นักบันทึกหะดีษซุนนี่ยอมรับหะดีษจากคนดื่มสุราหรือ

[L-umar]

หากท่านศึกษาเรื่องเศาะหาบะฮ์จากคัมภีร์กุรอ่านอย่างเดียว  จะพบว่ากุรอ่านได้จำแนกลักษณะของเศาะหาบะฮ์ไว้หลายประเภทดังนี้  
กลุ่มซาบิกูน อัลเอาวะลูน(ล่วงหน้าไปสวรรค์ก่อนใครแล้ว)  
กลุ่มที่ทำบัยอัตที่ใต้ต้นไม้  
กลุ่มมุฮาญิรีน ที่อพยพละทิ้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน  
กลุ่มที่เปิดเมืองมักกะฮ์

และกลุ่มอื่นๆ...อีกมากมาย มีทั้งกลุ่มที่ได้รับการชมเชย เพราะพวกเขาทำความดีงามไว้  
และกลุ่มที่มีบุคลิกในทางลบ  ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง  ควรลบออกไปจากความทรงจำด้วยซ้ำซึ่งเศาะหาบะฮ์เหล่านั้นคือ :
1.พวกมุนาฟิก กลับกลอก แสดงตนเปิดเผย
2.พวกมุนาฟิกอำพรางตน ซึ่งท่านนบีได้บอกกล่าวไว้ว่าเป็นใครบ้าง
3.พวกอีหม่านอ่อนแอ  อ่อนไหวง่าย
4.กลุ่มที่ยอมคล้อยตามพวกที่ชอบสร้างสถานการณ์ไม่สงบ
5.กลุ่มที่ทำดี / ทำไม่ดี ผสมกันไป

ดูได้จากลำดับซูเราะฮ์ดังต่อไปนี้
1.อัลมุนาฟิกูน : 1  
2.อัตเตาบะฮ์  : 101  
3.อัลอะห์ซาบ : 11
4.อัตเตาบะฮ์ : 45-47  
5.อัตเตาบะฮ์ : 102
6.กลุ่มที่ตายในสภาพมุรตัด
7.กลุ่มที่มีนิสัยฟาซิกเชื่อถืออะไรไม่ได้กับคำพูดและการกระทำของพวกเขา
8.กลุ่มมุสลิมที่อีหม่านมิได้ซึมซับเข้าไปในหัวใจของเขาเท่าไร่นัก
9.กลุ่มมุอัลละฟะฮ์กุลูบ คือต้องคอยเอาใจใส่ด้านจิตใจพวกเขา เนื่องจากพึ่งเป็นมุสลิมใหม่ๆ ต้องคอยช่วยเหลือด้านปัจจัยยังชีพ มากกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากมีความรู้เกี่ยวกับอิสลามน้อย
10.กลุ่มที่ไม่กล้าสู้  ไม่กล้าเผชิญกับพวกกุฟฟ้าร

ดูกลุ่ม ที่ 6-10 ได้จากลำดับซูเราะฮ์ดังต่อไปนี้
6.อาลิ อิมรอน : 154   
7.อัลฮุญุรอต : 6 และอัสสัจญะดะฮ์ : 18
8.อัลฮุญุรอต : 14
9.อัตเตาบะฮ์ : 60
10.อัลอันฟาล : 15-16

จากอายะฮ์กุรอ่านที่กล่าวถึงเศาะหาบะฮ์เหล่านี้ ทำให้มุสลิมที่มีปัญญาคิดใคร่ครวญเท่านั้น   เข้าใจได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ยามเที่ยงวันว่า :  

เศาะหาบะฮ์ของนบีมุฮัมมัดไม่ได้มีบุคลิกลักษณะ อีหม่าน พฤติกรรมและฐานะภาพเหมือนกันหมดทุกคน
พวกเขาแตกต่างกันไป บางคนมีอีหม่านเข้มแข็งบางคนก็อ่อนแอ  บางคนทำหน้าที่อย่างครบถ้วน  และบางคนก็ละทิ้งหน้าที่ๆได้รับมอบหมาย

เราต้องยอมรับว่าบรรทัดฐานที่จะใช้วัดความอะดาละฮ์ของเศาะหาบะฮ์อยู่ที่การกระทำของแต่ละบุคคล เฉกเช่นคนทั่วไป

เมื่อใดก็ตามที่เราจะยกย่องเศาะหาบะฮ์สักคนหนึ่ง ว่าดีมีและประเสริฐ  เราก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าเขาคู่ควรจะได้รับคำยกย่องจริงหรือปล่าว ?

นี่คือเหตุผลที่ถูกต้องในการพิจารณาและยอมรับเศาะหาบะฮ์
จะไม่มีการยกย่องแบบกล่าวรวมๆว่า ทุกคนดีหมด สุดยอดหมดทุกคน

หากท่านใดได้เปิดกุรอ่านดูตามที่กล่าวไว้ทั้ง 10อายะฮ์ที่กล่าวมาข้างต้น  และใช้สติปัญญาที่อัลลอฮ์ให้มา ท่านจะได้รับผลลัพท์ที่แท้จริงเรื่องอะดาละฮ์เศาะหาบะฮ์

แน่นอนมีอายะฮ์กุรอานมากมายที่กล่าวยกย่องชมเชยเศาะหาบะฮ์ชาวมุฮาญิรีน และอันศ็อรและกลุ่มอื่นๆ  โองการเหล่านั้นยกย่องถึงสภาพชีวิตเศาะหาบะฮ์ในช่วงเวลานั้นว่าเป็นคนดี
ปัญหาอยู่ที่ว่า เศาะหาบะฮ์เหล่านั้นสามารถรักษาความดีงามของตนไว้ได้จนลมหายใจสุดท้ายหรือปล่าว  ? นั่นคือประเด็น

กล่าวคือ บั้นปลายชีวิตของเศาะหาบะฮ์ยังคงดำรงอยู่ตามกิตาบุลเลาะฮ์และซุนนะฮ์หรือป่าว ?  ถ้าตามก็คือเศาะหาบะฮ์ในใจเรา  

เราจะตัดสินเศาะหาบะฮ์กันตรงนี้ คือการกระทำหลังจากนบีมุฮัมมัดวะฟาตแล้ว
หากมีหลักฐานที่ถูกต้อง บอกเล่าว่า มีเศาะหาบะฮ์ได้กระทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งไม่สมควรจะให้ความยกย่อง  ฉะนั้นเศาะหาบะฮ์คนนั้นจะไม่เป็นผู้ที่เราจะยกย่องเขาอีกต่อไป

ไม่ได้หมายความว่า สิ่งนี้ขัดกับกุรอ่านหากระบุไว้ว่าเศาะหาบะฮ์คนหนึ่งดี  ถามว่ากุรอ่านได้ให้การรับรองเขาว่าดีไปตลอดชีวิตกระนั้นหรือ   มันขึ้นอยู่ที่ตัวเศาะหาบะฮ์คนนั้นเองต่างหากว่า เขายังรักษาความดีนั้นได้ตลอดไปหรือไม่

เราจะไม่ยอมมองข้ามหะดีษของท่านนบี(ศ) และประวัติศาสตร์อิสลามที่ถูกต้อง ด้วยหลักฐานที่ว่ากุรอ่านได้ยกย่องเศาะหาบะฮ์โดยเด็ดขาด

แม้อัลลอฮ์เคยพึงพอพระทัยกับเศาะหาบะฮ์ในช่วงเวลาหนึ่ง  เพราะเราบอกแล้วว่า บรรทัดฐานที่จะตัดสินคนมันอยู่ที่การกระทำ  ว่าเขาคนนั้นทำตามกุรอ่านและนบีมุฮัมมัด(ศ)ตลอดชีวิตเขาหรือปล่าว ?

มีผู้ที่ศรัทธาต่ออิสลามมากมายที่เดินออกนอกกรอบอิสลาม กลับไปเป็นคนมุนาฟิก บางคนตกมุรตัด บ้างหลงทาง ทั้งๆที่อัลลอฮ์นำทางให้เขาแล้ว แต่เขาได้หันหลังกลับ

สรุปความได้ว่า  ถ้าเราพบหลักฐานที่ถูกต้องระบุว่า เศาะหาบะฮ์กอ, ขอ, คอ ได้เบี่ยงเบนหลุดออกจากซิรอตุล มุสตะกีมแล้ว
หรือเขาเอาอีหม่านของเขาไปผสมปะปนกับความอธรรม สร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นและอิสลาม เราก็จะว่ากันไปตามเนื้อเรื่องนั้นๆ
แต่หากเศาะหาบะฮ์คนใดได้รับการยืนยันว่า เขายังเดินตรงแถวอยู่ เราก็จะไม่หยิบยกเอามาวิพากษ์วิจารณ์ ให้เสื่อมเสียเกียรติยศที่อัลลอฮ์ทรงมอบให้กับพวกเขาเด็ดขาด ในทางตรงกันข้ามเราจะทำตามที่พระองค์สั่งเราคือ ขอให้พระองค์เมตตาเขามากๆ
رَبَّنَا اغْفِرْ لَنَا وَلِإِخْوَانِنَا الَّذِينَ سَبَقُونَا بِالْإِيمَانِ
โอ้องค์อภิบาลโปรดยกโทษให้เราและพี่น้องของเรา ที่อีหม่านของเขาล้ำหน้ากว่าพวกเรา

การหยิบยกเอาเรื่องอะดาละฮ์เศาะหาบะฮ์มาวิเคราะห์ ทำให้โลกซุนนี่ร่วมมือร่วมใจกัน  ประณามชีอะฮ์ว่า  เป็นพวกด่าทอซอฮาบะฮ์และภรรยานบี
ทั้งๆที่ชีอะฮ์ได้วิเคราะห์ไปตามกุรอ่าน,ซุนนะฮ์และประวัติศาสตร์อิสลามที่ถูกต้อง

หากถูกถามว่า ทำไมต้องเอาเรื่องเศาะหาบะฮ์มาพูดด้วย ? ทำไมถึงไม่ให้เกียรติพวกเขา?
ตอบ : หากเราหยุดวิพากษ์พฤติกรรมของเศาะหาบะฮ์ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ท่านนบี(ศ)ได้กล่าวถึงการตกมุรตัดของเศาะหาบะฮ์บางกลุ่ม ตามที่ท่านบุคอรีได้รายงานไว้

หากอิสลามถูกจำกัดขอบข่ายให้ตามอยู่แค่กุรอ่านและซุนนะฮ์นบี  เราคงไม่พบปัญหาขัดแย้ง และเราจะโยนทุกสิ่งทิ้งไป ยกเว้นสองสิ่งนี้เท่านั้น  แต่ปัญหาขัดแย้งอยู่ตรงที่ว่า  :

การตัฟสีรกุรอ่านและซุนนะฮ์ของนบี ที่สืบทอดมาถึงเราส่วนมากล้วนมาจากเศาะหาบะฮ์
เราจะสามารถเชื่อคำพูดของเศาะหาบะฮ์ทุกคนที่บอกว่า อายะฮ์นี้หมายถึง..... ท่านนบี(ศ)ทำอย่างนี้อย่างนั้น....ได้แค่ไหน  หากพวกเขาบางคนขาดอะดาละฮ์อย่างแท้จริง


คำถามสำหรับซุนนี่

มุอาวียะฮ์ดื่มไวน์
عَبْدُ اللَّهِ بْنُ بُرَيْدَةَ قَالَ دَخَلْتُ أَنَا وَأَبِي عَلَى مُعَاوِيَةَ فَأَجْلَسَنَا عَلَى الْفُرُشِ ثُمَّ أُتِينَا بِالطَّعَامِ فَأَكَلْنَا ثُمَّ أُتِينَا بِالشَّرَابِ فَشَرِبَ مُعَاوِيَةُ ثُمَّ نَاوَلَ أَبِي ثُمَّ قَالَ مَا شَرِبْتُهُ مُنْذُ حَرَّمَهُ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
تعليق شعيب الأرنؤوط : إسناده قوي
อับดุลเลาะฮ์ บินบุร็อยดะฮ์เล่าว่า : ฉันกับบิดาฉันได้เข้ามาพบมุอาวียะฮ์ แล้วเขาให้เรานั่งบนเตียงสำหรับนั่ง จากนั้นอาหารถูกนำมาให้เรา  เราได้ทาน จากนั้นเครื่องดื่มไวน์ถูกนำมาให้เรา แล้วมุอาวียะฮ์ได้ดื่ม จากนั้นบิดาฉันได้ดื่ม แล้วเขากล่าวว่า ฉันไม่ได้ดื่มมันมานับตั้งแต่ท่านรอซูลุลเลาะฮ์ได้ถือว่ามันเป็นสิ่งหะร่าม...
มุสนัดอิหม่ามอะหมัด หะดีษที่ 21863
เชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏกล่าวว่า สะนัดหะดีษ เกาะวีย์ (แข็งแรง)

เมื่อท่านอ่านหะดีษถูกต้องบทนี้แล้วว่า มุอาวียะฮ์ดื่มสิ่งที่กุรอ่านหะดีษระบุว่า ฮะร่าม แล้วทำไมมุหัดดิษซุนนี่ รวมทั้งระดับหัวหน้ามัซฮับซุนนี่ยังยอมรับหะดีษที่มุอาวียะฮ์รายงาน

เศาะหิ๊หฺบุคอรี
914 - عَنْ أَبِى أُمَامَةَ بْنِ سَهْلِ بْنِ حُنَيْفٍ قَالَ سَمِعْتُ مُعَاوِيَةَ بْنَ أَبِى سُفْيَانَ...
เศาะหิ๊หฺมุสลิม
2439 - قَالَ حَدَّثَنِى حُمَيْدُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ عَوْفٍ قَالَ سَمِعْتُ مُعَاوِيَةَ بْنَ أَبِى سُفْيَانَ...
สุนันอบีดาวูด
366 - عَنْ سُوَيْدِ بْنِ قَيْسٍ عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ حُدَيْجٍ عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ أَبِى سُفْيَانَ...
สุนันติรมิซี
4014 - عَنْ جَرِيرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ أَبِى سُفْيَانَ...
สุนันนะซาอี
296 - عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ حُدَيْجٍ عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ أَبِى سُفْيَانَ...
สุนันอิบนิมาญะฮ์
131 - عَنْ مُوسَى بْنِ طَلْحَةَ عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ أَبِى سُفْيَانَ...
มุสนัดอิหม่ามอะหมัด
16241 - عَنْ أَبِي قِلَابَةَ عَنْ مُعَاوِيَةَ بْنِ أَبِي سُفْيَانَ...
มุสนัดอิหม่ามชาฟิอี
727 - أخبرنا سفيان ، عن الزهري ، عن حميد بن عبد الرحمن قال : سمعت معاوية بن أبي سفيان...
อัลมุวัฏเฏาะอ์ของอิหม่ามมาลิก
663 - وحدثني عن مالك عن بن شهاب عن حميد بن عبد الرحمن بن عوف أنه سمع معاوية بن أبي سفيان...
ท่านจะอธิบายอย่างไรกับมุหัดดิษของท่านที่ยอมรับนักรายงานหะดีษที่ดื่มไวน์[/color]