หยุดคิดสักนิดก่อนประณามด่าว่า ชีอะฮ์อะลี

[L-umar]

หยุดคิดสักนิดก่อนประณามด่าว่า ชีอะฮ์อะลี


อัส สะลามุอะลัยกุม

สิ่งที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นการนำเสนอในเชิงคำถามที่ตั้งข้อสงสัยส่วนตัวของผมเอง ไม่ใช่เป็นการกล่าวหา
 
หากท่านใดไม่เห็นด้วย หรือไม่พอใจในสิ่งที่ผมนำเสนอ ก็โปรดให้คำตอบในเชิงวิชาการ  เพื่อยืนยันความถูกต้องต่อจุดยืนของท่าน โดยผมหวังว่าจะได้รับคำชี้แจงจุดยืนของท่านอย่างถูกต้อง มิใช่นัฟซู หรือความตะอัซซุบ


คำว่า อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ (أهل السنة والجماعة )

คือชนกลุ่มหนึ่งที่อ้างตัวเองว่า เขาเป็นผู้ตามซุนนะฮ์นบีและตามซอฮาบะฮ์ และเป็นกลุ่มชนที่ก่อตัวขึ้นหลังจากท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)เสียชีวิตแล้ว  (ถ้าไม่จริงกรุณาแสดงหะดีษคัดค้านด้วย)

ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวว่า :

บรรดามนุษย์ที่ประเสริฐสุดคือศตวรรษของฉัน
จากนั้นบรรดาบุคคลที่ถัดจากพวกเขา
และจากนั้นบรรดาบุคคลที่ถัดมาจากพวกเขา
รายงานโดยท่านบุคอรีและมุสลิม

คนสามร้อยปีแรกแห่งฮิจเราะฮ์ศักราชนี้คือ

1. ซอฮาบะฮ์
2. ตาบิอีน
3. ตาบิอิต-ตาบิอีน

อนึ่งการเจริญรอยตามท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)นั้น ไม่ใช่จำกัดอยู่ในอักษรหรือถ้อยคำต่างๆ ตามที่ชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หรือใครๆกล่าวอ้างไว้
แต่มุสลิมทุกคนจะต้องย้อนกลับไปที่คัมภีร์อัลกุรอ่านและวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)อย่างแท้จริง

การย้อนกลับไปสู่กิตาบและหะดีษนั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคน และทุกยุคทุกสมัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นชนรุ่นสะลัฟหรือเคาะลัฟก็ตาม

ผมไม่ทราบว่า เป็นเรื่องผิดพลาดหรือเจตนา ที่ท่านทั้งหลายได้ยึดเอาคำว่า \\\"อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์\\\" มาเป็นชื่อเรียกเป็นมัซฮับ ซึ่งชื่อมัซฮับใหม่นี้ ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในสมัยท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)

ท่านทั้งหลายพึงทราบเถิดว่า  ชื่อมัซฮับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นั้นไม่มีในสมัยของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)และบรรดาซอฮาบะฮ์

พวกท่านทราบดีว่า ศาสดาของประชาชาตินี้ไม่เคยรู้จักชื่อมัซฮับนี้และไม่เคยตั้งชื่อนี้ให้แก่พวกท่านด้วย

อีกทั้งอะฮ์ลุลบัยต์นบีและซอฮาบะฮ์ก็ไม่เคยเอาคำว่า \\\"อะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์\\\" นี้ มาตั้งเป็นชื่อมัซฮับให้พวกท่าน

เราจึงอยากกล่าวว่า  มัซฮับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ซึ่งชื่อก็เป็นบิดอะฮ์ที่ไม่มีซออาบะฮ์ในยุคท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)รายงานบอดกล่าวไว้  
แต่ทำไมท่านจึงกล่าวประณามชีอะฮ์ที่มีรายงานหะดีษจากท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)เช่น


ชีอะฮ์จากตัฟสีรอะฮ์ลุสซุนนะฮ์

أَخْبَرَنَا الْحُسَيْنُ بْنُ مُحَمَّدٍ،حَدَّثَنَا أَبُو حُذَيْفَةَ أَحْمَدُ بْنُ مُحَمَّدِ بْنِ عَلِيٍّ،
حَدَّثَنَا زَكَرِيَّا بْنُ يَحْيَى بْنِ يَعْقُوبَ الْمَقْدِسِىُّ ، حَدَّثَنَا أَبِيْ، حَدَّثَنَا أَبُو الْعَوَّامِ أَحْمَدُ بْنُ يَزِيدَ الرَّيَاحِيُّ ، حَدَّثَنَا الْمَدَنِيُّ، عَنْ زَيْدٍ،  عَنِ ابْنِ عُمَرَ قَالَ :
قَالَ النَّبِيُّ {صلى الله عليه وسلم} لِعَلِيٍّ : «يَا عَلِيُّ أَنْتَ فِي الْجَنَّةِ وَشِيْعَتُكَ فِي الْجَنَّةِ،
الكشف والبيان للثعلبى انظر السورة التوبة : 33  ج 12 ص 246

อัลฮูเซน บินมุฮัมมัดเล่าให้เราฟัง  อบูฮุซัยฟะฮ์ อะหมัด บินมุฮัมมัด บินอะลีเล่าให้เราฟัง ซะกะรียา บินยะหฺยา บินยะอ์กูบ อัลมักดิซีเล่าให้เราฟัง บิดาฉันเล่าให้เราฟัง อบุลเอาวาม อะหมัด บินยะซีด อัด-ดีบาญีเล่าให้เราฟัง อัลมะดะนีเล่าให้เราฟัง จากเซด  จากท่านอิบนุ อุมัรเล่าว่า :  ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)กล่าวกับท่านอะลีว่า  :   โอ้อะลี ! ท่านจะได้อยู่ในสวรรค์ และชีอะฮ์ของท่านจะได้อยู่ในสวรรค์

อ้างอิงจากตัฟสีร
อัลกัชฟุ วัลบะยาน โดยอัษ-ษะอ์ละบี เล่ม 12 : 246 ดูตรงคำอธิบายซูเราะฮ์เตาบะฮ์ : 33

และ

حَدَّثَنَا إِبْرَاهِيمُ بْنُ شَرِيْكٍ حَدَّثَنَا عُقْبَةُ بْنُ مُكْرَمٍ الضبي حَدَّثَنَا يُونُسُ بْنُ بُكَيْرٍ ، عَنِ السَّوَّارِ بْنِ مُصْعَبٍ ، عَنْ أَبِي الْجَحَّافِ ، قَالَ أَبُو مُكْرَمٍ عقبة : وَكَانَ مِنَ الشِّيْعَةِ ، عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ عَمْرٍ ، عَنْ فَاطِمَةَ الْكُبْرَى ، عَنْ أُمِّ سَلَمَة قَالَتْ : كَانَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم عِنْدِيْ فِيْ لَيْلَتِيْ فَغَدَتْ  عَلَيْهِ فَاطِمَةُ وَعَلِيٌّ ، فَقَالَ رَسُوْلُ الله صلى الله عليه وسلم : « يَا عَلِيُّ أَبْشِرْ ، فَإِنَّكَ وَأَصْحَابَكَ وَشِيْعَتَكَ فِي الْجَـنَّةِ »
الكتاب : فضائل الصحابة لأحمد بن حنبل ج 3 ص 94 ح : 1080

ท่านหญิงอุมมุ สะละมะฮฺ ภรรยาท่านนบี(ศ)เล่าว่า :   ปรากฏว่าท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)อยู่กับฉัน ในคืนของฉัน  พอรุ่งขึ้นฟาติมะฮ์กับอะลีได้มาหาท่านแต่เช้าตรู่   ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวว่า :โอ้อะลี  ฉันขอแจ้งข่าวดีว่า แท้จริงท่านกับอัศฮาบของท่าน และชีอะฮ์ของท่านจะได้อยู่ในสรวงสวรรค์

อ้างอิงจากหนังสือ
ฟะฎออิลุศ - เศาะหาบะฮ์   โดยอิหม่ามอะหมัด  เล่ม 3 : 94  หะดีษที่ 1080


หรือพวกท่านต้องการที่จะทำให้ตัวเองและกลุ่มของพวกท่านมีความโดดเด่นกว่าแนวทางของผู้อื่น   โดยใช้วิธีประณามใส่ร้ายแนวทางอื่นๆที่ไม่ใช่แนวทางของท่านจากบรรดามุสลิม โดยใช้ชื่อว่า มัซฮับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์

เมื่อท่านพิจารณาในปัจจุบัน จะพบว่าชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า ซุนนี่ - สุหนี่ ชอบอ้างว่า มุสลิมจำเป็นต้องเข้าใจอัลอิสลามตามแนวทางมัซฮับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์เข้าใจเท่านั้น เพราะเป็นแนวทางของบรรดาซอฮาบะฮ์ทุกคน


การกล่าวอ้างเช่นนี้ มีความหลงผิดอยู่ดังนี้

ซอฮาบะฮ์ทั้งหมดนั้น ไม่ได้มีความเห็นพ้องในการเข้าใจประเด็นปัญหาต่างๆในอัลอิสลามตรงกันหมดไปเสียทุกเรื่อง ต่างคนต่างมีจุดยืนและมัซฮับ(ทัศนะ)เป็นของตัวเอง ซึ่งท่านต่างทราบเรื่องนี้ดี
เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ทราบว่า อะไรทำให้ท่านชอบอ้างว่า มุสลิมจำเป็นต้องตามมัซฮับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์เท่านั้น หรือว่าท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้เซ็นชื่อกำกับไว้ก่อนวะฟาตว่า มัซฮับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นี้ถูกต้องที่สุด ท่านก็ช่วยแสดงหะดีษเศาะหิ๊หฺให้เราดูด้วย
หากเราศึกษาตำราหะดีษต่างๆหรือถ้อยคำของอะฮ์ลุลบัยต์และซอฮาบะฮ์  เราจะพบตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับความเห็นต่างๆที่มีการขัดแย้งและมีความแตกต่างกันจากในหมู่พวกเขา
ดังนั้นถ้าเราเคารพและให้เกียรติกันจริงๆ ก็คงมีสองมัซฮับคือมัซฮับอะฮ์ลุลบัยต์และมัซฮับซอฮาบะฮ์  แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ทำไม ?

ชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ยุคปัจจุบัน พยายามเรียกร้องเราให้ยึดความเข้าใจจากแนวทางของพวกเขา
แต่ในทางตรงกันข้าม เราจะเห็นว่าพวกเขาต่างหลีกเลี่ยงความเข้าใจในแนวทางอะฮ์ลุลบัยต์นบี ทั้งๆที่อะฮ์ลุลบัยต์ก็เป็นซอฮาบะฮ์เหมือนกัน


ทั้งๆที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)สั่งเสียให้ประชาชาติยึดมั่นปฏิบัติตามอะฮ์ลุลบัยต์ เช่น


عَنْ جَعْفَرِ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنْ أَبِيهِ عَنْ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ قَالَ :
رَأَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- فِى حَجَّتِهِ يَوْمَ عَرَفَةَ وَهُوَ عَلَى نَاقَتِهِ الْقَصْوَاءِ يَخْطُبُ فَسَمِعْتُهُ يَقُولُ « يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنِّى قَدْ تَرَكْتُ فِيكُمْ مَا إِنْ أَخَذْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا كِتَابَ اللَّهِ وَعِتْرَتِى أَهْلَ بَيْتِى ».

ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด จากบิดาเขา(มุฮัมมัดบินอะลี)จากญาบิร บินอับดุลลอฮฺ รายงาน : ฉันได้เห็นท่านท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ในการประกอบพิธีฮัจญ์ของท่านในวันอะเราะฟะฮ์ ซึ่งท่านอยู่บนหลังอูฐกำลังปราศรัย แล้วฉันได้ยินท่านกล่าวว่า   โอ้ประชาชนทั้งหลาย แท้จริงฉัน ทิ้งไว้ให้แก่พวกท่านถึงสิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้น  พวกท่านจะไม่หลงทางโดยเด็ดขาด สิ่งนั้นคือคัมภีร์ของอัลลอฮฺ(อัลกุรอาน) และอิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน

สถานะหะดีษ  :   เศาะหิ๊หฺ  
ดูซอฮีฮุต-ติรมีซี  หะดีษที่ 2978    ตรวจทานโดยเชคอัลบานี

และ

عَنْ زَيْدِ بْنِ ثَابِتٍ قَالَ :
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمْ خَلِيفَتَيْنِ كِتَابُ اللَّهِ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مَا بَيْنَ السَّمَاءِ وَالْأَرْضِ أَوْ مَا بَيْنَ السَّمَاءِ إِلَى الْأَرْضِ وَعِتْرَتِي أَهْلُ بَيْتِي وَإِنَّهُمَا لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ

เซด บินษาบิตรายงาน : ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า : แท้จริงฉันได้มอบสองคอลีฟะฮ์ไว้ในหมู่พวกท่านคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน)คือเชือกที่ทอดอยู่ระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน และอิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  และแท้จริงทั้งสองสิ่งจะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาพบฉันที่อัลเฮาฎ์(สระเกาษัร)

สถานะหะดีษ  :   เศาะหิ๊หฺ  
ดูมุสนัดอิหม่ามอะหฺมัด   หะดีษที่ 21618 ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ


ชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จะออกมากล่าวว่า เราก็ทำตามอะฮ์ลุลบัยต์เหมือนกัน

หากดูตามสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในเชิงการกระทำ ชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์กลับไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้คนทั้งหลายทำตามอะฮ์ลุลบัยต์อย่างแท้จริง นอกจากเพียงน้อยนิดเท่านั้น

มันเป็นสิ่งที่แปลกแต่จริง ที่ชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ทั้งหลาย ชอบอ้างว่า สิ่งที่เขากล่าว รวมทั้งความคิดเห็นของเขาคือแนวทางอันถูกต้องที่สุด

เพื่อให้มุสลิมทั่วไป หรือคนที่เชื่อคนอื่นง่ายๆจะได้เข้าใจผิดหลงเชื่อ
เพื่อพวกเขาจะได้เผยแพร่ความคิดเห็นต่างๆของพวกเขาที่ไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด
และพวกเขาต่างเรียกร้องไปสู่อะกีดะฮ์ในกลุ่มของตัวเองโดยบอกว่า นี่คือ แนวทางของซอฮาบะฮ์ ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของอะฮ์ลุลบัยต์ที่พวกชีอะฮ์ยึดถือ !!??

ทั้งๆคำชีอะฮ์และคำอะฮ์ลุลบัยต์มีรายงานหะดีษกำกับเอาไว้  แต่คำอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หาไม่ได้แม้หะดีษสักบทหนึ่ง

บางคนกล่าวว่า   ชีอะฮ์เป็นมัซฮับเกิดขึ้นมาเพราะการเมือง
บางคนกล่าวอ้างอำพรางว่า   ชีอะฮ์เกิดขึ้นจากยิวชื่ออับดุลเลาะฮ์ บินสะบะอ์
บางคนกล่าวว่า  ท่านนบี(ศ)ไม่ได้ใช้ให้ตามอะฮ์ลุลบัยต์แต่ให้รัก
บางคนกล่าวว่า  ชีอะฮ์ไม่ใช่มัซฮับหนึ่งในอิสลาม
บางคนกล่าวว่า  ชีอะฮ์เป็นกาเฟร
บ้างกล่าวอำพรางอย่างไม่เข้าใจว่า  อัลกุรอ่านเท่านั้นที่เป็นมะอ์ซูม ส่วนอะฮ์ลุลบัยต์ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนเรา  แต่กับซอฮาบะฮ์พวกเขากล่าวว่า ทุกคนเข้าสวรรค์หมด

ซึ่งคำกล่าวเหล่านี้ มาจากพวกนาซิบอะฮ์ลุลบัยต์ ที่เป็นตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับอะฮ์ลุลบัยต์ทั้งสิ้น  


สรุป

เราขอถามว่า ชื่อมัซฮับ  อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ เต็มๆแบบนี้ไม่มีที่มาจากกุรอ่านสักอายัตหนึ่งหรือหะดีษนบี(ศ)สักบทหนึ่ง
แต่ทำไมท่านยังกล้าด่าประณามชีอะฮ์ชื่อที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้ตั้งให้ไว้กับพวกเราผู้ตามอะฮ์ลุลบัยต์นบี  ซึ่งมีรายงานกล่าวไว้ทั้งตัฟสีรและหะดีษของพวกท่าน


คำถามสำหรับชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์ทั้งหลาย


1.   หากบิดาท่านตั้งชื่อให้ท่านว่า " อับดุลเลาะฮ์ "   แล้ววันหนึ่งมีคนมาด่าทอตำหนิชื่อที่บิดาท่านตั้งให้  ท่านคิดว่า มันเป็นการลบหลู่บิดาท่านหรือไม่ ?

2.   หากท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ตั้งชื่อให้เราว่า " ชีอะฮ์ "  แล้ววันหนึ่งมีชาวซุนนี่มาด่าทอตำหนิชื่อชีอะฮ์ที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ตั้งให้ไว้ ท่านคิดว่า มันเป็นการลบหลู่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)หรือไม่ ?

3.   หากอัลเลาะฮ์คือผู้ดลใจให้ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ตั้งชื่อให้เราว่า " ชีอะฮ์ "  แล้วการด่าทอตำหนิชื่อชีอะฮ์นี้  ถือว่าเป็นการด่าทออัลเลาะฮ์และรอซูลหรือไม่ ?

By  L - umar