Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

ธันวาคม 23, 2024, 05:26:17 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
  • สมาชิกทั้งหมด: 1,718
  • Latest: Haroldsmolo
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 3,703
  • หัวข้อทั้งหมด: 778
  • Online today: 72
  • Online ever: 200
  • (กันยายน 14, 2024, 01:02:03 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 27
Total: 27

เมื่อนายชะบาบถามเรื่องกอยยิมในอัลกาฟี

เริ่มโดย L-umar, พฤศจิกายน 09, 2009, 10:48:19 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar




อ้างอิงจาก

http://www.muslimthai.com/mnet/content.php?bNo=30&qNo=3789&kword=


ท่านshabab jihad   กล่าวว่า

ดังนั้น เป็นหน้าที่ของชีอะฮฺที่จะต้องชี้แจงแถลงไขต่อสิ่งเหล่านี้ เพราะเรามิได้ใส่ร้าย เราเพียงแค่นำข้อมูลมาตีแผ่เท่านั้น เกี่ยวกับความเชื่อของชีอะฮฺต่ออัลกุรอานตามที่กล่าวไปนั้นเราสามารถประมวลหลักฐานจากตำรับตำราชีอะฮฺดังต่อไปนี้

            "แท้จริง อัลกุรอานนั้นไม่สามารถเป็นหลักฐานได้ เว้นแต่กับ "ก็อยยิม" (อิมาม)" [3]
จากหนังสือ อัล กาฟี เล่ม 1 หน้า 169.



ตอบและวิจารณ์สิ่งที่คุณชะบาบแปลและสงสัย

ตัวบทฮะดีษเต็มๆกล่าวเอาไว้ดังนี้

عَنْ مَنْصُورِ بْنِ حَازِمٍ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي عَبْدِ اللَّهِ (ع) :

มันซูร บินฮาซิมเล่าว่า  ฉันได้กล่าวกับท่านอบูอับดุลลอฮ์( ฉายาของอิม่ามศอดิก  อิม่ามคนที่ 6 ) ว่า

إِنَّ اللَّهَ أَجَلُّ وَ أَكْرَمُ مِنْ أَنْ يُعْرَفَ بِخَلْقِهِ بَلِ الْخَلْقُ يُعْرَفُونَ بِاللَّهِ
แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงสูงส่งและมีเกียรติเกินกว่าที่จะถูกรู้จักได้ด้วยมัคลู๊กของพระองค์  แต่พวกเขา(ต่างหาก)ที่จะต้องทำความรู้จักต่ออัลลอฮ์
قَالَ صَدَقْتَ قُلْتُ إِنَّ مَنْ عَرَفَ أَنَّ لَهُ رَبّاً فَيَنْبَغِي لَهُ أَنْ يَعْرِفَ
อิม่ามศอดิกกล่าวว่า   ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว   ฉัน(มันซูร)ได้กล่าวว่า แท้จริงผู้ใดได้รู้แล้วว่าสำหรับเขานั้นมีร็อบ(พระเจ้า) ก็สมควรสำหรับเขาจะต้องทำความรู้จัก
أَنَّ لِذَلِكَ الرَّبِّ رِضًا وَ سَخَطاً وَ أَنَّهُ لَا يُعْرَفُ رِضَاهُ وَ سَخَطُهُ إِلَّا بِوَحْيٍ أَوْ رَسُولٍ
ความพอพระทัยและความพิโรธของพระเจ้า(คือคำสั่งใช้คำสั่งห้ามของอัลลอฮ์)  และเขาจะไม่สามารถรู้(ว่าสิ่งใดคือ) ความพอพระทัยของพระองค์ หรือความพิโรธของพระองค์(ได้) นอกจากโดยการวะฮี หรือ(จากทาง)รอซูล(ศาสนฑูตของอัลลอฮ์)เท่านั้น
فَمَنْ لَمْ يَأْتِهِ الْوَحْيُ فَقَدْ يَنْبَغِي لَهُ أَنْ يَطْلُبَ الرُّسُلَ
ฉะนั้นผู้ใดที่วะฮีมิได้ประทานมายังเขา  สำหรับเขาก็ควรจะต้องแสวงหา(จากทาง)บรรดารอซูล(บรรดาศาสดา)

فَإِذَا لَقِيَهُمْ عَرَفَ أَنَّهُمُ الْحُجَّةُ وَ أَنَّ لَهُمُ الطَّاعَةَ الْمُفْتَرَضَةَ
เมื่อได้พบพวกเขา(บรรดารอซูล)แล้ว  และรู้ว่า แท้จริงพวกเขาคือ ฮุจญะฮ์(หลักฐานของอัลลอฮ์) และสำหรับพวกเขา การเชื่อฟังถูกกำหนดเป็นฟัรฎู(ต่อมนุษย์)
وَ قُلْتُ لِلنَّاسِ تَعْلَمُونَ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ (ص) كَانَ هُوَ الْحُجَّةَ مِنَ اللَّهِ عَلَى خَلْقِهِ
ฉัน(มันซูร)ได้กล่าวกับประชาชนว่า  พวกท่านรู้ใช่ไหมว่า แท้จริงท่านรอซูลุลเลาะฮ์(ศ) เป็นฮุจญะฮ์ที่มาจากอัลลอฮ์  บนมัคลู๊กของพระองค์
قَالُوا بَلَى قُلْتُ فَحِينَ مَضَى رَسُولُ اللَّهِ (ص) مَنْ كَانَ الْحُجَّةَ عَلَى خَلْقِهِ
พวกเขา(ประชาชน)กล่าวว่า  ใช่แล้ว ( ท่านรอซูลฯคือฮุจญัตของอัลลอฮ์บนพวกเรา)  
ฉัน(มันซูร)จึงกล่าวว่า  เมื่อท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)จากไป  ใครคือฮุจญะฮ์บนมัคลู๊กของพระองค์
فَقَالُوا الْقُرْآنُ
พวกเขา(ประชาชน)กล่าวว่า  คือคัมภีร์อัลกุรอ่าน
فَنَظَرْتُ فِي الْقُرْآنِ فَإِذَا هُوَ يُخَاصِمُ بِهِ الْمُرْجِئُ وَ الْقَدَرِيُّ وَ الزِّنْدِيقُ الَّذِي لَا يُؤْمِنُ بِهِ حَتَّى يَغْلِبَ الرِّجَالَ بِخُصُومَتِهِ
ฉัน(มันซูร)จึงไปดูที่อัลกุรอ่าน  ฉะนั้นพวกมุรญิอะฮ์ ,พวกก็อดรียะฮ์และพวกซินดี๊กก็โต้แย้งกับฝ่ายตรงข้ามกับเขาด้วยอัลกุรอ่านนี้   ซึ่งพวกเขาก็มิได้เชื่อถือต่ออัลกุรอ่าน  จนเขาได้เอาชนะบรรดาผู้คนด้วยการโต้แย้งของเขา

فَعَرَفْتُ أَنَّ الْقُرْآنَ لَا يَكُونُ حُجَّةً إِلَّا بِقَيِّمٍ
ดังนั้น ฉันจึงเข้าใจว่า  

แท้จริงคัมภีร์อัลกุรอ่านนั้น  จะเอามาเป็นหลักฐานไม่ได้  นอกจากจะต้องมีผู้รับผิดชอบ( คือมุฟัสสิร – นักอรรถาธิบายกุรอ่าน)
فَمَا قَالَ فِيهِ مِنْ شَيْ‏ءٍ كَانَ حَقّاً فَقُلْتُ لَهُمْ مَنْ قَيِّمُ الْقُرْآنِ
ฉะนั้นสิ่งใดที่เขา(ก็อยยิม)กล่าวเกี่ยวกับอัลกุรอ่าน มันคือความจริง  ฉันกล่าวกับพวกเขาว่า  แล้วใครคือก็อยยิมุลกุรอ่าน  ?


فَقَالُوا ابْنُ مَسْعُودٍ قَدْ كَانَ يَعْلَمُ وَ عُمَرُ يَعْلَمُ وَ حُذَيْفَةُ يَعْلَمُ قُلْتُ كُلَّهُ
พวกเขากล่าวว่า คือท่านอิบนิมัสอู๊ดเขารู้ดี ท่านอุมัรก็รู้ และท่านฮุซัยฟะฮ์ก็มีความรู้  
ฉัน(มันซูร)จึงถามว่า  (พวกเขาทั้งสาม) มีความรู้(เข้าใจคัมภีร์กุรอ่าน) ทั้งหมดเลยหรือ ?
قَالُوا لَا فَلَمْ أَجِدْ أَحَداً يُقَالُ إِنَّهُ يَعْرِفُ ذَلِكَ كُلَّهُ إِلَّا عَلِيّاً (ع)
พวกเขาตอบว่า  ไม่ทั้งหมด  แล้วฉันไม่เคยพบบุคคลใดเลยที่จะกล่าวได้ว่า เขามีความรู้(อัลกุรอ่าน)ทั้งหมด  นอกจาก ท่านอะลี
وَ إِذَا كَانَ الشَّيْ‏ءُ بَيْنَ الْقَوْمِ فَقَالَ هَذَا لَا أَدْرِي وَ قَالَ هَذَا لَا أَدْرِي وَ قَالَ هَذَا لَا أَدْرِي وَ قَالَ هَذَا أَنَا أَدْرِي فَأَشْهَدُ أَنَّ عَلِيّاً (ع) كَانَ قَيِّمَ الْقُرْآنِ وَ كَانَتْ طَاعَتُهُ مُفْتَرَضَةً وَ كَانَ الْحُجَّةَ عَلَى النَّاسِ بَعْدَ رَسُولِ اللَّهِ (ص) وَ أَنَّ مَا قَالَ فِي الْقُرْآنِ فَهُوَ حَقٌّ فَقَالَ رَحِمَكَ اللَّهُ
الكافي ج : 1  ص :  169  ح 2
 
หากเกิดเรื่องหนึ่งขึ้นในหมู่ชน  แล้วคนนี้กล่าวว่า ฉันไม่รู้ และคนนี้ก็กล่าวว่า  ฉันไม่รู้ และคนนี้ก็กล่าวอีกว่า  ฉันไม่รู้  และคนนี้กล่าวว่า  " ฉันรู้ "  ดังนั้นฉันขอยืนยันว่า เป็นท่านอะลี เขาคือก็อยยิมุลกุรอ่าน (ผู้ทำหน้าที่อรรถาธิบายคัมภีร์อัลกุรอ่าน) และการตออัตต่อเขาเป็นฟัรฎู
และเขา(อะลี)เป็นฮุจญะฮ์ต่อประชาชนภายหลังจากท่านรอซูลุลลอฮ์(จากไป)  
และแท้จริงสิ่งที่เขากล่าวเกี่ยวกับในคัมภีร์กุรอ่าน มันคือสัจธรรมความจริง
อิม่ามศอดิกได้กล่าวว่า   : ขออัลเลาะฮ์โปรดประทานความเมตตาแก่ท่าน(มันซูร)ด้วยเถิด.

อ้างอิงจาก
อัลกาฟี  เล่ม  1 หน้า 169  หะดีษ 2


คำถามสำหรับคุณชะบาบคือ

1.   ทำไมคุณถึงแปลคำ ก็อยยิมว่า  อิม่าม   ?
2.   หลังจากคุณอ่านตัวบทฮะดีษเต็มๆแล้ว  คุณคิดว่า  ก็อยยิม ควรแปลว่าอะไร ?


เราชี้แจงให้ท่านทราบแล้ว ตามที่ขอมา
ถ้าคุณชะบาบ  ไม่ตอบ ไม่ชี้แจงที่ผมถาม   ผมจะถือว่า คุณเป็นฝ่าย บิดเบือนข้อมูลฮะดีษ และมีเจตตาใส่ร้ายนะครับ

ขอให้อัลเลาะฮ์   มลาอิกะฮ์  และทุกท่านเป็นพยานด้วย  
  •  

27 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้