บทสรุป –
หากบุคคลใดก็ตามมีอีหม่านและปฏิบัติอิบาดัตตามที่กล่าวมา เขาก็คือ " มุสลิม "
ผู้ปฏิบัติตามอะฮ์ลุลบัยต์ไม่ควรไปฮุก่มบุคคลดังกล่าวด้วยคำว่า " กาเฟร " เพราะความคลั่งใคล้ในมัซฮับของตนเหมือนที่พวกวาฮาบีปฏิบัติกันมาจนเป็นประเพณี
และชีอะฮ์ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกับชีอะฮ์ทั่วไปหรือระดับอุละมาอ์ประเภทสุดโต่งที่เที่ยวไปฮุก่มมุสลิมด้วยกันว่าเป็นกาเฟร
เพราะคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดและอะฮ์ลุลบัยต์ได้ระบุชัดเจนว่าเงื่อนไขความเป็นมุสลิมคืออะไร
ทางเวปมาสเตอร์จึงขอตอบว่า
วาฮาบีและอะชาอิเราะฮ์ ไม่ใช่กาเฟร
***********************************************************************************
อัลฮัมดุลลิลละฮฺ
แต่หากชาววาฮาบีและชาวอะชาอิเราะฮ์ จะใช้นัฟซูและคามตะอัซซุบของตนเองประณามชีอะฮ์ต่างๆนานา ก็เชิญเลยหากไม่กลัวอัลลอฮ์
อัลฮัมดุลลิลละฮฺ
หากบุคคลใดก็ตามมีอีหม่านและปฏิบัติอิบาดัตตามที่กล่าวมา เขาก็คือ " มุสลิม "
ผู้ปฏิบัติตามอะฮ์ลุลบัยต์ไม่ควรไปฮุก่มบุคคลดังกล่าวด้วยคำว่า " กาเฟร " เพราะความคลั่งใคล้ในมัซฮับของตนเหมือนที่พวกวาฮาบีปฏิบัติกันมาจนเป็นประเพณี
และชีอะฮ์ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกับชีอะฮ์ทั่วไปหรือระดับอุละมาอ์ประเภทสุดโต่งที่เที่ยวไปฮุก่มมุสลิมด้วยกันว่าเป็นกาเฟร
เพราะคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดและอะฮ์ลุลบัยต์ได้ระบุชัดเจนว่าเงื่อนไขความเป็นมุสลิมคืออะไร
ทางเวปมาสเตอร์จึงขอตอบว่า
วาฮาบีและอะชาอิเราะฮ์ ไม่ใช่กาเฟร
***********************************************************************************
อัลฮัมดุลลิลละฮฺ
แต่หากชาววาฮาบีและชาวอะชาอิเราะฮ์ จะใช้นัฟซูและคามตะอัซซุบของตนเองประณามชีอะฮ์ต่างๆนานา ก็เชิญเลยหากไม่กลัวอัลลอฮ์
อัลฮัมดุลลิลละฮฺ