Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 22, 2024, 07:03:00 หลังเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,701
  • หัวข้อทั้งหมด: 778
  • Online today: 102
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 1
Guests: 61
Total: 62

ชีอะห์....! บุกหนัก เปิดแนวรุก ลุยภูเก็ต

เริ่มโดย L-umar, กุมภาพันธ์ 26, 2010, 02:52:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar

ชีอะห์....!  บุกหนัก เปิดแนวรุก ลุยภูเก็ต


สำนักข่าวมุสลิมไทย ชีอะห์....!ปรับกลยุทธ์ เปิดแนวรุก ลุยภูเก็ต...!
www.muslimthai.com



สำนักข่าวมุสลิมไทยดอทคอม

        ภูเก็ต - สมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน จัดสัมมนาวิชาการครั้งที่ 2 ที่โรงแรมเคป พันวา แอนด์สปา แหลมพันวา อ่าวมะขาม จ.ภูเก็ต โดยมี ฯพณฯ อยาตุลลอฮฺญะวาด มัรวีย์ ผู้ทรงคุณวุฒิและสมาชิกสภาคณาจารย์ศูนย์กลางการศึกษาศาสนาอิสลามแห่งเมืองกุม และฮุจญตุลอิสลามเชครอสฆู พิธีกรนักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ชื่อดังชาวอิหร่าน ร่วมถ่ายทอดวิชาการ มีนักเรียนเก่าไทย-อิหร่านจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้  170  คน



คณะกรรมการกลางอิสลามและตัวแทนผู้ว่าฯ ให้การต้อนรับ

      ในงานดังกล่าว นายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.ภูเก็ต ได้มอบหมายให้นายอภิชาต อินทรฤทธิ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ส.ต.อ.โกมล ดุมลักษณ์ กกอ.จ.ภูเก็ต นายบัณฑิต ไชยสิทธิ์ ผู้ช่วยกกอ.จ.ภูเก็ต นายมาโรจน์ ทองหย่น อิหม่ามมัสยิดบ้านป่าตอง ตลอดจนสมาชิกองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นและอิหม่ามอีกจำนวนหนึ่งมาร่วมเป็นเกียรติต้อนรับ ฯพณฯ อยาตุลลอฮฺญะวาด มัรวีย์ ในวันเปิดงาน
 


ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

       ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีนซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน และประธานสถาบันศึกษาอัล-มะห์ดีย์ กล่าวว่า.....การสัมมนาครั้งนี้ เป็นการปรับยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการคิดทางวิชาการ ให้เข้าใจอิสลามที่ถูกต้องและสมบูรณ์ เพราะตอนนี้ได้มีแนวคิดบางสำนัก นำปัญหามาสู่โลก เพราะอุดมการณ์และแนวคิดดังกล่าว คือการนำเสนออิสลามออกไปในรูปของความรุนแรง อย่างเช่น วิธีการของ อัล-กออิดะห์  


     แม้ว่าการเริ่มต้นของขบวนการนี้ จะเริ่มด้วยการเปิดฉากสงครามกับพวกยะฮูดีย์นัสรอนีย์ก็ตาม แต่เมื่อเวลาได้ผ่านไป เรากลับพบว่าพวกเขากลับนำมาทำร้ายมุสลิมเป็นกันเอง ก่อนหน้านี้ได้ดูข่าวทีวี. มีการระเบิดพลีชีพในมัสยิดของพี่น้องซุนหนี่ในปากีสถาน การระเบิดครั้งนี้ เป็นการกระทำของกลุ่มอัล-กออิดะห์ เพื่อตอบโต้การที่รัฐบาลปากีฯได้ช่วยเหลืออเมริกาปราบปรามกลุ่มฏอลีบาน ในปากีสถาน

      แต่พี่น้องที่กำลังละหมาดญุมอะห์อยู่ในมัสยิดหลังนั้น รู้เห็นเป็นใจอะไรบ้างกับรัฐบาลปากีฯ ที่ต้องมาถูกสังเวย จากการตอบโต้ของมุสลิมสุดโต่งกลุ่มนี้ และเรื่องราวในทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้วอย่างซ้ำๆ ในอัฟกานิสถาน อิรัก ซาอุดี้ ซีเรีย เลบานอน และในปากีฯ ทำไมมุสลิมกลุ่มนี้จึงต้องวางระเบิดพี่น้องมุสลิมด้วยกัน

     ก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะใช้ระเบิดพลีชีพมุสลิมชีอะห์ในอิรัก ซึ่งก็โอเค.พี่น้องมุสลิมซุนหนี่ก็อาจจะมองไม่เห็นความสำคัญ เพราะเป็นการวางระเบิดพี่น้องต่างมัซฮับ แต่ช่วงนี้มีการใช้ระเบิดพลีชีพในปากีฯในอัฟกันอย่างถี่ขึ้น นี่ถือว่าเป็นการฆ่าพี่น้องซุนหนี่กันเองโดยตรง

      การอบรมครั้งนี้จะเป็นการเสริมความรู้วิชาการอิสลาม ในการอ้าง ตอบโต้ ตีความ ตามหลักวิชาการของศาสนา เพื่อไปชี้แจงให้กับพี่น้องอะห์ลีย์ซุนนะห์ ซึ่งในตอนนี้ มีกลุ่มนักปราชญ์มุสลิมชั้นนำหลายท่าน ที่มีสายสัมพันธ์ทางสำนักคิดแบบฏอลีบาน ได้หันกลับออกมาจากแนวคิดนี้ มายืนหยัดตามแนวคิดของอิสลามแบบดั้งเดิม



    นี่คือเป้าหมายของเรา เพราะว่าโลกปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เอกภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ ชัยชนะของพี่น้องมุสลิมปาเลสไตน์ในกาซ่าครั้งที่ผ่านมาเป็นชัยชนะที่เกิดมาจากเอกภาพของมุสลิมทั้งโลก การเดินขบวนที่แพร่ขยายไปทั่วทั้งโลกโดยไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ อิสราเอลต้องยุติการโจมตี เพราะถ้ายังขืนทำสงครามต่อนี่ก็จะเสียกระบวนไปทั้งโลก การโจมตีกาซ่าของอิสราเอลในครั้งที่ผ่านมานี่ ทำให้ความเป็นปึกแผ่นของมุสลิม เป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วก็เริ่มมีการเปิดฉากสงครามทางวัฒนธรรมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเกิดมีความแตกแยกในคาบสมุทรอาหรับ มีการแบ่งแยกระหว่างอาหรับกับไม่ใช่อาหรับ ซึ่งในการประชุมที่โดฮา หรือการประชุมที่อียิปต์ มีการประกาศว่า "ปัญหาของชาวปาเลสไตน์เป็นปัญหาของชาวอาหรับ  คำพูดคำนี้เป้าหมายหลักก็เพื่อต้องการที่จะลดบทบาทของอิหร่านซึ่งไม่ใช่อาหรับ เมื่อก่อนศัตรูของมุสลิมนำการแบ่งแยกในเรื่องของนิกายมาเป็นเครื่องมือในการสร้างความเป็นศัตรูในหมู่ชาวมุสลิมด้วยกัน แต่ปัจจุบันศัตรูของอิสลามได้นำความเป็นชาติพันธุ์ เผ่าพันธุ์มาแบ่งแยกความเป็นปึกแผ่นของประชาชาติอิสลาม

   การล่มสลายลงของอาณาจักรอุสมานียะห์นี่ ล่มสลายลงจากการที่อังกฤษได้ปลุกระดมชาวอาหรับให้แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ ระหว่างเติร์กกับอาหรับ ชาวอาหรับจึงรับอาวุธจากอังกฤษเพื่อบ่อนทำลายอาณาจักรอุสมานียะห์หรืออ๊อตโตมานจนล่มสลาย ตอนนี้พวกนัสรอนีย์ ยาฮูดีย์ และบรรดาจักรวรรดินิยมตะวันตกได้ร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่งเบื่อบ่อนทำลายอิสลามและประชาชาติมุสลิม ผ่านขบวนการที่เป็นเครื่องของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว เราจึงต้องมาบอกกล่าวกับพี่น้องมุสลิมของเราว่าอย่าหลงกล

     เราจึงเริ่มอกไปเยี่ยมเยียนพี่น้องมุสลิมตามมัสยิดต่างๆ ในจ.ภูเก็ต ไปร่วมละหมาดวันศุกร์ไปร่วมพูดคุยสร้างความเข้าใจในความแตกต่างที่ไม่จำเป็นต้องแตกแยก ซึ่งพี่น้องมุสลิมในภูเก็ตก็ได้ให้การตอนรับอย่างอบอุ่น


     การที่จะสร้างความเป็นเอกภาพความเป็นปึกแผ่นในหมู่มุสลิม เราก็ต้องมองข้ามปัญหาต่างๆ ในเรื่องฟิกห์ หรือข้อปฏิบัติข้อปลีกย่อยที่เล็กๆ น้อยของเราออกไป เช่นเรื่องการละหมาดกอดอกหรือไม่กอดอก เรื่องนี้มันไม่สำคัญ เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้

     ส.ต.อ.โกมล ดุมลักษณ์ นายทะเบียนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า...ตนในนามคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ขอแสดงความยินดีที่สมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน ได้มาจัดประชุมสัมมนาที่นี่ นอกเหนือจากนี้ ทางคณะได้มาเยี่ยมเยียนมัสยิดต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สังคม วัฒนธรรม ให้ความรู้ในเรื่องศาสนา ร่วมบรรยายธรรมตามมัสยิดต่างๆ อีกด้วย


เชคอาบีดีน ฟิ้นดี้

     เชคอาบีดีน ฟิ้นดี้ อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน กล่าวว่า....การจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดครั้งที่ 2 เพื่อรวบรวมเพื่อนพ้องน้องพี่นักเรียนรุ่นแรกถึงรุ่นนี้ระยะห่างสักประมาณ 20 เห็นจะได้ เป้าหมายที่เด่นชัดของเราในการอบรมสัมมนาครั้งนี้ ก็คือการรักษาเอกภาพในหมู่มุสลิม เพราะฉะนั้นทุกอย่างก้าวของเราที่จะออกมาเราก็ต้องระมัดระวังประเด็นนั้น


     เพราะในวันนี้สิ่งที่ศัตรูของอิสลามอยากจะเห็นมากที่สุดก็คือ "ความแตกแยกกันในระหว่างชาวมุสลิม" ไม่ว่าในระดับชุมชนหมู่บ้าน ระดับจังหวัด ระดับประเทศ ความแตกแยกระหว่างประเทศ หรือความแตกแยกระดับโลก สิ่งนี้คือความต้องการสูงสุดของศัตรูอิสลาม

    เพราะฉะนั้นจุดมุ่งหมายของสมาคมฯ ก็คือความสามัคคีสมานฉันท์ระหว่างมุสลิม จะไม่สร้างความแตกแยกเป็นลำดับที่หนึ่ง อย่างที่สองจะต้องขจัดความแตกแยกให้ได้ ซึ่งถ้าเราสามารถทำทั้งสองอย่างได้ เราแทบจะไม่ต้องทำอะไรศัตรูของอิสลามก็จะต้องพ่ายแพ้ไปเอง


เชคกอซิม อัสการีย์

เลขาธิการสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่านและประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษากุรอานอัลรอซูลลุลอะอฺซอม กล่าวว่า....ทางสมาคมฯได้จัดการสัมมนาครั้งนี้ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนศาสนาที่ไปศึกษาที่ประเทศอิหร่าน ที่ห่างเหินวิชาการแขนงใหม่ได้กลับเข้ามาสู่สนามแห่งวิชาการ ได้เพิ่มพูนความรู้ทักษะ ความคิด ตลอดจนการค้นคว้าวิชาการให้ทันยุคทันสมัย
นี่คือเป้าหมายหลักที่สมาคมฯได้จัดการสัมมนาทางวิชาการครั้งนี้

    เพื่อพัฒนาให้มีความพร้อมในการชี้นำพี่น้องมุสลิมด้านวิชาการ จึงเปิดการอบรมในด้านจริยธรรมควบคู่ไปกับวิทยาการทางความรู้  ประเด็นทั้งหมดที่มีอยู่นี้ถือว่าเป็นการกลับสู่บรรยากาศของการเป็นนักศึกษาศาสนาอีกครั้ง หลังจากที่ได้กระจัดกระจายกันไปในหลายจังหวัดของประเทศไทย

   วันนี้เราได้มีโอกาสกลับมารวมตัวกันเพื่อวางนโยบายในการทำงาน นโยบายในการที่จะชี้นำพี่น้องของเราให้รู้จักกับอิสลามที่แท้จริง ตลอดถือว่าเป็นการผูกสัมพันธ์หรือสร้างมิตรภาพให้กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในหมู่นักศึกษาศาสนา นี่คือเป้าหมายโดยรวมของการจัดการสัมมนาครั้งนี้

   เราจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของอิสลาม ว่าวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราจะนำเสนออิสลามให้กับโลกได้ ซึ่งเราไม่ได้มองเหมือนกับคนอื่นว่าเราถูกต่อต้านอย่างเดียว

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสที่อิซบุลเลาะห์ได้รับชัยชนะ นั่นคือโอกาสที่เราจะนำเสนออิสลามให้กับสังคมโลกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเป็นคนไทยเราก็มีความสามารถที่จะทำงานด้วยการนำเสนอให้กับพี่น้องมุสลิมในเมืองไทย

     ทางคณะผู้สัมมนาได้ร่วมละหมาดที่มัสยิดแห่งต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากเสร็จสิ้นการละหมาด ทางคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดได้เรียนเชิญฯพณฯอยาตุลลอฮฺญะวาด มัรวีย์ กล่าว ปราศรัยหลังจากการละหมาด

   อยาตุลลอฮฺ มัรวีย์ กล่าวว่า...ท่านรู้สึกชื่นชมยินดีกับชาวภูเก็ตที่ได้เห็นความเข้มแข็งของพี่น้องมุสลิมและอิสลามในจังหวัดภูเก็ต เพราะจากข่าวที่ท่านได้รับรู้รับฟังเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต ก็คือความเสื่อมโทรมทางด้านวัฒนธรรม แต่หลังจากที่ท่านได้มาพบเห็นแล้ว กลับพบว่าที่นี่ยังมีพี่น้องมุสลิมที่ยังเคร่งครัดในเรื่องศาสนา มีมุสลิมมะห์ที่ยังคลุมฮิญาบ เจอพี่น้องมุสลิมที่ยังเคร่งครัดในเรื่องละหมาดเมื่อถึงเวลาละหมาด ภูมิใจที่มาเห็นวัฒนธรรมที่จะรักษาเอกลักษณ์ของอิสลามเอาไว้ถึงแม้ว่าจะมีการนำวัฒนธรรมตะวันตกโดยผ่านการท่องเที่ยวเข้ามาที่นี่ แต่ก็ไม่สามารถทำลายความศรัทธาที่มั่นคงของพี่น้องที่นี่ได้

     ในมัสยิดก็มีคนละหมาดวันศุกร์จนเต็ม และมีคนหนุ่มสาวที่ยังธำรงไว้ซึ่งหลักการของศาสนา ของให้พี่น้องได้ยืนหยัดในสิ่งเหล่านี้ไว้ตลอดไป


ผู้นำชีอะห์เยี่ยมเยีอนมุสลิมภูเก็ต

   พร้อมกับยังกล่าวต่ออีกว่า.....สิ่งที่เราจะต้องพึงระวังในตอนนี้ก็คือ ศัตรูของอิสลามต้องการที่จะแบ่งแยกระหว่างชีอะห์กับซุนหนี่ พยายามที่จะสร้างความแตกแยกระหว่างเรา

   ทั้งที่ความแตกต่างของชีอะห์ซุนหนี่ก็เหมือนกับความแตกต่างของฮานาฟีย์กับฮัมบาลีย์ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องของการละหมาด วิธีการละหมาด ในมัษฮับซุนหนี่ สำนักคิดมาลิกีย์เขาก็ไม่กอดอก แต่ชาฟีอีย์เขาก็กอดอก

    เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ควรที่มองหรือเก็บนำมาคิดให้เป็นประเด็นปัญหา ชีอะห์ซุนหนี่ก็เหมือนกันแตกต่างกันแค่เรื่องปลีกย่อยเท่านั้น เรามีอัลลอฮฺ(ซุบฮฺฯ)เป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน มีนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)เป็นศาสนทูตท่านเดียวกัน มีพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานเล่มเดียวกัน มีกิบลัตเป็นทิศทางเดียวกัน ถือศีลอดในเดือนรอมฏอน 30 วันเท่ากัน ละหมาด 5 เวลาเหมือนกัน เรื่องที่เป็นหลักๆ เราเหมือนกัน เชื่อในเรื่องมะลาอิกัต เชื่อในเรื่องรอซูลเหมือนกัน

     ปัญหาปลีกย่อยไม่ควรนำมาเป็นอุปสรรคของความเป็นปึกแผ่นหรือความสมานฉันท์ในหมู่พี่น้องมุสลิม หรือประชาชาติอิสลาม

   ท่านกล่าวต่ออีกว่า....ตัวอย่างของความแตกแยกหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ในช่วงที่กองกำลังไซออนิสต์อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีฉนวนกาซ่า ที่บริเวณชายแดนปาเลสไตน์และอียิปต์มีเมืองๆหนึ่งชื่อราฟะห์ หรือที่เขาเรียกว่า "ราฟ่า" เมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่หลบภัยของพี่น้องชาวปาเลสไตน์ ครั้งใดที่ยิวได้เปิดฉากโจมตี มุสลิมชาวอียิปต์ก็จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พำนักกับชาวปาเลสไตน์ที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น

   แต่ตอนนี้ไม่ใช่  หลังจากที่ ได้มีชาวยะฮูดีย์กลุ่มหนึ่งได้เข้าไปอยู่ในราฟะห์ และที่นั่นมีมัสยิดอยู่สองหลัง ซึ่งมัสยิดหลังหนึ่งพี่น้องมุสลิมที่นั่นได้กระดิกนิ้วชี้เวลานั่งตัชฮูด(ตะฮัตยุด) เพราะถือว่านั่นคือซุนนะห์ของท่านศาสดา แต่อีกมัสยิดหนึ่งไม่กระดิกนิ้วชี้ เพราะถือว่าการกระดิกนิ้วชี้เป็นบิดอะห์ แต่หลังจากการเข้าไปของกลุ่มยะฮูดีย์กลุ่มนี้ เขาก็แกล้งทำทีเข้าไปละหมาดแล้วก็ร้องโวยวายตีโพยตีพายว่า...ซุนนะห์ของท่านนบีกำลังถูกทอดทิ้ง เพราะมัสยิดอีกแห่งหนึ่งในเมืองของเราเขาไม่กระดิกนิ้วตอนตะชะฮูด ในขณะเดียวกัน เขาก็ไปโวยวายในมัสยิดอีกหลังว่า ความหายนะซึ่งเป็นสิ่งที่บิดอะห์อันยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้น เพราะได้มีการอุตริต่อเติมการกระดิกนิ้วเข้าไปในละหมาด

   หลังจากนั้นไม่นานในหมู่บ้านดั่งกล่าว ก็มีการยกพวกตีกัน มีการเข่มฆ่ากันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ทำให้ต้องมีคนตายนับร้อยในระยะเวลาไม่กี่ปี จากสาเหตุของความแตกต่างในการกระดิกนิ้วไม่กระดิกนิ้วเท่านั้นเอง เวลาที่พี่น้องชาวปาเลสไตน์เดือดร้อนชาวเมืองๆนี้ก็จะไม่สนใจ และไม่สามารถใช้เมืองๆนี้อาศัยเป็นที่หลบภัยอีกต่อไป และชาวเมืองเหล่านี้ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับความเดือดร้อนของชาวปาเลสไตน์อีกต่อไป

   เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่า...แม้แต่ประเด็นของการกระดิกนิ้ว ศัตรูของอิสลามก็สามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นประเด็นปัญหาในการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความแตกแยก ขอให้พี่น้องมุสลิมจงช่วยกันระวัง ไม่ว่าใครหรืออาลิมคนไหนก็ตาม ที่ได้ใช้ลิ้นของพวกเขาหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความแตกแยก ลิ้นของพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ใช้ลิ้นของอิสลาม อุลามะอฺท่านใดก็ตามที่ได้พูดเพื่อสร้างความแตกแยกในอิสลาม เขาเหล่านั้นก็ได้ใช้ปากของความเป็นศัตรูนำมาพูด เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรหลงกล - สำนักข่าวมุสลิมไทย
 

อ้างอิงจากเวบ

http://www.muslimthai.com/main/1428/printable.php?category=96&id=2787
  •  

61 ผู้มาเยือน, 1 ผู้ใช้