างซาอุดิฯ กับอิรัก และซาอุดิฯ กับคูเวต

ในปี 1971 ได้มีการแบ่งเขตเป็นกลางระหว่างซาอุดิฯ และคูเวต โดยให้แต่ละฝ่ายแบ่งทรัพยากรน้ำมันกันอย่างเท่าเทียมกัน
ส่วนการแบ่งเขตเป็นกลางระหว่างซาอุดิฯ กับอิรักได้เสร็จสิ้นลงในปี 1983 ทางด้านเขตแดนตอนใต้ที่ติดกับเยเมนนั้น
มีการเจรจาแบ่งเขตแดนโดยสนธิสัญญา Taif ในปี 1934 แต่ก็สิ้นสุดลงด้วยการสู้รบระหว่างสองประเทศ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เขตแดนระหว่างซาอุดิฯ
และเยเมนในบางพื้นที่ก็ยังมิได้แบ่งลงไปอย่างแน่ชัด ส่วนเขตแดนที่ติดกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตนั้นสามารถตกลงกันได้ในปี 1974
สำหรับเขตแดนกับกาต้าร์นั้นยังเป็นปัญหาอยู่

อิบนิซาอูดสิ้นพระชนม์ในปี 1953 และพระราชโอรสองค์โตคือเจ้าชายซาอู๊ด Saud ได้ขึ้นครองราชย์ต่อมาอีก 11 ปี

ในปี 1964 King Saud คิงซาอู๊ดได้สละราชสมบัติให้กับเจ้าชายฟัยซ็อล Faisal ซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาและดำรงตำแหน่งรมว.กต.อยู่
ด้วยกษัตริย์ฟัยซ็อล King Faisal เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียพัฒนาไปสู่ระบบที่ทันสมัย

ซาอุดิอารเบีย มิได้ส่งกำลังทหารเข้าร่วมรบในสงครามหกวันระหว่างอาหรับกับอิสราเอล แต่ได้ให้เงินช่วยเหลือรายปีแก่อียิปต์ จอร์แดน และซีเรียเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ ในช่วงสงครามอาหรับ - อิสราเอล ปี 1973 ซาอุดิฯ ได้เข้าร่วมการคว่ำบาตรทางน้ำมันต่อสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ในฐานะสมาชิกของ OPEC ซาอุดิฯ ได้ร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ขึ้นราคาน้ำมันในปี 1971

ภายหลังสงครามปี 1973 ราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากนำความมั่งคั่งและอิทธิพลทางการเมืองมาสู่ซาอุดิฯ
 
            ในปี 1975 King Faisal คิงฟัยซ็อลถูกลอบสังหารโดยหลานชายของพระองค์เอง คือคิงคาลิด King Khalid น้องชายต่างมารดาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์คนต่อมาและยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

คิงคาลิด King Khalid ได้แต่งตั้งเจ้าชายฟาฮัด Fahad น้องชายต่างมารดาของพระองค์เป็นมกุฎราช-กุมารและมอบหมายให้มีอำนาจให้ดูแลกิจการภายในประเทศและต่างประเทศ
ในรัชสมัยของคิงคาลิด King Khalid เศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบีย ได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและซาอุดิฯ ได้มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเวทีการเมืองในภูมิภาคและในเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ในปี 1982 คิงฟาฮัด King Fahad ได้ขึ้นครองราชย์และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนคิงคาลิด King Khalid ซึ่งสิ้นพระชนม์ลง

คิงฟาฮัด King Fahad ได้แต่งตั้งเจ้าชายอับดุลลาฮ์ Abdullah น้องชายต่างมารดาซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ Saudi National Guard ขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร

ส่วนเจ้าชายซุลตอน Sultan รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของคิงฟาฮัดได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่สอง

            ภายใต้รัชสมัยของพระราชาธิบดีฟาฮัด เศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย ได้ปรับสภาพให้เข้ากับรายได้จากน้ำมันซึ่งมีราคาตกต่ำลงอย่างมากอันสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งตกต่ำลงในช่วงสงครามอิรัก-อิหร่าน
ซาอุดิฯ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการให้มีการหยุดยิงระหว่างอิรัก-อิหร่านในปี 1988 และในการก่อตั้งคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศรัฐริมอ่าว 6 ประเทศ
           
ในระหว่างปี 1990-1991 พระราชาธิบดีฯ มีบทบาทสำคัญทั้งก่อนหน้าและระหว่างสงครามอ่าว (Gulf War) โดยพระองค์ได้ช่วยเป็นจุดศูนย์กลางในการระดมความสนับสนุนความช่วยเหลือ และได้ใช้อิทธิพลของพระองค์ในฐานะผู้พิทักษ์ฮะรอมัยน์ - มัสญิดอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแห่ง (Custodian of the Two Holy Mosques) ทรงชักชวนให้ประเทศอาหรับและอิสลามเข้าร่วมในกองกำลังผสมต่อต้านอิรัก
             ส่วนประวัติของราชวงศ์ซาอู๊ด ซึ่งเป็นราชวงศ์ปกครองของราชาอาณาจักรซาอุดิอาระเบียเป็นเวลาที่ดำเนินติดต่อกัน นับย้อนไปถึง 2 ศตวรรษ เริ่มตั้งแต่ปี 1744 กระทั่งถึงปี 1818 ถือว่าเป็นช่วงแรก
ช่วงที่สองนับตั้งแต่ 1824 ถึง 1891  และช่วงที่สามนั้นนับตั้งแต่ 1902 ติดต่อเรื่อยมาถึงช่วงปัจจุบัน        
       

อาลิ ซาอู๊ด (ราชวงศ์ซาอูด)  เป็นชื่อที่มาจาก ซาอูด บินมูฮัมหมัด บินมุกริน ผู้ดำรงชีวิตอยู่ในช่วงเริ่มศตวรรษที่ 18      
         
บุคคลแรกจากครอบครัวซาอู๊ด ที่ทำการปกครองในฐานะของผู้ปกครองแห่งเมือง อัด-ดัรอียะฮ คือ มูฮัมหมัด บินซาอู๊ด    ซึ่งเขาเข้าร่วมกองทัพกับ มุฮัมมัด บินอับดุลวาฮาบ ผู้นำศาสนาวาฮาบี
กลุ่มแนวร่วมกลุ่มนี้ถือได้ว่า เป็นแนวแรกของเชคมุฮัมหมัด บินอับดุลวาฮาบ



อ้างอิงจากเวบ

http://gotoknow.org/blog/54215/97875
  •  

68 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้