Q4 วาฮาB 9 หนุ่มรูปงามคือพระเจ้าของวาฮาบีจริงหรือ

[L-umar]

Q4 วาฮาB 9 หนุ่มรูปงามคือพระเจ้าของวาฮาบีจริงหรือ


หะดีษของนางอุมมุตุเฟล (ภรรยาท่านอุบัย บินกะอับ)ที่อ้างว่า    อัลเลาะฮ์ ตะอาลาเป็นหนุ่มผมหยิกยักโศก

พวกเขารายงานว่า  ท่านนะบี(ศ)ได้เห็นพระเจ้าของท่านเป็นหนุ่มผมหยิกยักโศก(มะอาซัลลอฮ์)  สวมรองเท้าทองคำ ยืนอยู่บนแผ่นดินสีเขียว  ซึ่งหะดีษนี้บรรดานักปราชญ์ของพวกเขาทุกคนต่างวิจารณ์ว่าเป็น " หะดีษ ซอฮิ๊ฮ์ "


ท่านซะฮะบีได้กล่าวในหนังสือสิยัร อะอ์ลามุน นุบะลาอ์ เล่ม 10 : 602 ว่า

فأما خبر أم الطفيل، فرواه محمد بن إسماعيل الترمذي وغيره: حدثنا نعيم، حدثنا ابن وهب، أخبرنا عمرو بن الحارث، عن سعيد بن أبي هلال، أن مروان بن عثمان حدثه، عن عمارة بن عامر، عن أم الطفيل امرأة أبي بن كعب:سمعت رسول الله (ص) يذكر أنه رأى ربه في صورة كذا، فهذا خبر منكر جداً، أحسن النسائي حيث يقول: وَمَنْ مروان بن عثمان حتى يُصَدَّقَ على الله؟!
وهذا لم ينفرد به نعيم، فقد رواه أحمد بن صالح المصري الحافظ، وأحمد بن عيسى التستري، وأحمد بن عبدالرحمن بن وهب، عن ابن وهب قال أبو زرعة النصري:رجاله معروفون.

ส่วนหะดีษอุมมุตุเฟล  ท่านมุฮัมมัดบินอิสมาอีลอัตติรมิซีและคนอื่นๆได้รายงานมันไว้ : นุอัยม์ได้เล่าให้เราฟัง  อิบนุวะฮับได้เล่าให้เราฟัง  อัมรูบินอาริษได้บอกให้เราฟัง จากสะอีดบินอะบีฮิลาล แท้จริงมัรวาน บินอุษมานได้เล่าให้เขาฟัง จากอิมาเราะฮ์บินอามิร  จากอุมมุตุเฟลภรรยาของอุบัยบินกะอับเล่าว่า  :
ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)เล่าว่า ท่านนั้นได้เห็นพระเจ้าของท่านในรูปลักษณ์เช่นนั้นเช่นนี้  ค่อบัร(รายงาน)นี้มุงกัรญิดดัน(คือดออีฟมาก)  ท่านนะซาอีถือว่าฮาซัน(ดี)โดยกล่าวว่า และมัรวาน บินอุษมานเป็นใคร จนเขาได้รับความเชื่อถือต่ออัลลอฮ์   และหะดีษนี้ไม่ใช่มีนุอัยม์คนเดียวที่รายงานมันไว้  แน่แท้ยังมีอะหมัดบินซอและห์อัลมิศรี่, อะหมัดบินอีซาอัตตุสตะรี และอะหมัด บินอับดุลเราะห์มานบินวะฮับรายงานมันจากอิบนุวะฮับเขาเล่าว่า อะบูซุรอะฮ์อันนัซรีกล่าวว่า   ริญาล(นักรายงานหะดีษ)นี้  มะอ์รู๊ฟ คือเป็นที่รู้จักกันดี.


ท่านซะฮะบีได้กล่าวว่า :

قاَلَ الذَّهَبِيُّ: قُلْتُ: بِلاَ رَيْبَ، قَدْ حَدَّثَ بِهِ ابْنُ وَهْبٍ وَشَيْخُهُ وَابْنُ أَبِي هِلاَلٍ، وَهُمْ مَعْرُوْفُوْنَ عَدُوْلٌ،

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อิบนุวะฮับและอาจารย์ของเขาและอิบนุอะบีฮิลาลได้รายงานหะดีษนี้ และพวกเขามะอ์รู๊ฟ อะดูล  (คือพวกเขาเป็นบุคคลที่รู้จักกันดีและเชื่อได้)

ส่วนมัรวาน อะไรจะทำให้ท่านรู้จักมัรวาน ?  เขาคือหลานของท่านอะบีสะอีด บินอัลมุอัลลา อัลอันศอรี(ซอฮาบะฮ์)  และอาจารย์ของเขาคืออุมาเราะฮ์ บินอามิรบินอัมรูบินหัซม์ อัลอันศอรี
ถ้าเราให้การอนุญาตว่า ท่านนะบี(ศ)ได้กล่าวมัน(คือกล่าวว่าได้เห็นอัลลอฮ์) ท่านย่อมรู้ดีที่สุดต่อสิ่งที่ท่านกล่าว  และสำหรับการเห็นของท่านในยามหลับคือการอธิบาย แต่ท่านมิได้เล่าถึงมัน และเราไม่ควรอธิบายมัน
(ทางออกคือ)เราให้ความหมายมันไปตามซอเฮ็รของมันทางประสาทสัมผัสภายนอก ต้องขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ที่เราจะเชื่อหรือยึดถือต่อการเข้าไปก้าวก่ายในสิ่งนั้นตามที่มีผู้ทรงคุณวุฒิบางคนกล่าวว่า

تَصَحُّفَ الْحَدِيْثُ، وَإِنَّماَ هُوَ: رَأَي رِئِيَّةً بِياَءٍ مُشَدَّدَة

หะดีษนี้จดมาผิด ที่จริงคือ : ได้เห็นการเห็น  ร่ออียะตัน ด้วยอักษรยามุชัดดะดะฮ์

وَقَالَ عَلِىٌّ رضي الله عنه : حَدِّثُوا النَّاسَ بِمَا يَعْرِفُونَ   وَدَعُوا مَا يُنْكِرُونَ

ท่านอาลี (รฎ.)กล่าวว่า  พวกท่านจงเล่าหะดีษให้ผู้คนฟังต่อสิ่งที่พวกเขาเข้าใจ และจงทิ้ง(หะดีษ)ที่พวกเขาปฏิเสธ

وقد صح أن أبا هريرة كتم حديثاً كثيراً مما لايحتاجه المسلم في دينه، وكان يقول: لو بثثته فيكم لقطع هذا البلعوم

ถูกต้องแล้วที่ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ได้กิตมาน(ปกปิด)หะดีษเอาไว้อีกมากมายที่มุสลิมไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันในดีนของเขา  ซึ่งท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์เคยกล่าวว่า

لو بثثتُه فيكم لقطع هذا البلعوم

หากฉันนำ(หะดีษ)ออกตีแพร่ในหมู่พวกท่าน คอหอยนี้คงต้องโดนเชือดแน่

وليس هذا من باب كتمان العلم في شئ، فإن العلم الواجب يجب بثه ونشره ويجب على الأمة حفظه، والعلم الذي في فضائل الأعمال مما يصح إسناده يتعين نقله ويتأكد نشره وينبغي للأمة نقله، والعلم المباح لايجب بثه ولا ينبغي أن يدخل فيه إلا خواص العلماء)!! انتهى كلام الذهبي.

เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในหัวข้อเรื่องการปกปิดความรู้(กิตมานนุลอิลมิ)ในสิ่งหนึ่ง เพราะอิลมูที่เป็นวายิบนั้นจำเป็นจะต้องนำออกตีแผ่และเผยแพร่มัน และจำเป็นที่ประชาชาติจะต้องจดจำมันไว้ด้วย
และอิลมูที่อยู่ในเรื่อง ฟะฎออิลุลอะอ์มาล(คุณค่าการทำอามั้ล) อันมีที่มาจากสายรายงานอันถูกต้อง มีการรายงานมันไว้อย่างเจาะจงและย้ำให้ทำการเผยแผ่มัน ก็เป็นการสมควรสำหรับประชาชาติที่ต้องนำมันออกรายงาน

ส่วนอิลมุลมุบ๊าห์(العلم المباح) นั้นไม่จำเป็นต้องเผยแพร่มันและไม่ควรนำมันเข้ามาสู่ประชาชนด้วย  ยกเว้นเฉพาะในหมู่นักวิชาการด้วยกันเท่านั้น  จบคำพูดของท่านซะฮะบี.


☼ ( วิจารณ์)
จุดประสงค์ของท่านซะฮะบีในคำว่า " อิลมุล มุบ๊าห์ " นั้นหมายถึง " ความรู้ที่ต้องห้าม "     จากการเรียกชื่อสิ่งหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับมัน  
มีการถ่ายทอดคำพูดของท่านซะฮะบีซึ่งคล้านกันนี้ โดยหัวหน้าของชาววาฮาบี(คือมุฮัมมัดบินอับดุลวะฮาบ)เขาได้เขียนไว้หนึ่งบทในหนังสือของเขาชื่อกิตาบอัตเตาฮีด ภายใต้หัวข้อชื่อ

باَبُ مَنْ جَحَدَ شَيْئاً مِنَ الْأَسْماَءِ وَالصِّفاَتِ !

บทว่าด้วยเรื่องผู้ที่ปฏิเสธสิ่งหนึ่งจากบรรดาพระนามและซิฟัตต่าง(ของอัลลอฮ์ตะอาลา)

จุดประสงค์ของเชคอิบนุวะฮาบคือ การอีหม่านต่อทุกซิฟัตของอัลลอฮ์ตะอาลานั้นเป็นวายิบและการปฏิเสธสิ่งหนึ่งจากซิฟัตเหล่านั้นถือว่าเป็นกุฟร์

เนื่องจากว่า มีซิฟัตของอัลลอฮ์ตะอาลาจำนวนหนึ่งตามทัศนะของอิบนุวะฮาบ(เชคแห่งวาฮาบี)นั้น จำเป็นจะต้องเชื่อในลักษณะว่า พระองค์ทรงมีญิสม์(เรือนร่าง)  ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงได้ถ่ายทอดคำพูดของท่านซะฮะบีเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นวายิบจะต้องปิดบังความรู้นั้น(เรื่องซิฟัตอัลลอฮ์ที่มีเรือนร่าง)เอาไว้  ยกเว้นพวกที่เชื่อเหมือนวาฮาบีเท่านั้น จึงจะเปิดเผยได้

มัรญิ๊อ์ระดับสูงของวาฮาบีชื่อ  เชคนาซิรุดดีน อัลบานีได้วิจารณ์ว่า หะดีษของอุมมุตุเฟล ที่เล่าว่า ท่านนะบี(ศ)เห็นอัลลอฮ์นั้น " ซอฮี๊ฮ์ "
ซึ่งเชคอัลบานีได้อธิบายไว้ในหนังสือชื่อ ซุนนะฮ์ อิบนิอะบีอาศิม  หะดีษที่ 471  โดยนางอุมมุตุเฟลได้เล่าว่า  

سَمِعْتُ رَسُوْلَ اللهِ (ص) يَذْكُرُ أَنَّهُ رَأَى رَبَّهُ عَزَّ وَجَلَّ فِي الْمَناَمِ : فِيْ أَحْسَنِ صُوْرَةٍ، شَاباًّ، مُوفراً، رِجْلاَهُ فِي خُضْرَة، عَلَيْهِ نَعْلاَنِ مِنْ ذَهَبٍ، عَلَى وَجْهِهِ فِراَش مِنْ ذَهَبٍ

ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ) เล่าว่า ท่านั้นได้เห็นพระเจ้าของท่านในยามหลับ  ในรูปลักษณ์อันงดงามที่สุด เป็นหนุ่มผมหยิกยักโศก เท้าทั้งสองของพระองค์วางอยู่บนพื้นดินสีเขียวชอุ่ม  ทรงสวมรองเท้าทองคำ...



۩  คำถามสำหรับวาฮาบี

1 – ในเมื่อพระเจ้าของวาฮาบีเป็นชายหนุ่มรูปงาม ผมหยิกยักโศก สวมรองเท้าทองคำ แล้วมันจะมีความแตกต่างอะไรเล่า ระหว่างพระเจ้าของวาฮาบีกับเทวรูปที่ผู้บูชาเจว็ดทั้งหลายเขาเคารพสักการะเทวรูปของพวกเขา ?

2 - ทำไมพวกท่านไม่สร้างรูปลอยหรือภาพสเก็ตพระเจ้าของท่านตามรายงานหะดีษของอุมมุตุเฟลตั้งหรือแขวนเอาไว้ในบ้านล่ะ ลูกหลานของวาฮาบีจะได้รู้จักพระเจ้าของพวกเขาตั้งแต่วัยเด็ก ?

[L-umar]