Q4wahabi.com (Question for Wahabi)

หมวดหมู่ทั่วไป => ไม่เข้าหมวด => หัวข้อที่ตั้งโดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 08:58:34 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 ชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 08:58:34 ก่อนเที่ยง



วันที่ 15 เดือนชะอ์บาน  

ตรงกับ

ค่ำที่  6   เดือนสิงหาคม พ.ศ.2552



عَنْ زُرَارَةَ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي جَعْفَرٍ ع مَا تَقُولُ فِي لَيْلَةِ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ

قَالَ يَغْفِرُ اللَّهُ عَزَّ وَ جَلَّ فِيهَا مِنْ خَلْقِهِ لِأَكْثَرَ مِنْ عَدَدِ شَعْرِ مِعْزَى كَلْبٍ وَ يُنَزِّلُ اللَّهُ عَزَّ وَ جَلَّ فِيهَا مَلَائِكَتَهُ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا وَ إِلَى الْأَرْضِ بِمَكَّةَ
 

                       
ซุรอเราะฮ์เล่าว่า  :

ฉันกล่าวกับท่านอบูญะอ์ฟัร(อิม่ามบาเก็ร) ว่า  ท่านจะกล่าวอะไรในค่ำที่ 15 ของเดือนชะอ์บาน ?

ท่านตอบว่า  : อัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลจะทรงให้อภัยส่วนหนึ่งจากบ่าวของพระองค์ในคืนนั้น มากยิ่งกว่าขนแพะ สุนัข

และอัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลจะให้มลาอิกะฮ์ของพระองค์ลงมาในคืนนั้นยังชั้นฟ้าดุนยา และที่แผ่นดิน ณ.เมืองมักกะฮ์


สถานะหะดีษ  :  เศาะหิ๊หฺ

ดูวะซาอิลุชชีอะฮ์  เล่ม  8 :106 หะดีษที่ 10181
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 09:24:07 ก่อนเที่ยง


ท่านนบี(ศ) กล่าวว่า  :

إِنَّ اللَّهَ تَعَالَى يَنْزِلُ لَيْلَةَ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا فَيَغْفِرُ لأَكْثَرَ مِنْ عَدَدِ شَعَرِ غَنَمِ كَلْبٍ


แท้จริงอัลลอฮ์ ตะอาลา จะทรงลงมาในคืนที่ 15 ชะอ์บานยังชั้นฟ้าดุนยา  แล้วจะทรงให้อภัย (ปวงบ่าว) มากมายยิ่งกว่าจำนวนขนแพะ สุนัข


 

สุนัน อิบนิมาญะฮ์  หะดีษที่  1452


สถานะ  : เศาะหิ๊หฺ  


ดูซิลซิละตุซ – ซอฮีฮะฮ์  โดยเชคอัลบานี  เล่ม 3 : 218 หะดีษที่  1144
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 09:45:07 ก่อนเที่ยง


ท่านอิม่ามอะลี อะลัยฮิสสลามกล่าวว่า

إن الله تعالى اطلع إلى الأرض فاختار لنا شيعة ينصروننا و يفرحون لفرحنا و يحزنون لحزننا


แท้จริงอัลเลาะฮ์ ตะอาลาทรงทอดพระเนตรมายังโลก  แล้วทรงเลือกชีอะฮ์ให้สำหรับพวกเรา  พวกเขา( ชีอะฮ์ ) จะคอยให้การช่วยเหลือพวกเรา

และพวกเขา(ชีอะฮ์) จะมีความยินดีต่อความสุขของพวกเรา  และพวกเขาจะมีความเสียใจต่อความทุกข์ของพวกเรา


อ้างอิงจากหนังสือ

ฆุเราะรุลฮิกัม โดยอับดุลวาเฮ็ด   เล่ม 1 : 61หะดีษที่ 2049




นิซฟู  ชะอ์บาน วันแห่งความสุขหรือความเศร้า  ???
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 09:59:54 ก่อนเที่ยง



คืนที่  15    เดือนชะอ์บาน  ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่   255

อัลเลาะฮ์ ตะอาลาได้ประทานบุตรชายให้กับท่านอิม่ามที่  11  คือ

อิม่าม อบูมุฮัมมัด  ฮาซัน อัสการี  (อะลัยฮิสลาม )  นามของเด็กน้อยคือ



มุฮัมมัด  อัลมะฮ์ดี (อ)
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 10:24:32 ก่อนเที่ยง


แท้จริงท่านนบี(ศ)กล่าวว่า


عَنْ أَبِى سَعِيدٍ الْخُدْرِىِّ أَنَّ النَّبِىَّ -صلى الله عليه وسلم- قَالَ « يَكُونُ فِى أُمَّتِى الْمَهْدِىُّ


 ในอุมมะฮ์ของฉันจะปรากฏ (ชายชื่อ)  อัลมะฮ์ดี  


สถานะหะดีษ  : ฮาซัน    ดูเศาะฮีฮุ อิบนิมาญะฮฺ   โดยเชคอัลบานี  หะดีษที่  3299

มีหะดีษรายงานว่า   ช่วงเวลาที่  อัลมะฮ์ดี ผู้นี้ปรากฏตัว เขาจะอยู่บนโลกประมาณ 7 – 9  ปี



ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า  

تُمْلَأُ الْأَرْضُ ظُلْمًا وَجَوْرًا ثُمَّ يَخْرُجُ رَجُلٌ مِنْ عِتْرَتِي يَمْلِكُ سَبْعًا أَوْ تِسْعًا فَيَمْلَأُ الْأَرْضَ قِسْطًا وَعَدْلًا


( ในขณะที่ )โลกกำลังเต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่  ต่อจากนั้นจะมีชายผู้หนึ่งจากอิตเราะฮ์(วงศ์วาน)ของฉันปรากฏออกมา

เขาจะปกครอง(โลกอยู่ประมาณ) เจ็ดหรือเก้าปี   เขาจะทำให้โลกเต็มไปด้วยเสมอภาคและความยุติธรรม


สถานะหะดีษ   : เศาะหิ๊หฺ  

ดูมุสนัด อิม่ามอะหมัด  หะดีษที่ 111239  

ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏี
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 10:36:02 ก่อนเที่ยง

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า


لَا تَقُومُ السَّاعَةُ حَتَّى تَمْتَلِئَ الْأَرْضُ ظُلْمًا وَعُدْوَانًا قَالَ ثُمَّ يَخْرُجُ رَجُلٌ مِنْ عِتْرَتِي أَوْ مِنْ أَهْلِ بَيْتِي يَمْلَؤُهَا قِسْطًا وَعَدْلًا كَمَا مُلِئَتْ ظُلْمًا وَعُدْوَانًا

วันกิยามะฮ์จะยังคงไม่เกิดขึ้น จนกว่าโลกนั้นจะเต็มไปด้วยความอธรรมและความเป็นศัตรู    

ท่านกล่าวว่า  ต่อจากนั้นจะมีชายผู้หนึ่งที่มาจาก " อิตเราะฮ์ของฉัน " หรือมาจาก " อะฮ์ลุลบัยต์ ของฉัน  " ปรากฏออกมา

เขาจะเติมโลกให้เต็มไปด้วยความเป็นธรรมและความยุติธรรม เหมือนที่(ก่อนหน้านี้)มันเต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่



สถานะหะดีษ   : เศาะหิ๊หฺ  

ดูมุสนัด อิม่ามอะหมัด  หะดีษที่ 10887  

ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏี
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 10:47:31 ก่อนเที่ยง


ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า

الْمَهْدِىُّ مِنْ عِتْرَتِى مِنْ وَلَدِ فَاطِمَةَ

อัลมะฮ์ดี  นั้นมาจากเชื้อสายของฉัน , จากลูกของฟาฏิมะฮฺ (บุตรีของฉัน)



สถานะหะดีษ   : เศาะหิ๊หฺ  

ดูสุนันอบูดาวูด  หะดีษที่ 4286 เศาะฮีฮุอิบนิมาญะฮ์  หะดีษที่ 3301  

ตรวจทานโดยเชคอัลบานี
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 11:04:30 ก่อนเที่ยง



เรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับอิม่ามอัลมะฮ์ดีที่มัซฮับชีอะฮ์มีหลักฐานไม่ตรงกับพี่น้องอะฮ์ลุสสุนนะฮ์คือ




หนึ่ง-

ซุนนี่กล่าวว่า  อัลมะฮ์ดีสืบเชื้อสายมาจากท่านอิม่ามฮาซัน    
     
ฝ่ายชีอะฮ์กล่าวว่า  ท่านสืบเชื้อสายมาจากอิม่ามฮูเซน



สอง-

ซุนนี่กล่าวว่า   อัลมะฮ์ดี ยังไม่เกิด  

ฝ่ายชีอะฮ์กล่าวว่า  ท่านเกิดคืนที่ 15 เดือนชะอ์บาน ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่  255



สาม-

ซุนนี่ได้บิดเบือนว่า อัลมะฮ์ดี คือบุตรของชายชื่อ มุฮัมมัด  

ฝ่ายชีอะฮ์กล่าวว่า  อัลมะฮ์ดี คือบุตรชายของอิม่ามฮาซัน อัสการี




เราจะตอบสามประเด็นที่แตกต่างนี้ด้วยหะดีษจากตำราชีอะฮ์  อินชาอัลเลาะฮ์....
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 11:37:21 ก่อนเที่ยง


หนึ่ง-

ฝ่ายชีอะฮ์กล่าวว่า  ท่านอิม่ามมะฮ์ดีสืบเชื้อสายมาจากอิม่ามฮูเซน  ไม่ใช่อิม่ามฮาซัน



อะฮ์ลุลบัยต์รายงาน


رَوَي أَبُوْ جَعْفَرٍ مُحَمَّدُ بْنُ عَلِيِّ بْنِ الْحُسَيْنِ بْنِ بَابَوَيْهِ الْقُمِّيّ 305-381هـ. هو الشَّيْخُ الصَّدُوْق  :
حَدَّثَنَا ْ أَحْمَدُ بْنُ زِيَادِ بْنِ جَعْفَرٍ الْهَمَذَانِي‏ قَالَ : حَدَّثَنَا عَلِىُّ بْنُ اِبْرَاهِيْمَ بْنِ هَاشِمٍ عَنْ أَبِيْهِ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ أَبِي عُمَيْر عَنْ غِيَاثِ بْنِ إِبْرَاهِيْمَ عَنِ الصَّادِقِ جَعْفَرِ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنْ أَبِيْهِ مُحَمَّدِ بْنِ عَلِىٍ عَنْ أَبِيْهِ عَلِىِّ بْنِ الْحُسَيْنِ عَنْ أَبِيْهِ الْحُسَيْنِ بْنِ عَلِىٍّ عَلَيْهِ السَّلاَمِ قَالَ:

سُئِلَ أَمِيْرُ الْمُؤْمِنِيْنَ عَلَيْهِ السَّلاَمِ عَنْ مَعْنَى قَوْلِ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ

إِنِّىْ مُخَلِّفٌ فِيْكُمُ الثَّقَلَيْنِ كِتَابُ اللهِ وَعِتْرَتِيْ مَنِ الْعِتْرَةُ ؟

فَقَالَ : أَنَا وَالْحَسَنُ وَالْحُسَيْنُ وَالْأَئِمَّةُ التِّسْعَةُ مِنْ وُلْدِ الْحُسَيْنِ تَاسِعُهُمْ مَهْدِيُّهُمْ وَقَائِمُهُمْ لاَ يُفَارِقُوْنَ كِتَابَ اللهِ وَلاَ يُفَارِقُهُمْ حَتَّى يَرِدوا عَلَى رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ حَوْضَـهُ.

عيون أخبار الرضا (ع) للشيخ الصدوق  ج 2  ص 58 حديث : 25
باب النصوص على الرضا(ع) بالإمامة في جملةالأئمة الإثنى عشر(ع)


เชคศอดูกรายงาน :  

อะหมัด บินซิยาด บินญะอ์ฟัร อัลฮะมะดานี(รฎ.)เล่าให้เราฟัง จากอะลี บินอิบรอฮีม บินฮาชิมจากบิดาเขา จากมุฮัมมัด บินอบีอุมัยรฺ

จากฆิยาษ บินอิบรอฮีม(เล่าว่า ) :  จากอัศ-ศอดิก ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด จากบิดาเขาคือมุฮัมมัด บินอะลี จากบิดาเขาคืออะลี บินฮูเซน จากบิดา

เขาคือฮูเซน บินอะลีเล่าว่า :  

ท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อิม่ามอะลี) ถูกถามถึงความหมายวจนะของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)ที่กล่าวว่า :  

แท้จริงข้าพเจ้าได้มอบสิ่งหนักสองสิ่งไว้ในหมู่พวกท่าน  สิ่งแรกคือคัมภีร์ของอัลลอฮ์และอิตเราะฮ์ของข้าพเจ้า, (ว่า) ใครคืออิตเราะฮ์ ?

ท่านอิม่ามอะลีตอบว่า :

คือฉัน,ฮาซัน,ฮูเซนและบรรดาอิม่ามผู้นำอีก 9 คนที่สืบเชื้อสายจากลูกหลานของฮูเซน

คนที่ 9 คือมะฮ์ดีและคือกออิมของพวกเขา  

พวกเขาจะไม่แยกจากคัมภีร์ของอัลลอฮ์ และคัมภีร์ของอัลลอฮฺจะไม่แยกจากพวกเขา จนทั้งสองจะกลับคืนมายังท่านรอซูลุลลอฮ์ที่สระอัลเฮาฎ์

ของท่าน.


สถานะหะดีษ  :   เศาะหิ๊หฺ  
 
ดูหนังสืออุยูนุล อัคบาร อัลริฎอ โดยเชคศอดูก เล่ม 1 : 57   หะดีษที่ 25



วิเคราะห์ผู้รายงานฮะดีษสิบสองอิม่าม (تَخْرِيْجُ حَدِيْث)


1,มุฮัมมัด บินอะลี : คืออบูญะอ์ฟัร มุฮัมมัด บินอะลี บินฮุเซน บินบาบะวัยฮฺ อัลกุมมี รู้จักกันในนามเชคศอดูก อยู่ในยุคตัวแทนพิเศษ(นาอิบค็อศ)คนสุดท้ายของอิม่ามมะฮ์ดี การรายงานเชื่อถือได้    
เชคศอดูกรายงานฮะดีษจากบิดาเขาชื่ออะลี บินอัลฮุเซน บินบาบะวัยฮฺ อัลกุมมี บิดาเชคศอดูกเคยเข้าพบอิม่ามท่านที่ 11 และอยู่จนถึงยุคฆ็อยบะฮ์ของอิม่ามท่านที่12  การรายงานเชื่อถือได้

2,อะหมัด บินซิยาด บินญะอ์ฟัร อัลฮะมะดานี  : ซอฮาบะฮ์ของอิม่ามท่านที่ 10 อัลฮาดี การรายงานเชื่อถือได้

3,อะลี บินอิบรอฮีม บินฮาชิม รายงานจากบิดาเขา  : ซอฮาบะฮ์ของอิม่ามท่านที่ 9 อัลญะวาด   อะลีรายงานฮะดีษนี้จากบิดาเขาคืออิบรอฮีม อยู่ในยุคของอิม่ามท่านที่ 8 อัลริฎอ การรายงานของทั้งสองเชื่อถือได้

4,มุฮัมมัด อิบนิอบีอุมัยรฺ  : ซอฮาบะฮ์ของอิม่ามท่านที่ 7 อัลกาซิม  การรายงานเชื่อถือได้

5,ฆิยาษ บินอิบรอฮีม : ซอฮาบะฮ์ของอิม่ามท่านที่ 6 อัศศอดิก  การรายงานเชื่อถือได้

6,อัศ-ศอดิก ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด  อิม่ามท่านที่ 6  เป็นตาบิอุต - ตาบิอีน

7,มุฮัมมัด บินอะลี  อิม่ามท่านที่ 5  เป็นตาบิอีน

8,อะลี บินฮุเซน  อิม่ามท่านที่ 4   เป็นตาบิอีน

9,ฮุเซน บินอะลี  อิม่ามท่านที่ 3  น้องชายอิม่ามท่านที่ 2 ฮาซัน  ท่านฮุเซนรายงานฮะดีษจากบิดา  ทั้งสองเป็นซอฮาบะฮ์

10,อมีรุลมุอ์มินีน  อะลี บินอบีตอลิบ อิม่ามท่านที่ 1  เป็นซอฮาบะฮ์


สรุป:

นักรายงานฮะดีษทุกคนษิเกาะฮ์ คือเชื่อถือได้ ฮะดีษนี้จึงเป็นฮะดีษซอฮี๊ฮฺ

อ้างอิงจากหนังสือ  

มุอ์ญัม อัษ-ษิกอต โดยเชคอบูตอลิบ อัตตัจญ์ลีล อัต-ตับรีซี  

สนพ. มุอัสสะซะฮ์ อัน-นัชรุลอิสลามี  เมืองกุม อิหร่าน  ปีพิมพ์เดือนญุมาดิษ-ษานี ฮศ. 1404
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 11:44:23 ก่อนเที่ยง


ไม่เคยมีตำราชีอะฮ์เล่มใด   กล่าวว่า   อิม่ามมะฮ์ดี สืบเชื้อสายมาจากอิม่ามฮาซัน


ตำราชีอะฮ์ทั้งหมดกล่าวว่า   อิม่ามมะฮ์ดี   สืบเชื้อสายมาจากอิม่ามฮูเซน  


ในทางกลับกันเราพบตำราของอะฮ์ลุสสุนนะฮ์บางส่วนกล่าวว่า



อิม่ามมะฮ์ดี  สืบเชื้อสายมาจากอิม่ามฮูเซน   ไม่ใช่อิม่ามฮาซัน  เช่น



อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รายงาน


عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ قَالَ : قَدَمَ يَهُودِيٌّ يُقَالُ لَهُ نَعْثَل فَقَالَ : يَا مُحَمَّدُ أَسْأَلُكَ عَنْ أَشْيَاءَ ... فَأَخْبِرْنِيْ عَنْ وَصِيِّكَ مَنْ هُوَ ؟ فَمَا مِنْ نَبِيٍّ اِلاَّوَلَهُ وَصِيٌّ ' فَإِنَّ نَبِيَّنَا مُوسَى بْنَ عِمْرَانَ أَوْصَى يُوشَعَ بْنِ نُونَ. فَقَالَ : إِنَّ وَصِيِّيْ عَلِيُّ بْنُ أَبِي طَالِبٍ ' وَبَعْدَهُ سِبْطَايَ الْحَسَنُ وَالْحُسَيْنُ ' تَتْلُوْهُ تِسْعَةُ أَئِمَّةٍ مِنْ صُلْبِ الْحُسَيْنِ .
قَالَ : يَا مُحَمَّدُ فَسَمِّهِمْ لِيْ. قَالَ : إِذَا مَضَى الْحُسَيْنُ فَإِبْنُهُ عَلِيٌّ 'فَإِذَا مَضَى عَلِيٌّ فَإِبْنُهُ مُحَمَّدٌ 'فَإِذَا مَضَى مُحَمَّدٌ فَإِبْنُهُ جَعْفَرٌ 'فَإِذَا مَضَى جَعْفَرٌ فَإِبْنُهُ مُوْسَى 'فَإِذَا مَضَى مُوْسَى فَإِبْنُهُ عَلِيٌّ 'فَإِذَا مَضَى عَلِيٌّ فَإِبْنُهُ عَلِيٌّ مُحَمَّدٌ 'فَإِذَا مَضَى مُحَمَّدٌ فَإِبْنُهُ عَلِيٌّ 'فَإِذَا مَضَى  عَلِيٌّ فَإِبْنُهُ الْحَسَنُ 'فَإِذَا مَضَى الْحَسَنُ فَإِبْنُهُ الْحُـجَّةُ مُحَمَّدٌ الْمَهْدِيُّ 'فَهَؤُلاَءِ اِثْنَا عَشَرَ


อิบนุอับบาสรายงานว่า :
 
มีชาวยิวคนหนึ่งชื่อนะษัลได้เข้ามาพบท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เขากล่าวว่า :

โอ้มุฮัมมัด ! ฉันขอถามคำถามต่าง.... (ฮะดีษยาวมากขอตัดมาตรง

ประเด็น12อิม่ามดังนี้ ) ดังนั้นโปรดบอกฉันซิว่า วะซี (ผู้สืบทอดต่อจากท่าน) เป็นใคร ? เพราะท่านนบีมูซา บิน อิมรอนของเรายังแต่งตั้งยูชะอ์

บินนูนเป็นผู้นำแทนท่านไว้เลย


ท่านนบีตอบว่า :

แท้จริงวะซีของฉันคือ1,อะลี บินอบีตอลิบ และหลังจากเขาคือ2,ฮาซันและ3,ฮุเซนหลานชายทั้งสองของฉัน  


ต่อจากนั้นก็เป็นอิม่ามอีก 9 คนที่  สืบเชื้อสายมาจากฮุเซน


ชาวยิวกล่าวว่า : โอ้มุฮัมมัด จงแจ้งชื่อพวกเขาแก่ฉันด้วย


ท่านนบีกล่าวว่า : เมื่อฮุเซนผ่านไปก็คือ

4,อะลี (ซัยนุลอาบิดีน) บุตรชายของเขา, เมื่ออะลีผ่านไปก็คือ

5,มุฮัมมัด(อัลบาเก็ร)บุตรชายของเขา,เมื่อมุฮัมมัดผ่านไปก็คือ

6,ญะอ์ฟัร (อัศศอดิก) บุตรชายของเขา, เมื่อญะอ์ฟัรผ่านไปก็คือ

7,มูซา (อัลกาซิม) บุตรชายของเขา, เมื่อมูซาผ่านไปก็คือ

8,อะลี (อัลริฎอ) บุตรชายของเขา, เมื่ออะลีผ่านไปก็คือ

9,มุฮัมมัด (อัลญะวาด) บุตรชายของเขา,เมื่อมุฮัมมัดผ่านไปก็คือ

10,อะลี (อัลฮาดี) บุตรชายของเขา, เมื่ออะลีผ่านไปคือ

11,ฮาซัน (อัลอัสการี)บุตรชายของเขา,เมื่อฮาซันผ่านไปก็คือ

12,อัลฮุจญะฮ์ มุฮัมมัด อัลมะฮ์ดีบุตรชายของเขา พวกเขาเหล่านี้คือ 12 ผู้นำ


อ้างอิงจากหนังสือ

ยะนาบีอุลมะวัดดะฮ์  โดยเชคก็อนดูซี อัลฮานาฟี     หน้า 499
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 04, 2009, 02:37:12 หลังเที่ยง


อัลฮะมุวัยนี อัชชาฟิอี บันทึกหะดีษว่า


عن ابن عبّاس قال: سمعت رسول الله (صلى الله عليه وآله وسلم) يقول: «أنا وعلي والحسن والحسين وتسعةٌ من ولد الحسين مطهَّرون معصومون»

อิบนุอับบาสเล่าว่า  ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า

ฉัน , อะลี , อัลฮาซัน และอัลฮูเซน และคนที่ 9 ที่สืบเชื้อสายมาจากบุตรของฮูเซน คือบรรดามุเฏาะฮะรูน และมะซูม

 
عن ابن عباس قال: قال رسول الله (صلى الله عليه وآله وسلم): «إنّ خلفائي وأوصيائي وحجج الله على الخلق بعدي الاثنا عشر: أوّلهم عليّ وآخرهم ولدي المهدي، فينزل روح الله عيسى بن مريم فيصلّي خلف المهدي،

كتاب فرائد السمطين  للجويني  : 2 / 133 و 313 ح: 430 و 431 و 563،


อิบนุอับบาสเล่าว่า    ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า

แท้จริงบรรดาคอลีฟะฮ์ของฉัน และเอาลิยาอ์ของฉัน  และบรรดาฮุจญะตุลเลาะฮ์ ที่มีต่อปวงบ่าว ภายหลังจากฉัน มี 12 คน

คนแรกคือ   อะลี และคนสุดท้ายของพวกเขาคือ บุตรชายของฉันชื่อ อัลมะฮ์ดี  

ท่านรูฮุลเลาะฮ์ อีซา บุตรมัรยัม จะลงมา แล้วเขาจะนมาซตามหลังอัลมะฮ์ดี



อ้างอิงจากหนังสือ

ฟะรออิดุซ – ซัมตอยนิ  โดยอัลฮะมุวัยนี   เล่ม 2 หน้า  133,313 หะดีษที่430,431,563  
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:06:23 ก่อนเที่ยง


ฮะดีษมุตะวาติรที่รายงายว่าอิม่ามมะฮ์ดีประสูติแล้ว


ข้อสงสัยเกี่ยวกับอิม่ามมะฮ์ดีมี 2 ประเด็นคือ :


1, สงสัยว่า ไม่มีตัวตนจริงในโลกเป็นเพียงความเชื่ออันเลื่อนลอย


2, เชื่อว่ามี แต่สงสัยว่า เกิดแล้วหรือยัง ?
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:07:05 ก่อนเที่ยง
ประเด็นที่ 1

ตัดออกไปได้เลย เพราะเกือบทุกศาสนาและมุสลิมลงมติว่า มีจริงแน่นอน

หลักฐานจากกุรอ่านและฮะดีษคือ
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:08:30 ก่อนเที่ยง

อายะฮ์ที่ระบุว่า บุรุษชื่ออัลมะฮ์ดีต้องมีจริง

1 –

يُرِيدُونَ لِيُطْفِئُوا نُورَ اللهِ بأَفْواهِهِمْ وَاللهُ مُتِمُّ نُورِهِ وَلَوْ كَرِهَ الكَافِرُونَ

พวกเขาต้องการดับนูร(ศาสนา)ของอัลลอฮ์ด้วยปากของพวกเขา และอัลลอฮ์จะทรงทำให้รัศมีของพระองค์สมบูรณ์ และแม้นว่าบรรดาผู้ปฏิเสธจะ

รังเกียจก็ตาม
   
อัศ-ศ็อฟ  : 8  
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:09:56 ก่อนเที่ยง


อธิบาย


นูรุลเลาะฮ์

ในที่นี้หมายถึงดีนอิสลาม ( والله متم نوره ) อัลลอฮ์ตรัสว่า พระองค์จะเป็นผู้ทำให้ดีนของพระองค์สมบูรณ์ นี่เป็นการแจ้งข่าวจากอัลลอฮ์ว่า อิสลามจะ

ต้องเจิดจรัสแสงไปทั่วโลกในอนาคต สถิติประชากรโลกเดือนกรกฎาคมปี 2007 พบว่าจำนวนประชากรทั่วโลกมีประมาณ 6602 ล้านคน แต่มุสลิม

มีประมาณ 1,500 ล้านคน  ดังนั้นอายะฮ์นี้จึงยังไม่เป็นจริง แต่อัลลอฮ์นั้นทรงตรัสจริงเสมอ จึงจำเป็นจะต้องมีบุรุษผู้หนึ่ง มาทำให้อายัตนี้สมบูรณ์

สักวันหนึ่งในอนาคต ความหมายอายะฮ์นี้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องอาศัยฮะดีษใดมาขยายความ
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:11:11 ก่อนเที่ยง


อายะฮ์ที่ 2-  

وَلَقَدْ كَتَبْنَا فِي الزَّبُورِ مِنْ بَعْدِ الذّكْرِ أنَّ الارْضَ يَرِثُهَا عِبَادِي الصَّالِحُون


และโดยแน่นอนเราได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ซะบูร หลังจากที่เราได้บันทึกไว้ในเลาฮุลมะห์ฟูซว่า

แท้จริงโลกนี้จะมีปวงบ่าวของเราที่ดีมีคุณธรรมเป็นผู้สืบมรดกมัน


อัลอันบิยาอ์ : 105
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:12:17 ก่อนเที่ยง

อธิบาย


แผ่นดิน (الارض)

ในอายัตคือ โลก จนบัดนี้ยังไม่พบว่ามีบ่าวของอัลเลาะฮ์คนใดปรากฏตัวออกมาจัดตั้งรัฐแห่งความยุติธรรมเลย ดังนั้นในอนาคตจะต้องมีบุรุษหนึ่ง

มาทำให้อายัตนี้เป็นจริง   สองอายัตนี้ถือว่าเพียงพอแล้วที่พิสูจน์ว่า บุรุษที่ชื่ออัลมะฮ์ดีต้องมีจริง และข้อสงสัยในบุรุษผู้นี้ต้องโมฆะไป

สองอายัตดังกล่าวแค่บ่งชี้ว่า อัลมะฮ์ดีต้องมี แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่า เขาเกิดแล้วหรือยัง  เราจึงต้องไปดูที่ฮะดีษว่า มีรายงานไว้อย่างไร ?
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:14:00 ก่อนเที่ยง


ต่อไปนี้คือรายงานฮะดีษที่ระบุว่า     บุรุษชื่ออัลมะฮ์ดี   มีจริง



ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า :  

لَا تَذْهَبُ الدُّنْيَا أَوْ قَالَ لَا تَنْقَضِي الدُّنْيَا حَتَّى يَمْلِكَ الْعَرَبَ رَجُلٌ مِنْ أَهْلِ بَيْتِي وَيُوَاطِئُ اسْمُهُ اسْمِي


ดุนยาจะยังไม่สูญสลาย จนกว่าจะมีชายอาหรับมาปกครอง เขาสืบเชื้อสายมา จากอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  ชื่อของเขาจะตรงกับชื่อของฉัน


สถานะหะดีษ : ฮาซัน ดูมุสนัดอะหมัด หะดีษที่ 3573 ตรวจทานโดยเชคชุเอบอัลอัรนะอูฏ
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:15:12 ก่อนเที่ยง


ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า :

لا تقوم الساعة حتى تملأ الأرض ظلما و جورا و عدوانا ثم يخرج من أهل بيتي من يملأها قسطا و عدلا كما ملئت ظلما و عدوانا

วันสิ้นโลกจะยังไม่อุบัติจนกว่าโลกจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความอยุติธรรม , ความอธรรมกดขี่และความเป็นศัตรูกัน แล้วเมื่อนั้นจะมีบุรุษจากอะฮ์ลุลบัยต์

ของฉันออกมา เป็นผู้ที่จะทำให้โลกนี้เต็มเปี่ยมด้วยความเที่ยงธรรมและความยุติธรรมดั่งที่เคยเต็มเปี่ยมด้วยความอยุติธรรมและความอธรรมกดขี่


สถานะหะดีษ : ซอฮี๊ฮฺ

ดูอัลมุสตัดร็อกอัลฮากิม หะดีษที่ 8669 ตรวจทานโดยอัซ-ซะฮะบี
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:16:35 ก่อนเที่ยง


สรุป



ประเด็นที่ 1  ความเชื่อเรื่องอัลมะฮ์ดีว่า มีจริงนั้นเป็นอะกีดะฮ์ที่ถูกต้อง มีกุรอ่านและฮะดีษรายงานไว้นับพันฮะดีษจนไม่สามารถปฏิเสธได้
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:18:10 ก่อนเที่ยง


เมื่อพิสูจน์แล้วว่าอัลมะฮ์ดีนั้น  มีจริง



แต่สงสัยว่า เกิดแล้วหรือยัง ?    




เรื่องนี้มุสลิมแบ่งออกเป็น 2  กลุ่มคือ


1.   ซุนนี่เชื่อว่า   ยังไม่เกิด แต่จะเกิดในอนาคต

2.   ชีอะฮ์เชื่อว่า เกิดแล้ว ในปีฮ.ศ.255 และตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:20:12 ก่อนเที่ยง


ประเด็นที่  2  ข้อพิสูจน์ว่า อัลมะฮ์ดีเกิดแล้ว   มีบทนำ 4 หัวข้อ  :
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:23:46 ก่อนเที่ยง


หัวข้อที่ 1 -  

ประวัติศาสตร์กล่าวไว้ ซึ่งความจริงในเรื่องนี้ ต้องได้รับการยืนยันด้วยกัน 2 วิธีคือ

1.   ด้วยฮะดีษมุตะวาติร ของฝ่ายชีอะฮ์/ซุนนี่

2.   ด้วยการคำนวณความเป็นไปได้ (حساب الاحتمال)ว่าเกิดแล้วจริง

วิธีที่ 1 –

การเกิดของอัลมะฮ์ดีเป็นฮะดีษมุตะวาติรอย่างที่ทราบกันดีว่า  มีแหล่งที่มามากมายจากเหล่านักรายงานฮะดีษ ผู้เล่าแต่ละคนมาจากทั่วสาระทิศ การรายงานของพวกเขามีความสอดคล้องกัน

ฮะดีษเรื่องนี้มีรอวีย์ถึง 200 - 300 คนได้เล่าให้เราฟังว่า อัลมะฮ์ดีบุตรชายอิม่ามฮาซันอัสการีเกิดแล้ว  จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เล่า จะรวมหัวกันโกหก    

ทำให้แน่ใจว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว


วิธีที่ 2 -
   
สมมุติว่า ฮะดีษเรื่องอัลมะฮ์ดีเกิดแล้ว ไม่ถึงขั้นมุตะวาติร มีคนเล่าแค่ 4 - 5 คน แต่ถ้าเอามารวมกันจากแหล่งรายงานต่างๆ  ทำให้แน่ใจได้ด้วย

สาเหตุการคำนวนความเป็นไปได้    

เพื่อความเข้าใจวิธีที่ 2 นี้ขอให้พิจารณาตัวอย่างดังนี้ :

เซดป่วยเป็นไข้หวัด2009 ซึ่งตอนนี้วงการแพทย์ยังไม่มียารักษาให้หายได้  ต่อมาฟูลานได้มาเล่าให้เราฟังว่า เซดหายป่วยแล้ว  เราอาจเชื่อ

คำพูดฟูลานได้แค่ 30%

แต่ถ้าเราได้รับข่าวสารเพิ่มเติมว่า ตอนนี้โรคไข้หวัด2009มียาโอลเซลทามิเวียร์รักษาแล้ว เราก็ยิ่งเชื่อคำพูดฟูลานมาก

ขึ้นเป็น 40% - 50% หรือมากกว่านั้น  

ยิ่งถ้าเรารู้ว่า ตอนนี้เซดไม่ได้ทานยานั้นอีกแล้ว เพราะเขาหายแล้ว เราก็ยิ่งแน่ใจมากขึ้น  

แต่ถ้าเราได้ไปเห็นเซดด้วยตาว่า เขานั่งสนทนากับเพื่อนๆหัวเราะร่าเริง  นี่เป็นประจักษ์พยานอีกเช่นกันทำให้เราเชื่อข่าวของฟูลานได้เต็ม

100 %   ฉะนั้น

ข่าวในลักษณะแบบนี้ แม้ความจริงจะไม่ใช่ข่าวมุตะวาติร แต่เมื่อได้ข้อมูลหลายสิ่งหลายอย่างมาประติดประต่อ จึงทำให้เกิดความแน่ใจต่อข่าว

นั้น  

และความเชื่อถือ ความแน่ใจเช่นนี้เรียกว่า ข้อมูลที่เป็นไปได้ว่าจริง หมายความว่า จากข้อมูลประกอบต่างๆทำให้เรื่องที่เราได้รับฟังมา

มีน้ำหนักพอที่จะเชื่อถือได้  

ฉะนั้นการที่เราจะเชื่อถือเรื่องใดๆก็ตามทางประวัติศาสตร์ จะมีความสมบูรณ์ได้ด้วยสองวิธีการดังกล่าวมาคือ

1, เป็นเรื่องมุตะวาติร

2, ถูกคำนวนว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริง
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:28:28 ก่อนเที่ยง


หัวข้อที่ 2 -

 
ฮะดีษมุตะวาติร ไม่จำเป็นว่า รอวีย์ต้องษิเกาะฮ์ เพราะเงื่อนไขษิเกาะฮ์(ความน่าเชื่อถือในคำพูด)ถูกกำหนดไว้กับฮะดีษชนิดอื่น

เช่นมีคนเพียง 2 ถึง 3 คนรายงานเรื่องหนึ่งให้เราฟัง กรณีนี้เพื่อทำให้เรื่องนั้นยึดถือเป็นหลักฐานได้ มีเงื่อนไขว่า

รอวีย์ต้องอาดิล(มีคุณธรรม)               แต่ถ้าหากเรื่องนั้นมีคนรายงานถึง100 ,200หรือ 300 คน จำนวนรอวีย์ขนาดนั้นหมายความว่า ได้ทำให้เรื่องนั้นเป็นมุตะวาติรไปโดยปริยาย      จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบความอาดิลของรอวีย์  


ฉะนั้น 1,ความอาดิล และ  2,ความษิเกาะฮ์ เป็นเงื่อนไขสำหรับฮะดีษที่ไม่ถึงขั้นมุตะวาติร    จงระวังอย่าได้สับสนระหว่างฮะดีษมุตะวาติรกับฮะดีษที่ไม่มุตะวาติร   เพราะบางคนคิดว่าจำเป็นต้องนำ 2 เงื่อนไขนี้มาใช้ตรวจสอบฮะดีษมุตะวาติร  ซึ่งถือว่า ความคิดนี้ผิด
เงื่อนไขอาดิลกับษิเกาะฮ์นี้ คือมาตรการตรวจสอบฮะดีษชนิดอื่น ที่ไม่อยู่ในระดับมุตะวาติร


ถาม

ทำไม 2 เงื่อนไขนี้จึงไม่ต้องนำมาใช้กับฮะดีษมุตะวาติร ?  

ตอบ

1, ฮะดีษมุตะวาติรกำหนดให้เราเชื่อได้ 100% เพราะมีคนรายงานไว้มากมาย
ดังนั้นหลังจากเราได้รับความแน่ใจ 100 % ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปตรวจสอบความอาดิลและษิเกาะฮ์ของรอวีย์  
บนพื้นฐานเช่นนี้จึงถือว่า ไม่ใช่สิทธิและไม่ถูกต้องที่เรา จะหยิบยกฮะดีษที่รายงานว่า อัลมะฮ์ดีเกิดแล้ว หรือฮะดีษที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของอัลมะฮ์ดีขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันอีกว่า :  

สะนัดฮะดีษเรื่องนี้   ดออีฟ (อ่อนแอ ) , สะนัดฮะดีษเรื่องนี้   มัจญ์ฮูล (ผู้รายงานไม่เป็นที่รู้จัก )  
หรือ
ฮะดีษเรื่องอิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้วบทนี้มัจญ์ฮูล ฮะดีษบทนั้นก็มัจญ์ฮูล  ฮะดีษอิม่ามมะฮ์ดีบทที่ 1,ที่ 2 ที่ 3และที่ 4...ก็มัตรูก(ถูกทิ้ง) เพราะว่า มันเป็นฮะดีษที่ไม่ซอเฮี๊ยะห์ ยึดเป็นหลักฐานไม่ได้

2, ท่านต้องเข้าใจว่า ฮะดีษที่รายงานว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้วนั้น เป็นฮะดีษมุตะวาติร  จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบ เพราะมาตรการตรวจสอบนี้ จะถูกนำไปใช้กับฮะดีษที่ไม่อยู่ในสถานะมุตะวาติรเท่านั้น  
 
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:32:50 ก่อนเที่ยง


หัวข้อที่ 3 -  


สมมุติว่า   ข้อมูลฮะดีษเรื่องที่อิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว  

ประเด็นหลักมีความหมายตรงกัน  

แต่ในรายละเอียดนั้นแตกต่าง


มันก็ยังสร้างความมั่นใจได้อยู่ดีว่า อัลมะฮ์ดีเกิดแล้วจริง  เพื่อความเข้าใจขอให้ท่านพิจารณาตัวอย่างดังต่อไปนี้ :

เราทราบว่า   นายเซดป่วยเป็นไข้หวัด2009  

เวลาต่อมานาย A มาบอกข่าวกับเราว่า เซดหายดีแล้วตอนบ่ายโมง,
ต่อมานาย B มาบอกว่า เซดหายแล้วตอนสองโมงเย็น,
แล้วต่อมานาย C มาแจ้งว่า เซดหายแล้วตอนสามโมงเย็น

ทั้งนาย A, B และ C ล้วนแจ้งเวลาที่เซดหายป่วยไม่ตรงกันสักคน  

แต่ข่าวที่ทั้ง 3 คนเล่าตรงกันคือ  ที่แน่ๆเซดหายป่วยแล้ว


ทีนี้ถ้าหากมีคนที่ 4, 5 และ 6 มาบอกเราอีกว่า   ที่เซดหายป่วยเพราะเซดใช้ยายี้ห้อนั้นยี่ห้อนี้  จะเห็นได้ว่า ความแตกต่างในเรื่องที่คนมาเล่าให้เรารับรู้ว่า เซดหายป่วย ที่จริงแตกต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อยคือ  
เวลาที่หายป่วย    และยี้ห้อยาที่ใช้

แต่ประเด็นหลักที่บอกตรงกันคือ  " เซดหายป่วยแล้ว "  

ถาม
หากเราพบหรือได้ยินเรื่องในลักษณะเช่นนี้ มันพอจะพิสูจน์ได้ไหมว่า เซดหายแล้วจริงๆ ?  
แน่นอนคำบอกเล่าลักษณะเช่นนี้สามารถทำให้ผู้ฟัง เกิดความเชื่อถือได้   ประเด็นหลักคือ ทั้งสามคนแจ้งว่า เซดหายแล้ว  แต่ทั้ง3 คนได้เล่ารายละเอียดเรื่องเวลาแตกต่างกัน

ผลลัพท์ที่ได้ก็คือ  ลักษณะการรายงานฮะดีษเรื่องหนึ่ง ที่มีคนรายงานจำนวนมากมายหลายกระแสหลายทิศทาง เมื่อฮะดีษนั้นมีประเด็นตรงกันในมุมหนึ่งหรือด้านหนึ่งโดยเฉพาะ อันเป็นประเด็นหลัก เราย่อมจะได้รับความแน่ใจในเรื่องนั้นได้ แม้จะมีรายละเอียดของเนื้อเรื่องแตกต่างกันบ้าง

เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มีสิทธิ ที่จะนำฮะดีษที่รายงานว่าอิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว มาวิพากษ์วิจารณ์กันอีกต่อไป ด้วยข้ออ้างที่ว่า รายละเอียดของฮะดีษเหล่านั้นมันขัดแย้งกัน มันแตกต่างกันเช่น :

รอวีย์คนที่ 1 เล่าว่ามารดาของอิม่ามมะฮ์ดีชื่อนัรญิส, คนที่ 2 บอกชื่อซูซัน คนที่ 3 บอกว่าชื่อ...

หรือ
รอวีย์คนที่ 1เล่าว่า  อิม่ามมะฮ์ดีเกิดคืนวันศุกร์ คนที่ 2 เล่าว่าเกิดคืนวันเสาร์  

หรือ
รอวีย์คนที่ 1 เล่าว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดฮ.ศ. 250  คนที่ 2 เล่าว่า เกิดฮ.ศ.ที่ 255  คนที่ 3 บอกว่าเกิดฮ.ศ. 260


แล้วก็เลยสรุปเอาเองว่า ฮะดีษเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้หรือไม่เป็นที่ยอมรับ
เพราะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันทั้งวัน/เดือน/ปีเกิด  และชื่อมารดาก็ไม่เหมือนกัน...

ทำไมเขาจึงมองข้ามประเด็นหลัก ที่รายงานตรงกันว่า อัลมะฮ์ดีได้เกิดแล้วในศตวรรษที่สาม
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:38:23 ก่อนเที่ยง

หัวข้อที่ 4 -


เราไม่มีสิทธิอิจญ์ติฮ๊าด(วิจัย)เรื่องศาสนาที่ขัดกับตัวบทหลักฐาน (اجتهاد فی مقابل النص)
ในเมื่อเรามีตัวบท(نص) ที่ระบุชัดเจนและมีสายรายงานที่สมบูรณ์จากสองวิธีการดังกล่าว        เพื่อความเข้าใจขอให้ท่านพิจารณาตัวอย่างดังต่อไปนี้  :

อัลลอฮ์ตรัสว่า :

 وَأقِيمُوا الصَّلاَةَ وَآتُوا الزَّكَاة  

พวกเจ้าจงดำรงนมาซ และจ่ายซะกาต  
อัลบะก่อเราะฮ์ : 43


โองการ(อายะฮ์)นี้ระบุชัดว่า   อัลลอฮ์ต้องการให้มุสลิมทำนมาซและจ่ายทานซะกาต

เรียกว่า  เฏาะลับ -  طلب  - แปลว่า ความต้องการ  หรือเรียกร้องให้กระทำ  

สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจคือ

คำสั่งนี้เป็น  วาญิบ(จำเป็นต้องปฏิบัติ )  หรือ มุสตะฮับ(ส่งเสริมให้ปฏิบัติ ซึ่งสามารถละทิ้งได้ โดยไม่ถูกตำหนิ)


ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  
หากมีมุสลิมคนหนึ่งออกมาประกาศว่า ผมจะอิจญ์ติฮ๊าดอายัตนี้ว่า มันไม่ได้ระบุว่า อัลลอฮ์ต้องการให้มุสลิมทำนมาซและจ่ายซะกาต  ซึ่งถ้าใครจะมาวิจัยเช่นนี้  ถือว่าเป็นการวิจัยที่ขัดกับตัวบทอัลกุรอ่าน


แต่ถ้าจะทำการวิจัยว่า ความต้องการในอายัตนี้ เป็นวาญิบหรือมุสตะฮับ  อันนี้อนุญาติให้อิจญ์ติฮ๊าดได้


กรณีฮะดีษเรื่องอิมามมะฮ์ดีเกิดแล้วนั้นก็เช่นกัน   มุสลิมไม่มีสิทธิจะมากล่าวว่า  ผมจะวิจัยฮะดีษที่บอกว่าอิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว  เป็นการกระทำที่ไร้ความหมาย

เพราะฮะดีษที่รายงานว่าอัลมะฮ์ดีเกิดแล้วเป็นฮะดีษมุตะวาติรว่าท่านเกิดแล้วในศตวรรษที่สามของฮิจเราะฮ์ศักราช  

ดังนั้นการอิจญ์ติฮ๊าด(การวิจัย)ในเรื่องนี้จึงไม่มีผลตอบสนองใดๆ เพราะสถานะของฮะดีษ อยู่ในระดับมุตะวาติร
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:48:36 ก่อนเที่ยง



อะไรคือ   ปัจจัยเหตุที่ทำให้แน่ใจว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว  ???



เรามีหลายเหตุผล ด้วยกัน  ที่พิสูจน์ว่า    ท่านอิม่ามมะฮ์ดี  บุตรอิม่ามฮาซันอัสการี   เกิดมานานแล้ว


เชิญท่าน ร่วมพิจารณาไปพร้อมๆกัน.......
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 10:50:15 ก่อนเที่ยง
เหตุผลที่ 1 –
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:10:00 ก่อนเที่ยง

เหตุผลที่ 1 –

เป็นฮะดีษมุสัลละมาต (مُسَلَّمَاتٌ) คือที่ได้รับการยอมรับทั้งฝ่ายชีอะฮ์และซุนนี่ว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว


ขอยกตัวอย่างเพียง 3 ฮะดีษเท่านั้น

ฮะดีษที่ 1 -   ฮะดีษษะก่อลัยน์

เป็นฮะดีษมุตะวาติรของชีอะฮ์และซุนนี่ ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวไว้หลายวาระหลายสถานที่ด้วยกัน เช่น

ที่การทำฮัจญ์ครั้งสุดท้าย(ฮัจญะตุลวิดาอ์)  

ที่ฆ่อดีรคุม

ที่บ้านท่านตอนที่ท่านใกล้จะสิ้นใจ


เนื่องด้วยตัวบทฮะดีษษะเกาะลัยน์นั้นมีความแตกต่างกันไป อันเนื่องมาจากผู้รายงานแต่ละคนได้ฟังฮะดีษมาคนละสถานที่คนละเวลา

เราจึงขอยกรายงานหะดีษเหล่านั้นที่มีสถานะ  \\\" มุตะวาติร \\\"   ทั้งลัฟซี  หรือมะอ์นาวี  มากล่าวดังต่อไปนี้


ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ)กล่าวว่า :  

يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنِّى قَدْ تَرَكْتُ فِيكُمْ مَا إِنْ أَخَذْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا كِتَابَ اللَّهِ وَعِتْرَتِى أَهْلَ بَيْتِى

โอ้ประชาชนทั้งหลาย ! แท้จริงฉันได้ทิ้งไว้ให้แก่พวกท่านถึงสิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้นแล้ว  พวกท่านจะไม่หลงทางโดยเด็ดขาด สิ่ง

นั้นคือคัมภีร์ของอัลลอฮฺ  และอิตเราะตี(คือ)อะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน


อ้างอิงจากหนังสือชีอะฮ์  :

อัลกาฟี  โดยเชคกุลัยนี เล่ม 2 : 415 ฮะดีษที่ 1

และหนังสือซุนนี่

ซอฮี๊ฮฺ ดูซอฮีฮุต-ติรมิซี   หะดีษที่  2978   ตรวจทานโดยเชคอัลบานี

สถานะฮะดีษ :  ซอฮี๊ฮฺ    ดูหนังสือซิลซิละตุซ ซอฮีฮะฮ์ โดยเชคอัลบานี  ฮะดีษที่ 1761



 
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:14:21 ก่อนเที่ยง


قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمْ خَلِيفَتَيْنِ كِتَابُ اللَّهِ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مَا بَيْنَ السَّمَاءِ وَالْأَرْضِ أَوْ مَا بَيْنَ السَّمَاءِ إِلَى الْأَرْضِ وَعِتْرَتِي أَهْلُ بَيْتِي وَإِنَّهُمَا لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)กล่าวว่า :

 แท้จริงฉันได้มอบ  2  คอลีฟะฮ์  ไว้ในหมู่พวกท่าน

(คอลีฟะฮ์แรกคือ) คัมภีร์ของอัลเลาะฮ์คือเชือกทอดอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน และ

(คอลีฟะฮ์ที่สอง) อิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน

และแท้จริงสองสิ่งนี้จะไม่มีวันแยกจากกัน จนกว่าจะกลับมายังฉันที่อัลเฮาฎ์(สระเกาซัร)


สถานะฮะดีษ : ซอฮี๊ฮฺ

ดูซอฮีฮุล ญามิอิซ-ซอฆีร ฮะดีษที่ 2457  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:18:22 ก่อนเที่ยง


رِوَايَةُ زَيْدِ بْنِ أَرْقَمَ :
ثُمَّ قَالَ قَامَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- يَوْمًا فِينَا خَطِيبًا بِمَاءٍ يُدْعَى خُمًّا بَيْنَ مَكَّةَ وَالْمَدِينَةِ فَحَمِدَ اللَّهَ وَأَثْنَى عَلَيْهِ وَوَعَظَ وَذَكَّرَ ثُمَّ قَالَ « أَمَّا بَعْدُ أَلاَ أَيُّهَا النَّاسُ فَإِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ يُوشِكُ أَنْ يَأْتِىَ رَسُولُ رَبِّى فَأُجِيبَ وَأَنَا تَارِكٌ فِيكُمْ ثَقَلَيْنِ أَوَّلُهُمَا كِتَابُ اللَّهِ فِيهِ الْهُدَى وَالنُّورُ فَخُذُوا بِكِتَابِ اللَّهِ وَاسْتَمْسِكُوا بِهِ ». فَحَثَّ عَلَى كِتَابِ اللَّهِ وَرَغَّبَ فِيهِ ثُمَّ قَالَ « وَأَهْلُ بَيْتِى أُذَكِّرُكُمُ اللَّهَ فِى أَهْلِ بَيْتِى أُذَكِّرُكُمُ اللَّهَ فِى أَهْلِ بَيْتِى أُذَكِّرُكُمُ اللَّهَ فِى أَهْلِ بَيْتِى »

เซด บิน อัรกอมรายงาน :

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)ได้ยืนปราศรัยในหมู่พวกเราวันหนึ่งที่แหล่งน้ำชื่อว่า (เฆาะดีร) คุม อยู่ระหว่างเมืองมักกะฮ์กับเมืองมะดีนะฮ์ ท่านได้สรรเสริญอัลลอฮ์ สดุดีพระองค์ และได้ตักเตือน ย้ำให้ระลึก จากนั้นท่านกล่าวว่า : อัมมาบะอ์ดุ  

พึงทราบเถิดท่านทั้งหลาย  อันที่จริงฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่ง รอซูลแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน(คือมลาอิกัลมูต)นั้นใกล้จะมา(รับชีวิตฉันไป)แล้ว และฉันก็ตอบรับแล้ว  และ

ฉันได้มอบสิ่งหนักสองสิ่งไว้ในหมู่พวกท่าน  สิ่งแรกคือกิตาบุลเลาะฮ์(อัลกุรอาน)
ในนั้นคือทางนำและแสงสว่าง  ดังนั้นพวกท่านจงจับคัมภีร์ของอัลลอฮ์ไว้ และจงยึดมันให้มั่น   แล้วท่านได้แนะนำให้ปฏิบัติตามคัมภีร์   ถัด

จากนั้นท่านกล่าวว่า  และ(สอง)อะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  

ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน
ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  
ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  


อ้างอิงจาก

ซอฮี๊ฮฺมุสลิม กิตาบฟะฎออิลุซ-ซอฮาบะฮ์   บาบมิน ฟะฎออิลิอะลี ฮะดีษที่ 4425
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:21:15 ก่อนเที่ยง



عَنْ جَعْفَرِ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنْ أَبِيهِ عَنْ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ قَالَ :
رَأَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- فِى حَجَّتِهِ يَوْمَ عَرَفَةَ وَهُوَ عَلَى نَاقَتِهِ الْقَصْوَاءِ يَخْطُبُ فَسَمِعْتُهُ يَقُولُ « يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنِّى قَدْ تَرَكْتُ فِيكُمْ مَا إِنْ أَخَذْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا كِتَابَ اللَّهِ وَعِتْرَتِى أَهْلَ بَيْتِى ».


ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด จากบิดาเขา(มุฮัมมัดบินอะลี)จากญาบิร บินอับดุลลอฮฺ รายงาน :

ฉันได้เห็นท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)ในการประกอบพิธีฮัจญ์ของท่านในวันอะเราะฟะฮ์ ซึ่งท่านอยู่บนหลังอูฐกำลังปราศรัย

แล้วฉันได้ยินท่านกล่าวว่า

โอ้ประชาชนทั้งหลาย แท้จริงฉัน ทิ้งไว้ให้แก่พวกท่านถึงสิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้น  พวกท่านจะไม่หลงทางโดยเด็ดขาด สิ่งนั้นคือ

1.   คัมภีร์ของอัลลอฮฺ(อัลกุรอาน) และ

2.   อิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน


สถานะหะดีษ  :   เศาะหิ๊หฺ  

ดูซอฮีฮุต-ติรมีซี  หะดีษที่ 2978    ตรวจทานโดยเชคอัลบานี
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:22:43 ก่อนเที่ยง

عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الْخُدْرِيِّ قَالَ :
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنِّي قَدْ تَرَكْتُ فِيكُمْ الثَّقَلَيْنِ أَحَدُهُمَا أَكْبَرُ مِنْ الْآخَرِ كِتَابُ اللَّهِ عَزَّ وَجَلَّ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مِنْ السَّمَاءِ إِلَى الْأَرْضِ وَعِتْرَتِي أَهْلُ بَيْتِي أَلَا إِنَّهُمَا لَنْ يَفْتَرِقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ

อบูสะอีด อัลคุดรีรายงาน :

ท่านรอซูลุลลอฮฮ์ (ศ็อลฯ)กล่าวว่า : แท้จริงฉัน ได้ทิ้งสิ่งหนักสองสิ่งไว้ให้กับพวกท่าน สิ่งแรกใหญ่กว่าอีกสิ่งหนึ่งคือ

1.   กิตาบุลเลาะฮ์(อัลกุรอาน)อัซซะวะญัลคือเชือกที่ทอดจากชั้นฟ้ามายังโลกและ

2.   อิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  

พึงรู้เถิดว่า แท้จริงทั้งสองสิ่งจะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาหาฉันที่อัลเฮาฎ์(สระเกาษัร)  


สถานะฮะดีษ  : ซอฮี๊ฮฺ  

ดูมุสนัดอะหฺมัด   ฮะดีษที่ 11227 ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:24:24 ก่อนเที่ยง


عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الْخُدْرِيِّ قَالَ :
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنِّي قَدْ تَرَكْتُ فِيكُمْ مَا إِنْ أَخَذْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا بَعْدِي الثَّقَلَيْنِ أَحَدُهُمَا أَكْبَرُ مِنْ الْآخَرِ كِتَابُ اللَّهِ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مِنْ السَّمَاءِ إِلَى الْأَرْضِ وَعِتْرَتِي أَهْلُ بَيْتِي أَلَا وَإِنَّهُمَا لَنْ يَفْتَرِقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ

อบูสะอีด อัลคุดรีรายงาน :

ท่านรอซูลุลลอฮฮ์ (ศ็อลฯ)กล่าวว่า : แท้จริง แน่นอนยิ่งฉัน ทิ้งไว้ให้แก่พวกท่านถึงสิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้น  พวกท่านจะไม่หลงทางหลังจากฉันโดยเด็ดขาด สิ่งแรกใหญ่กว่าอีกสิ่งหนึ่งคือ

1.   กิตาบุลเลาะฮ์(อัลกุรอาน)คือเชือกที่ทอดจากชั้นฟ้ามายังโลกและ

2.   อิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  

พึงรู้เถิดว่า แท้จริงทั้งสองสิ่งจะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาหาฉันที่อัลเฮาฎ์(สระเกาษัร)  


สถานะฮะดีษ  : ซอฮี๊ฮฺ  

ดูมุสนัดอะหฺมัด   ฮะดีษที่ 11578 ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:27:44 ก่อนเที่ยง


عَنْ زَيْدِ بْنِ ثَابِتٍ قَالَ :
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمْ خَلِيفَتَيْنِ كِتَابُ اللَّهِ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مَا بَيْنَ السَّمَاءِ وَالْأَرْضِ أَوْ مَا بَيْنَ السَّمَاءِ إِلَى الْأَرْضِ وَعِتْرَتِي أَهْلُ بَيْتِي وَإِنَّهُمَا لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ

เซด บินษาบิตรายงาน :

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)กล่าวว่า : แท้จริงฉันได้มอบสองคอลีฟะฮ์ไว้ในหมู่พวกท่าน

1.   คัมภีร์ของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน)คือเชือกที่ทอดอยู่ระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน และ

2.   อิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน


และแท้จริงทั้งสองสิ่งจะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาพบฉันที่อัลเฮาฎ์(สระเกาษัร)


สถานะหะดีษ  :   เศาะหิ๊หฺ  

ดูมุสนัดอิหม่ามอะหฺมัด   หะดีษที่ 21618 ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:53:03 ก่อนเที่ยง


ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)กล่าวว่า :


إِنِّي تَرَكْتُ فِيكُمُ الْخَلِيفَتَيْنِ كَامِلَتَيْنِ : كِتَابَ اللَّهِ ، وَعِتْرَتِي ، وَإِنَّهُمَا لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ


แท้จริงฉันได้มอบ 2 คอลีฟะฮ์ ที่สมบูรณ์แบบ ไว้ในหมู่พวกท่าน


1.   คัมภีร์ของอัลลอฮ์(อัลกุรอ่าน) และ

2.   อิตเราะฮ์ (วงศ์วาน) ของฉัน

และแท้จริงทั้งสองสิ่ง จะไม่แยกจากกันอย่างเด็ดขาด จนกระทั่งทั้งสองจะกลับมาพบฉันที่อัลเฮาฎ์(สระเกาษัร)


สถานะหะดีษ  เศาะหิ๊หฺ  

ดูมุสนัด อิบนิอบีชัยบะฮ์ (ฮ.ศ. 159- 235) หะดีษที่ 135
อัลมุอ์ญัม กะบีร  โดยอัฏฏ็อบรอนี (ฮ.ศ. 260- 360) หะดีษที่ 4922
ดูซิลลาลุลญันนะฮ์ โดยเชคอัลบานี (เกิดฮ.ศ. 1333 ) หะดีษที่ 754,1548
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 11:56:48 ก่อนเที่ยง


อธิบาย :  


คำว่า  " หากยึด จะไม่หลง"  คือหากทำปฏิบัติตาม จะถือว่าอยู่บนหนทางที่เที่ยงตรง


คำว่า " ทั้งสองสิ่งจะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาหาฉันที่อัลเฮาฎ์ " คืออัลกุรอานกับอะฮ์ลุลบัยต์นบี จะต้องอยู่คู่กันนับจากวันที่ท่านนบี(ศ)กล่าวไว้จนถึงวันกิยามะฮ์


ฮะดีษนี้แสดงว่า อะฮ์ลุลบัยต์จะต้องมีตัวตนจริงๆและต้องมีชีวิตอยู่คู่กับคัมภีร์อัลกุรอานเสมอ ซึ่งภาษาอาหรับเรียกว่า   อิสติมร็อร (إستمرار) หมายถึง ต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ


เราไม่อาจตีความฮะดีษบทนี้เป็นอื่นได้ นอกจากต้องยอมรับว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดมานานแล้ว เพียงแต่ท่านไม่ยอมปรากฏตัวให้ใครเห็นเท่านั้น
เพราะถ้าเชื่อว่า ท่านยังไม่เกิด  แต่จะไปเกิดในอนาคต ก็เท่ากับคัมภีร์กุรอ่านกับอะฮ์ลุลบัยต์ไม่ได้อยู่คู่กัน  
ถ้ามุสลิมคนใดมีความเชื่อแบบนี้ก็เท่ากับเขาได้กล่าวหาว่า ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)พูดเท็จเพราะท่านนบีกล่าวว่า ( สองสิ่งนี้จะไม่แยกจากกัน...)  
ถ้าจะพิสูจน์ว่าฮะดีษนี้ไม่โกหก เราก็จำเป็นต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้มีอะฮ์ลุลบัยต์นบี ที่มีชีวิตอยู่คู่กับคัมภีร์กุรอ่านมาโดยตลอดจนถึงวันกิยามัต


จึงทำให้ต้องยอมรับว่า อิม่ามมะฮ์ดีได้เกิดมาบนโลกแล้ว มิเช่นนั้นฮะดีษษะก่อลัยน์ก็จะขัดกับความเป็นจริงในยุคปัจจุบันนี้  ทั้งๆที่ฮะดีษนี้เป็นฮะดีษซอเฮี๊ยะห์ของทั้งสองฝ่าย
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:02:49 หลังเที่ยง

ฮะดีษที่ 2 – ฮะดีษ 12  ผู้นำ  (حديث الاثني عشرخليفة)  


เป็นฮะดีษซอเฮี๊ยะห์ของซุนนี่ทั้งบุคอรีย์และมุสลิมและอาลิมคนอื่นๆต่างบันทึกไว้ในตำราฮะดีษ และจากฝ่ายชีอะฮ์มีทั้งท่านเชคศอดูกและเชคตูซี่ได้บันทึกไว้ รายงานโดยท่านญาบิร บิน สะมุเราะฮ์และซอฮาบะฮ์คนอื่นๆ

«إنّ هذا لا ينقضي حتى يمضي فيهم اثنا عشر خليفة»، ثم تكلّم بكلام خفي عليّ، فقلت لابي ما قال؟ قال: كلّهم من قريش.

ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า :
แท้จริงกิจการ(อิสลาม)นี้ จะยังไม่สิ้นสุด จนกว่า 12 ค่อลีฟะฮ์จะดำเนินมาถึงพวกเขา   แล้วท่านนบีพูดด้วยถ้อยคำแผ่วเบาแก่ฉัน    ฉัน(ญาบิร)ได้ถามบิดาของฉันว่า : ท่านพูดอะไร ? บิดาบอกว่า : ท่านกล่าวว่า : พวกเขาทั้งหมดมาจากเผ่ากุเรช

อ้างอิงจากหนังสือชีอะฮ์

กะมาลุดดีน เชคศอดูก หน้า 272  และอัลฆ็อยบะฮ์ เชคตูซี หน้า 128  


عَنْ عَبْدِ الْمَلِكِ سَمِعْتُ جَابِرَ بْنَ سَمُرَةَ قَالَ سَمِعْتُ النَّبِىَّ - صلى الله عليه وسلم - يَقُولُ « يَكُونُ اثْنَا عَشَرَ أَمِيرًا - فَقَالَ كَلِمَةً لَمْ أَسْمَعْهَا فَقَالَ أَبِى إِنَّهُ قَالَ - كُلُّهُمْ مِنْ قُرَيْشٍ »

ท่านนบี (ศ) กล่าวว่า :

จะมี 12 ผู้นำเกิดขึ้น แล้วท่านกล่าวคำหนึ่งซึ่งฉันได้ยินไม่ถนัด  บิดาของฉันจึงบอกว่า : แท้จริงท่านกล่าวว่า : พวกเขาทั้งหมดมาจากเผ่ากุเรช

ซอฮีฮุลบุคอรี  หะดีษที่ 7222



عَنْ جَابِرِ بْنِ سَمُرَةَ قَالَ دَخَلْتُ مَعَ أَبِى عَلَى النَّبِىِّ -صلى الله عليه وسلم- فَسَمِعْتُهُ يَقُولُ « إِنَّ هَذَا الأَمْرَ لاَ يَنْقَضِى حَتَّى يَمْضِىَ فِيهِمُ اثْنَا عَشَرَ خَلِيفَةً ». قَالَ ثُمَّ تَكَلَّمَ بِكَلاَمٍ خَفِىَ عَلَىَّ - قَالَ - فَقُلْتُ لأَبِى مَا قَالَ قَالَ « كُلُّهُمْ مِنْ قُرَيْشٍ ».

ท่านนบี ศ็อลฯกล่าวว่า :

แท้จริงกิจการ(อิสลาม)นี้ จะยังไม่สิ้นสุด จนกว่า 12 ค่อลีฟะฮ์(ผู้ปกครอง)จะดำเนินมาถึงพวกเขา      ญาบิรเล่าว่า : แล้วท่านนบีพูดด้วยถ้อยคำแผ่วเบาแก่ฉัน    ญาบิรเล่าว่า : ฉันได้ถามบิดาของฉันว่า : ท่านพูดอะไร ? บิดาบอกว่า : ท่านกล่าวว่า : พวกเขาทั้งหมดมาจากเผ่ากุเรช


ซอฮี๊ฮฺมุสลิม  หะดีษที่ 4809  
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:04:03 หลังเที่ยง


อธิบาย :

ฮะดีษ 12 ผู้นำบทนี้เป็นฮะดีษมุสัลละม๊าต แต่คุณสมบัติของผู้นำมุสลิมตามหลักศาสนาอิสลามในฮะดีษบทนี้ไม่ตรงกับผู้ใดเลย นอกจากบรรดาอิม่ามทั้ง 12 คนที่มาจากอะฮ์ลุลบัยต์นบี

บุคลิก12 คอลีฟะฮ์ในฮะดีษบทนี้เป็นเรื่องฆ็อยบียะฮ์(เร้นลับ)ที่ท่านนบี(ศ)บอกข่าวถึงคอลีฟะฮ์ที่จะดำรงชีวิตอยู่ไปจนถึงวันกิยามัต  เขาผู้นั้นจึงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก อิม่ามมะฮ์ดี (อ)

ฮะดีษ 12 คอลีฟะฮ์จึงแสดงว่า อิม่ามฮาซันอัสการีย์ได้ให้กำเนิดอิม่ามมะฮ์ดีย์ไว้แล้ว ก่อนที่ท่านจะสิ้นชีพ ถ้ามิเช่นนั้นอิม่ามมะฮ์ดีย์จะเกิดจากบิดาได้อย่างไรอีก เมื่อบิดาของท่านได้สิ้นชีพไปพันกว่าปีแล้ว
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:08:41 หลังเที่ยง

ฮะดีษที่ 3 –  สะนัดฮะดีษก็เป็นมุสัลละม๊าตของทั้งซุนนี่ / ชีอะฮ์อีกเช่นกัน  
   

ฮะดีษฝ่ายซุนนี่    

مَنْ مَاتَ وَلَيْسَ فِى عُنُقِهِ بَيْعَةٌ مَاتَ مِيتَةً جَاهِلِيَّةً

ท่านรอซูลุลลอฮ์ ศ็อลฯ กล่าวว่า :

บุคคลใดตายไปและเขาไม่ได้ให้สัตยาบันไว้กับผู้นำของเขา บุคคลนั้นได้ตายในสภาพพวกงมงาย(ยุคก่อนอิสลามประกาศ)  

ซอฮี๊ฮฺมุสลิม หะดีษที่ 4899  


مَنْ مَاتَ بِغَيْرِ إِمَامٍ مَاتَ مِيتَةً جَاهِلِيَّةً

ท่านรอซูลุลลอฮ์ ศ็อลฯ กล่าวว่า :

บุคคลใดตายไปโดยที่เขาไม่มีอิหม่าม(ในยุคของเขา)  บุคคลนั้นได้ตายในสภาพพวกงมงาย(ยุคก่อนอิสลามประกาศ)  


สถานะหะดีษ  :  ซอฮีฮุ  

ดูมุสนัดอิม่ามอะหมัด หะดีษที่ 16922 ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ



ฮะดีษฝ่ายชีอะฮ์  

 ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า :

مَنْ مَاتَ وَلَمْ يَعْرِفْ إِمَامَ زَمَانِهِ مَاتَ مِيتَةً جَاهِلِيَّةً

บุคคลใดตายไปโดยที่เขาไม่ได้รู้จักอิหม่ามในยุคของเขา  บุคคลนั้นได้ตายในสภาพพวกงมงาย(ยุคก่อนอิสลามประกาศ)  


อัลกาฟี โดยเชคกุลัยนี   เล่ม 1 หน้า 377 ฮะดีษเลขที่ 3
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:10:08 หลังเที่ยง

อธิบาย :


ถ้ามุสลิมคนใดไม่ยอมรับว่า อิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้วในตอนนี้ ก็หมายความว่า บุคคลนั้นยังไม่รู้จักอิหม่ามผู้นำในสมัยของเขาว่าเป็นใคร ดังนั้นก็จะตายในสภาพญาฮิลียะฮ์  


หากว่าตอนนี้อิม่ามมะฮ์ดียังไม่เกิด แล้วเราจะทำความรู้จักกับอิม่ามผู้นำในยุคของเราได้อย่างไร



จากฮะดีษสามเรื่องดังกล่าวแม้ว่า จะไม่บอกตรงๆถึงการมีอยู่ของอิม่ามมะฮ์ดี(อ) แต่ก็แสดงให้เห็นว่า อิม่ามมะฮ์ดีต้องเกิดมาแล้วอย่างแน่นอน
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:12:46 หลังเที่ยง


เหตุผลที่ 2 –
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:13:54 หลังเที่ยง


เหตุผลที่ 2 –


มีฮะดีษ(วจนะ)ที่ท่านนบี(ศ)และบรรดาอิม่าม(อ)แจ้งไว้ล่วงหน้าว่า : ในอนาคตอิม่ามฮาซันอัสการีย์จะมีบุตรชาย ซึ่งบุตรคนนี้คือผู้ที่จะทำให้โลกเต็มเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรมและเขาจะหายตัวไปจากสังคม  มุสลิมทุกคนจำเป็นต้องเชื่อสิ่งนี้ ฮะดีษลักษณะเช่นนี้มีมากมาย  เช่น  เชคศอดูกได้บันทึกไว้ในหนังสือกะมาลุดดีน เขาได้ตั้งชื่อเรื่องนี้ไว้ในหลายบท(บาบ)ด้วยกันคือ :

باب ما روي عن النبي في الامام المهدي، ذكر فيه خمسة وأربعين حديثاً.
باب ما روي عن أمير المؤمنين (عليه السلام) في الامام المهدي.
باب عن الزهراء سلام الله عليها وما ورد عنها في الامام المهدي (عليه السلام)، ذكر فيه أربعة أحاديث.
ثم عن الامام الحسن (عليه السلام)، ذكر فيه حديثين.
ثم عن الامام الحسين (عليه السلام)، ذكر فيه خمسة أحاديث.
ثم عن الامام السجاد (عليه السلام)، ذكر فيه تسعة أحاديث.
ثم عن الامام الباقر (عليه السلام)، ذكر فيه سبعة عشر حديثاً.
ثم عن الامام الصادق (عليه السلام)، ذكر فيه سبعة وخمسين حديثاً.  

แปลไทย

ฮะดีษเรื่องอิม่ามมะฮ์ดี(อ)ที่รายงานจากท่านนบี(ศ)มี 45 ฮะดีษ,
จากท่านอิมามอาลี(อ) 1 ฮะดีษ,
จากท่านหญิงฟาติมะฮ์ 4 ฮะดีษ,
จากอิมามฮาซัน(อ) 2 ฮะดีษ,
จากอิมามฮุเซน(อ) 5 ฮะดีษ,
จากอิมามซัยนุลอาบิดีน 9 ฮะดีษ,
จากอิมามบาเก็ร 17 ฮะดีษ,
จากอิมามศอดิก(อ) 57 ฮะดีษ  

รวมได้ 100 กว่าฮะดีษจากหนังสือกะมาลุดดีนของเชคศอดูกเพียงเล่มเดียวยังไม่รวมฮะดีษที่บันทึกอยู่ในหนังสืออัลกาฟีย์ของเชคกุลัยนี,หนังสืออัลฆ็อยบะฮ์ของเชคตูซีย์และหนังสือบิฮารุลอันวารของอัลลามะฮ์มัจญ์ลิซีย์และหนังสือของนักปราชญ์คนอื่นๆ ซึ่งหากนำฮะดีษเรื่องอิม่ามมะฮ์ดีในหนังสือเหล่านี้มารวมกัน คาดว่าคงมีจำนวนมากกว่า 1000 ฮะดีษ จะยกมาเป็นบะร่อกัตเพียงหนึ่งบทที่รายงานจากนบีมุฮัมมัด(ศ)และสองฮะดีษจากท่านอิม่ามศอดิก(อ) :

ما رواه ابن عباس قال: سمعت النبي (صلى الله عليه وآله وسلم) يقول :
«... ألا وإنّ الله تبارك وتعالى جعلني وإيّاهم حججاً على عباده، وجعل من صلب الحسين أئمة يقومون بأمري، ويحفظون وصيّتي، التاسع منهم قائم أهل بيتي ومهدي أمتي، أشبه الناس بي في شمائله وأقواله وأفعاله، يظهر بعد غيبة طويلة...» إلى آخر الحديث.

อิบนุ อับบาสรายงานว่า : ฉันได้ยินท่านนบี(ศ) กล่าวว่า :

พึงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์ ตะบาร่อกะ วะตะอาลา ทรงแต่งตั้งฉันและพวกเขาให้เป็นฮุจญัตต่อปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้น, และทรงแต่งตั้งจากเชื้อสายของฮุเซนให้เป็นบรรดาอิม่าม มาดำรงหน้าที่ตามคำสั่งของฉัน, พวกเขาจะทำหน้าที่พิทักษ์วะซียัตของฉัน, คนที่ 9 จากพวกเขาคือ กออิม(นามแฝงของอิม่ามมะฮ์ดี) เป็นอะฮ์ลุลบัยต์ของฉันและคือมะฮ์ดีแห่งประชาชาติของฉัน,เขาเหมือนฉันมากที่สุดในบุคลิก,คำพูดและกริยาท่าทางของเขา , เขาจะปรากฏตัวหลังจากที่เขาได้เร้นหายตัวไปเป็นระยะเวลาอันยาวนาน...

กะมาลุดดีน เชคศอดูก หน้า  257 ฮะดีษเลขที่ 2 และกิฟายะตุล อะษัร หน้า 10


عِدَّةٌ مِنْ أَصْحَابِنَا عَنْ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنْ عَلِيِّ بْنِ الْحَكَمِ عَنْ أَبِي أَيُّوبَ الْخَرَّازِ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ مُسْلِمٍ قَالَ سَمِعْتُ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ ع يَقُولُ إِنْ بَلَغَكُمْ عَنْ صَاحِبِكُمْ غَيْبَةٌ فَلَا تُنْكِرُوهَا

ท่านมุฮัมมัด บินมุสลิมเล่าว่า : ฉันได้ยินท่านอบู อับดิลละฮ์ (อิม่ามศอดิก)อะลัยฮิสสลามกล่าวว่า :  หากมาถึงพวกเจ้าเกี่ยวกับซอฮิบของพวกเจ้า(นามแฝงของอิมามมะฮ์ดี)ได้เร้นหายตัวไป จงอย่าได้ปฏิเสธสิ่งนั้น


สถานะหะดีษ ซอฮี๊ฮฺ ดูอัลกาฟี เชคกุลัยนี เล่ม 1 หน้า 340 หะดีษที่ 15
ตรวจทานโดยมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่าน


عن زرارة يقول: سمعت أبا عبد الله (عليه السلام) يقول  :  « إنّ للقائم غيبة قبل أن يقوم، يا زرارة وهو المنتظر، وهو الذي يشك في ولادته »    

จากซุรอเราะฮ์เล่าว่า : ฉันได้ยินท่านอบู อับดิลละฮ์(อ)กล่าวว่า : แท้จริงสำหรับอัลกออิม(นามแฝงของอิม่ามมะฮ์ดี)มีการเร้นหายตัวไปก่อนที่มาออกมาทำการกิยาม  โอ้ซุรอเราะฮ์ เขาคือผู้ถูกรอคอย(อัลมุนตะซ็อร) และเขาเป็นบุคคลที่จะถูกสงสัยในการถือกำเนิดของเขา            

กะมาลุดดีน เชคศอดูก หน้า 342 ฮะดีษเลขที่ 24
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:16:25 หลังเที่ยง


ข้อสงสัยเรื่องการเกิดของอิมามมะฮ์ดี(อ) ครั้งแรกเกิดขึ้นจากใครเพราะอะไร ?


อิม่ามศอดิก(อ)ได้บอกไว้ล่วงหน้าว่า คนแรกที่จะสร้าง(ฟิตนะฮ์)สร้างความสงสัยเรื่องการเกิดของอิม่ามมะฮ์ดี(อ) คือญะอ์ฟัร อัลกัซซาบ เป็นอาของอิม่ามมะฮ์ดีเอง  สาเหตุเพราะเขาไม่ได้รับข้อมูลเรื่องการเกิดของหลานชายคนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในเวลานั้นไม่เอื้ออำนวยให้เขาได้รับรู้ความจริง เพราะแม้เพียงอิม่ามฮาซันอัสการีย์(อ)จะเอ่ยชื่อบุตรชายออกมาอย่างโจ่งแจ้งว่า อัลมะฮ์ดี ก็ทำไม่ได้ และท่านก็ไม่อนุญาตให้ใครเรียกชื่อนี้ด้วย
นี้คือที่มาของความสงสัย  อุละมาอ์ฝ่ายซุนนี่จึงหยิบยกเอาฟิตนะฮ์นี้มายึดถือเป็นเกณฑ์อย่างเช่น อิบนุ ฮัซมิน กล่าวว่า :  ในปีฮ.ศ.ที่260 เป็นปีที่อิม่ามฮาซันอัสการีย์สิ้นชีพ ก็ยังไม่มีวี่แววข่าวการเกิดของอิม่ามมะฮ์ดี(อ)เลย  ดูหนังสืออัลฟัศลุ ฟิลมิลัล วัลอะฮ์วาอ์ วันนิฮัล เล่ม 3 หน้า 114 ของเขาเป็นต้น

ท่านอิม่ามศอดิก(อ)ได้สอนดุอาอ์บทหนึ่งกับซุรอเราะฮ์(รฎ.)ว่า :

« يا زرارة إذا أدركت ذلك الزمان فادعوا بهذا الدعاء:
 «اللّهم عرّفني نفسك فانّك إن لم تعرفني نفسك لم أعرف نبيّك، اللّهم عرّفني رسولك فانّك إن لم تعرّفني رسولك لم أعرف جحتك، اللّهم عرّفني حجتك فانّك إن لم تعرّفني حجتك ضللت عن ديني»
كمال الدين: 342 ح 24.

โอ้ซุรอเราะฮ์  เมื่อเจ้าอยู่ทันยุคนั้น(ยุคฆ็อยบะฮ์) พวกเจ้าจงอ่านดุอาอ์บทนี้ :
โอ้อัลลอฮ์ โปรดทำให้ฉันรู้จักพระองค์  เพราะหากพระองค์ไม่ทำให้ฉันรู้จักพระองค์  ฉันจะไม่มีวันรู้จักนบีของพระองค์
โอ้อัลลอฮ์ โปรดทำให้ฉันรู้จักรอซูลของพระองค์  เพราะหากพระองค์ไม่ทำให้ฉันรู้จักรอ ซูลของพระองค์  ฉันจะไม่มีวันรู้จักฮุจญัตของพระองค์
โอ้อัลลอฮ์ โปรดทำให้ฉันรู้จักฮุจญัต ( ชื่อของอิม่ามมะฮ์ดี ) ของพระองค์  เพราะหากพระองค์ไม่ทำให้ฉันรู้จักฮุจญัตพระองค์  ฉันคงหลงออกจากศาสนาของฉันแน่

กะมาลุดดีน เชคศอดูก หน้า 342 ฮะดีษเลขที่ 24

ดุอาอ์บทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่โดยปฏิบัติตามอัลกุรอานและอะฮ์ลุลบัยต์
อิบาดัตที่เราไม่ควรมองข้ามอีกอย่างหนึ่งคือ การอ่านดุอาอ์ที่รายงานจากอะฮ์ลุลบัยต์เช่น ดุอาฟะร่อญะฮ์ :
มีรายงานว่า ในยุคที่ต้องปิดบังชื่อจริงของอิม่ามมะฮ์ดี(อ) ดุอาอ์บทนี้ บรรดาชีอะฮ์ถึงกับต้องอ่านดุอาอ์ฟะร่อญะฮฮ์กันแบบนี้คือ :
(  اللّهم كن لوليك فلان ابن فلان) อัลลอฮุมมะ กุนลิ วะลียิกะ ฟุลาน บิน ฟุลาน

 اللَّهُمَّ كُنْ لِوَلِيِّكَ فُلَانِ بْنِ فُلَانٍ فِي هَذِهِ السَّاعَةِ وَ فِي كُلِّ سَاعَةٍ وَلِيّاً وَ حَافِظاً وَ نَاصِراً وَ دَلِيلًا وَ قَاعِداً وَ عَوْناً وَ عَيْناً حَتَّى تُسْكِنَهُ أَرْضَكَ طَوْعاً وَ تُمَتِّعَهُ فِيهَا طَوِيلًا و

อัลลอฮุมมะ กุน ลิวะลียิกะ (อัลฮุจญะติบนิลฮาซัน) ซ่อละวาตุกะ อะลัยฮิ วะอะลา อาบาอิฮ์ ฟี ฮาซิฮิสซาอะฮ์ วะฟี กุลลิ ซาอะฮ์ วะลีเยา วะฮาซิซอ วะ กออิดเดา วะนาซิรอ วะดะลีเลา วะอัยนา  ฮัตตา ตุสกินะฮู อัรด่อกะ เตาอา วะตุมัต ติอะฮู ฟีฮา ต่อวีลา

โอ้อัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงเป็นผู้คุ้มครองวะลีของพระองค์คือ อัลฮุจญัต บุตรของฮาซัน (อัสการี) ขอการสรรเสริญจากพระองค์ จงมีแด่เขาและบรรพบุรุษของเขาทั้งในเวลานี้และทุกเวลา ขอพระองค์ทรงเป็นผู้คุ้มครอง ผู้ปกป้อง ผู้นำ  ผู้ช่วยเหลือ ผู้ชี้นำทางเขา และขอพระองค์ทรงสถิตอยู่ในสายตาของเขา  จนกระทั่งเขาได้บรรลุถึงอำนาจการปกครองบนหน้าแผ่นดินของพระองค์ และ(ผู้อยู่บนหน้าแผ่นดิน)ยอมจำนนสวามิภักดิ์ต่อเขาโดยดุษฎี และได้โปรดทำให้เขาได้รับประโยชน์จากทุกสรรพสิ่งในแผ่นดินนี้โดยทั่วถึงยาวนาน

อัลกาฟี  เชคกุลัยนี  เล่ม 4  หน้า 162 หะดีษที่ 4  
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:20:19 หลังเที่ยง

เหตุผลที่ 3 –
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:24:38 หลังเที่ยง

เหตุผลที่ 3 –


ผู้ปกครอง(มาลิกและกาหลิบ)ผู้ฉ้อฉลในยุคของบรรดาอิม่ามทั้งหลายต่างรู้ดีว่า อิม่ามคนที่ 12 เป็นลูกใคร ? สืบเชื้อสายมาจากใคร ?  ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ความลับ เพราะนบีมุฮัมมัดและบรรดาอิม่ามได้บอกไว้แล้ว  และเรื่องนี้ได้ถูกบันทึกเป็นฮะดีษ  ฉะนั้นในสมัยราชวงศ์อับบาซียะฮ์ปกครองอาณาจักรอิสลาม กาหลิบมุอ์ตะมิดอับบาซีหวั่นเกรงว่า บุตรที่จะเกิดจากอิม่ามฮาซัน อัสการีย์ จะมาโค่นล้มบัลลังค์ของพระองค์ พระองค์จึงสั่งให้ทหารเฝ้าดูการใช้ชีวิตของอิม่ามฮาซัน อัสการีย์อย่างไม่ให้คาดสายตา  

เมื่อกาหลิบอัลมุอ์ตะมิด อับบาซีทรงทราบข่าวว่า อิม่ามฮาซันอัสการีย์ (อ)คือผู้ให้กำเนิดอิม่ามคนที่ 12 พระองค์ได้ส่งทหารไปบ้านของอิม่ามฮาซัน อัสการีย์(อ) ควบคุมภรรยาและบรรดาสตรีของอิม่ามไว้อย่างใกล้ชิด คอยสังเกตว่า ทารกผู้นั้นจะคลอดจากสตรีนางใด ? การกระทำของอัลมุอ์ตะมิดถือว่า เป็นหลักฐานชัดเจนว่า การเกิดของอิม่ามมะฮ์ดีเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นจริง มิเช่นนั้นกาหลิบมุอ์ตะมิดคงไม่มีเหตุผลอันใดต้องทำกับท่านอิม่ามฮาซันอัสการีย์(อ)เช่นนั้น  
นับได้ว่าการใช้ชีวิตของอิม่ามฮาซัน อัสการีย์และชีอะฮ์ในยุคนั้นต้องพบกับความลำบากและความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นเรื่องการเกิดของอิม่ามมะฮ์ดีจึงต้องถูกปิดเป็นความลับให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความปลอดภัยของอิม่ามคนที่ 12    เราลองมาฟังฮะดีษของท่านอิม่ามฮาดีย์ อิม่ามที่ 10 (อ)บทนี้กัน :

عَلِيُّ بْنُ مُحَمَّدٍ عَمَّنْ ذَكَرَهُ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ أَحْمَدَ الْعَلَوِيِّ عَنْ دَاوُدَ بْنِ الْقَاسِمِ قَالَ سَمِعْتُ أَبَا الْحَسَنِ ع يَقُولُ الْخَلَفُ مِنْ بَعْدِيَ الْحَسَنُ فَكَيْفَ لَكُمْ بِالْخَلَفِ مِنْ بَعْدِ الْخَلَفِ فَقُلْتُ وَ لِمَ جَعَلَنِيَ اللَّهُ فِدَاكَ فَقَالَ إِنَّكُمْ لَا تَرَوْنَ شَخْصَهُ وَ لَا يَحِلُّ لَكُمْ ذِكْرُهُ بِاسْمِهِ فَقُلْتُ فَكَيْفَ نَذْكُرُهُ فَقَالَ قُولُوا الْحُجَّةُ مِنْ آلِ مُحَمَّدٍ عَلَيْهِمُ السَّلَامُ

อบุล กอซิม อัลญะอ์ฟะรีย์ ดาวูด บิน อัลกอซิมเล่าว่า :

ฉันได้ยิน  ท่านอิม่ามฮาดี ( อิม่ามที่ 10 ) กล่าวว่า : อัลคอลัฟ ( ผู้สืบทอดตำแหน่งอิม่าม ) ต่อจากฉันคือฮาซัน อัสการี บุตรชายของฉัน แล้วจะเป็นอย่างไรเล่าสำหรับพวกเจ้า กรณีเกี่ยวกับผู้สืบทอดต่อจากอัลค่อลัฟ   ( คือฮาซัน ) ผู้นี้ ?  
 
ฉัน(ผู้รายงาน)กล่าวว่า : ทำไมอัลลอฮ์ไม่ทรงให้ฉันได้มีโอกาสเสียสละเพื่อท่าน ?

ท่านอิม่ามฮาดี(อ)กล่าวว่า :  แท้จริงพวกเจ้าจะไม่ได้พบเห็นตัวจริงของเขา(อัลมะฮ์ดี) และไม่อนุญาติให้พวกเจ้าเรียกเขาด้วยชื่อจริง  ดังนั้นฉันจึงถามว่า : แล้วเวลาที่เราจะเอ่ยถึงเขาจะให้เราเรียกเขาว่าอย่างไร ?
ท่าน(อ)ตอบว่า : จงกล่าวว่า อัลฮุจญะฮ์ มิน อาลิ มุฮัมมัด

อัลกาฟี เชคกุลัยนี เล่ม 1 หน้า 328 ฮะดีษที่ 13


วิเคราะห์สะนัด

ดาวูด บินอัลกอสิม
(داود) * بن القاسم الجعفري (2) يكنى أبا هاشم من ولد جعفر بن أبي طالب عليه السلام، ثقة جليل القدر
رجال الطوسي - (ج 225 / ص 1
83 - داود بن القاسم الجعفري أبو هاشم، ثقة
مشايخ الثقات- غلام رضا عرفانيان - (ج 1 / ص 60

มีนักรายงานฮะดีษชีอะฮ์ที่น่าเชื่อถือคนหนึ่งได้เล่าถึงบุคคลที่เคยเห็นท่านอิม่ามมะฮ์ดี (อ)บุตรชายของท่านอิม่ามฮาซันอัสการี (อ)

بَابٌ فِي تَسْمِيَةِ مَنْ رَآهُ ع
مُحَمَّدُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ وَ مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى جَمِيعاً عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ جَعْفَرٍ الْحِمْيَرِيِّ قَالَ...

รายงานโดยท่านอับดุลลอฮ์ บินญะอ์ฟัร อัลฮะมีรี (เขาได้ถามท่านอุษมาน บินสะอีด อบูอัมรฺ ตัวแทนคนที่ 1 ของอิม่ามมะฮ์ดี ) ว่า :

فَقُلْتُ لَهُ أَنْتَ رَأَيْتَ الْخَلَفَ مِنْ بَعْدِ أَبِي مُحَمَّدٍ ع فَقَالَ إِي وَ اللَّهِ وَ رَقَبَتُهُ مِثْلُ ذَا وَ أَوْمَأَ بِيَدِهِ فَقُلْتُ لَهُ فَبَقِيَتْ وَاحِدَةٌ فَقَالَ لِي هَاتِ قُلْتُ فَالاسْمُ قَالَ مُحَرَّمٌ عَلَيْكُمْ أَنْ تَسْأَلُوا عَنْ ذَلِكَ وَ لَا أَقُولُ هَذَا مِنْ عِنْدِي فَلَيْسَ لِي أَنْ أُحَلِّلَ وَ لَا أُحَرِّمَ وَ لَكِنْ عَنْهُ ع فَإِنَّ الْأَمْرَ عِنْدَ السُّلْطَانِ أَنَّ أَبَا مُحَمَّدٍ مَضَى وَ لَمْ يُخَلِّفْ وَلَداً وَ قَسَّمَ مِيرَاثَهُ وَ أَخَذَهُ مَنْ لَا حَقَّ لَهُ فِيهِ وَ هُوَ ذَا عِيَالُهُ يَجُولُونَ لَيْسَ أَحَدٌ يَجْسُرُ أَنْ يَتَعَرَّفَ إِلَيْهِمْ أَوْ يُنِيلَهُمْ شَيْئاً وَ إِذَا وَقَعَ الِاسْمُ وَقَعَ الطَّلَبُ فَاتَّقُوا اللَّهَ وَ أَمْسِكُوا عَنْ ذَلِكَ

ท่านเคยเห็นอัลคอลัฟ ( คืออิม่ามมะฮ์ดี ) หลังจากอบู มุฮัมมัด( คืออิม่ามฮาซันอัสการีย์) สิ้นชีพแล้วหรือไม่ ?
อบู อัมรฺตอบว่า : ใช่ฉันเคยเห็น ขอสาบานด้วยนามของอัลลอฮ์... ฉันกล่าวกับเขาว่า : เหลือเพียงคนเดียว
เขากล่าวกับฉันว่า : จงเอามา   ฉันถามว่า : เขาชื่ออะไร ?  เขาตอบว่า : ฮะร่ามสำหรับพวกท่านที่จะถามถึงสิ่งนั้น และฉันเองก็จะไม่พูดเรื่องนี้ด้วย   ฉันไม่มีสิทธิฟัตวาว่านี่ฮะล้าลและนั่นฮะร่าม แต่ว่า(ฟัตวานั้น)ต้องมาจากเขา ( คือมาจากคำสั่งของอิม่ามมะฮ์ดี )
เพราะท่านกาหลิบมุอ์ตะมิด สั่งไว้ว่า  ท่านอิม่ามฮาซันอัสการีย์ ได้จากไปโดยไม่มีทายาทสืบสกุล และทรัพย์สินมรดกของท่านได้ถูกแบ่งปัน ( แก่เครือญาติหมดแล้ว )  ดังนั้นขอให้พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และจงอย่าได้พูดเรื่องนั้น ( คือเรื่องที่ว่าอิม่ามฮาซันอัสการีย์มีบุตรชายสืบทอด )

สถานะหะดีษ ซอฮี๊ฮฺ ดูอัลกาฟี เชคกุลัยนี เล่ม 1 หน้า 329 หะดีษที่ 1
ตรวจทานโดยมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่าน


ยังมีฮะดีษมัชฮูร(โด่งดังแพร่หลาย)เกี่ยวกับเรื่องการเกิดที่รายงานจากท่านหญิงฮะกีมะฮ์บุตรสาวของท่านอิม่ามญะวาด(อ)  ในคืนที่นางได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่อิม่ามมะฮ์ดี(อ)ประสูติในปีฮ.ศ.ที่ 255 วันที่ 15 เดือนชะอ์บาน  ซึ่งบันทึกอยู่ในหนังสืออัลฆ็อยบะฮ์ ของเชคตูซี  หน้า 234 ฮะดีษที่ 319

ونقل الشيخ الطوسي أيضاً في الغيبة حديثاً ظريفاً فقال:  جاء أربعون رجلاً من وجهاء الشيعة اجتمعوا في دار الامام العسكري ليسألوه عن الحجة من بعده، وقام عثمان بن سعيد العمري
فقال: يابن رسول الله أريد أن أسالك عن أمر أنت أعلم به منّي، فقال له: إجلس يا عثمان، فقام مغضباً ليخرج، فقال: لا يخرجنّ أحد، فلم يخرج منّا أحد، إلى أن كان بعد ساعة فصاح (عليه السلام) بعثمان فقام على قدميه فقال: أخبركم بما جئتم؟ قالوا: نعم يا بن رسول الله، قال: جئتم تسألوني عن الحجة من بعدي؟ قالوا: نعم، فاذا غلام كأنّه قطعة قمر أشبه الناس بأبي محمد، فقال: هذا إمامكم من بعدي، وخليفتي عليكم، أطيعوه ولا تتفرقوا من بعدي فتهلكوا في أديانكم، ألا وانّكم لا ترونه من بعد يومكم هذا حتى يتمّ له عمر، فاقبلوا من عثمان ما يقوله، وانتهوا الى أمره، واقبلوا قوله، فهو خليفة إمامكم والامر إليه»    الغيبة للطوسي: 357 ح 319.

เชคตูซีย์ได้รายงานว่า :
มีระดับแกนนำชีอะฮ์เป็นชายจำนวน 40 คนเข้ามารวมตัวกันในบ้านของท่านอิม่ามฮาซัน อัสการีย์(อ) เพื่อไตร่ถามถึงอัลฮุจญะฮ์ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากท่าน
อุษมาน บิน สะอีด อัลอุมรีย์ยืนขึ้นถามว่า : โอ้บุตรของท่านรอซูลุลลอฮ์ !  ผมอยากถามท่านเรื่องหนึ่ง  ซึ่งท่านรู้เรื่องนี้ดีกว่าผม,  ท่านอิม่ามบอกเขาว่า : โอ้อุษมาน จงนั่งลงเถิด    แล้วท่านลุกออกมาด้วยความโกรธ ท่านกล่าวว่า : อย่าให้ผู้ใดออกไปข้างนอก,  ไม่มีพวกเราสักคนออกไปข้างนอก จนเวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง ท่านพูดเสียงดังกับอุษมาน  แล้วลุกยืนด้วยเท้าทั้งสองของท่าน พลางกล่าวว่า : ฉันจะบอกกับพวกท่านเอาไหมว่าพวกท่านมาหาฉันด้วยเหตุอันใด
พวกเขา( แกนนำ 40 คน) กล่าวว่า : เอาครับ โอ้บุตรของท่านรอซูลุลลอฮ์
ท่านกล่าวว่า :  พวกท่านจะมาถามฉันถึงอัลฮุจญะฮ์( ผู้นำ)ที่จะสืบต่อจากฉันใช่ไหม ?
พวกเขาตอบว่า : ใช่แล้วครับ ทันใดนั้นมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัว เขาผ่องใสดุจดวงจันทร์ เขาเหมือนกับท่านอบู มุฮัมมัด(อิม่ามที่11) มาก  
ท่าน(อิม่ามฮาซัน อัสการีย์) กล่าวว่า :  เด็กคนนี้คืออิม่ามผู้นำของพวกท่านภายหลังจากฉัน  และเป็นค่อลีฟะฮ์ของฉัน ที่มีอำนาจปกครองพวกท่าน   ขอให้พวกท่านจงตออัต(เชื่อฟัง)เขา  และจงอย่าแตกแยกกันภายหลังจากฉัน  เพราะจะทำให้พวกท่านพบกับความหายนะในศาสนาของพวกท่าน    จงรู้ไว้เถิดว่า พวกท่านจะไม่ได้เห็นเขาอีกหลังจากวันนี้ของพวกท่าน จนกว่าอายุจะครบสมบูรณ์สำหรับเขา  พวกท่านจงยอมรับอุษมานในสิ่งที่เขากล่าวว่า มันคือคำพูดของเขา(คือของอัลมะฮ์ดี)  พวกท่านจงยุติเรื่องที่คำสั่งของเขา  จงยอมรับคำพูดของเขา  เพราะอุษมานคือตัวแทน(นาอิบ)ของอิม่ามของพวกท่าน  ดังนั้นภารกิจจะสิ้นสุดที่เขา      

อัลฆ็อยบะฮ์  เชคตูซี  หน้า 357 ฮะดีษเลขที่ 319
   

ฮะดีษในลักษณะเช่นนี้มีมากมาย ถ้าเอามารวมกันก็จะกลายเป็นฮะดีษมุตะวาติร เพียงแต่หยิบยกแบบรวบลัดมาเพื่อให้แน่ใจว่าท่านอิม่ามมะฮ์ดี(อ)ได้เกิดแล้ว และมีคนเคยพบเห็นท่าน
[/color]
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:25:42 หลังเที่ยง


เหตุผลที่ 4 –


ถ้าได้อ่านประวัติศาสตร์อิสลามและฮะดีษชีอะฮ์ จะเข้าใจว่า ชีอะฮ์สามัญชนตั้งแต่ยุคแรกล้วนถ่ายทอดความเชื่อนี้มาโดยตลอด ความเชื่อเช่นนี้จึงมีความชัดเจนดีในหมู่ชีอะฮ์
จะเห็นได้ว่ามีชีอะฮ์นาวูซียะฮ์ได้อ้างว่า อิม่ามที่หายตัวไปคืออิม่ามศอดิก(อ)เมื่อท่านอิม่ามศอดิก สิ้นชีพลงความเชื่อของพวกเขาก็เป็นโมฆะไปด้วย    


ส่วนชีอะฮ์วากีฟียะฮ์ก็อ้างว่า อิม่ามมะฮ์ดีของพวกเขาคืออิม่ามมูซา กาซิม (อ)

ถ้าพิจารณาให้ดีๆ เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เป็นเหตุทำให้ความเชื่อในเรื่องการมีอยู่ของอิม่ามมะฮ์ดีอ่อนแอลงไปเลย ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้ความเชื่อนี้มีน้ำหนักและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพราะได้แสดงให้รู้ว่า ความเชื่อเช่นนี้เป็นความเชื่อที่แพร่หลายชัดเจนดีในหมู่ชีอะฮ์ จนมีมุสลิมหลายกลุ่มฉกฉวยโอกาสแอบอ้างชื่ออิม่ามบางคน ที่พวกเขาตะอัศศุบ(คลั่งใคล้)ว่า เป็นอิม่ามมะฮ์ดี  แล้วอ้างว่าตนคือตัวแทน(สะฟีร,นาอิบหรือวะกีล)ของอิม่ามคนนั้น  

หากเรื่องการเกิดและการหายตัว(ฆ็อยบะฮ์)ของอิม่ามมะฮ์ดีเป็นเรื่องนิยาย  คงไม่มีพวกนักหลอกลวง(กัซซาบ)ทั้งหลายโกหกกับประชาชนมาทุกยุคทุกสมัยหรอกว่า เขาคืออิม่ามมะฮ์ดีบ้าง เขาเป็นตัวแทนของอิม่ามมะฮ์ดีบ้าง      ฉะนั้นจึงทำให้เราแน่ใจว่าท่านอิม่ามมะฮ์ดีประสูติแล้วจริง
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:26:48 หลังเที่ยง


เหตุผลที่ 5 –


ตัวแทนของอิม่ามมะฮ์ดี 4 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากท่านอิม่ามมะฮ์ดี(อ)เป็นเรื่องชัดเจนในประวัติศาสตร์ชีอะฮ์ ไม่มีชีอะฮ์คนใดสงสัยคลางแคลงนับจากยุคเชคกุลัยนีย์ซึ่งเป็นยุคที่ท่านใช้ชีวิตในสมัยเดียวกันกับตัวแทนของอิม่ามมะฮ์ดี(อ)ในช่วงฆ็อยบะฮ์ ศุฆรอ และท่านอะลี บิน ฮุเซนบิดาของเชคศอดูกอีกคนหนึ่ง จนมาถึงยุคปัจจุบันนี้  ไม่เคยมีชีอะฮ์คนใดสงสัยในเรื่องตัวแทนทั้งสี่คนนี้เลย ซึ่งพวกเขาคือ :

1, อุษมาน บิน สะอีด อบู อัมรฺ  

2, มุฮัมมัด บิน อุษมานบิน สะอีด

3, อัลฮุเซน บิน รูห์  

4, อาลี บิน มุฮัมมัด อัสสะมะรีย์


นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แน่ใจว่า ท่านอิม่ามมะฮ์ดีเกิดแล้ว และท่านได้แต่งตั้งตัวแทนของท่านสี่คนนี้ไว้ก่อนที่ท่านจะหายตัวไปจากสังคมในยุคนั้น
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:29:25 หลังเที่ยง

เหตุผลที่ 6 –



จากปากคำของนักประวัติศาสตร์อิสลามและนัซซาบ(ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสายสกุล)ฝ่ายซุนนี่ ได้สร้างความชัดเจนในเรื่องการเกิดของอิม่ามมะฮ์ดี เช่น :


อิบนุ ค็อลกาน
กล่าวว่า : อบุล กอซิม มุฮัมมัด บิน ฮาซัน อัสการีย์ คืออิม่ามคนที่ 12 ตามความเชื่อของชีอะฮ์ ซึ่งรู้จักกันในนาม อัลฮุจญะฮ์  เขาเกิดวันศุกร์ที่ 15 เดือนชะอ์บาน ฮ.ศ.ที่ 255  ( หนังสือ วัฟยาตุล อะอ์ยาน  เล่ม 4 หน้า 176 เล่มที่ 562 )

อัซ-ซะฮะบีย์
กล่าวว่า : ส่วนบุตรชายของอิมามที่ 11 ที่ชื่อมุฮัมมัด บิน อัลฮาซันที่พวกชีอะฮ์เรียกกันว่า อัลกออิมุล ค่อละฟุล ฮุจญะฮ์  เขาเกิดในปีฮ.ศ.ที่ 258 บางคนว่าปีฮ.ศ.ที่ 256         ( หนังสือตารีคุลอิสลาม เล่ม 11 หน้า 113 เลขที่ 159)

อิบนุ ฮะญัรอัลฮัยซะมีย์
กล่าวว่า : อิม่ามฮาซัน อัสการีย์ไม่มีบุตรสืบทอดเลยสักคน ยกเว้นบุตรชายของเขาที่ชื่อ อบุล กอซิม มุฮัมมัด อัลฮุจญะฮ์เท่านั้น ตอนที่บิดาเขาเสียชีวิตเขามีอายุได้ 5 ปี (หนังสืออัศ-ศ่อวาอิก อัลมุห์ริเกาะฮ์ หน้า 255 และหน้า 314 )

ค็อยรุดดีน อัซ-ซัรกุลีย์
กล่าวว่า : อัลมะฮ์ดีเกิดที่เมืองซามาร่า(ซะมัรรอ) ประเทศอิรัก เมื่อบิดาเขาเสียชีวิต ตอนนั้นเขามีอายุ 5 ปี (อัศ-ศ่อวาอิกอัลมุห์ริเกาะฮ์ หน้า 255 และ 314 )


ยังมีคำพูดของนักตารีคอิสลามอีกหลายคน   ที่กล่าวถึงเรื่องการเกิดของอิมามมะฮ์ดี(อ)ไว้ คำพูดเหล่านี้เป็นอีกพยานหนึ่งที่ทำให้เราเชื่อว่า อิม่ามมะฮ์ดี(อ)เกิดแล้วจริง


ส่วนนักวิชาการเหล่านั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่อ นั่นคือสิทธิของพวกเขา
ชื่อ: Re:ค่ำที่ 6 สิงหาคม = 15 เชะอ์บาน
โดย: L-umar เมื่อ สิงหาคม 05, 2009, 12:36:31 หลังเที่ยง


เหตุผลที่ 7 –


บรรดานักวิชาการที่เป็นนักรายงานฮะดีษฝ่ายชีอะฮ์มีความเชื่อเหมือนกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่

สมัยเชคกุลัยนี ( เกิดฮ.ศ.ที่ 260 มรณะฮ.ศ. 329 )  รอวีย์ผู้โด่งดังเจ้าของหนังสืออัลกาฟีซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยตัวแทนพิเศษของอิม่ามมะฮ์ดี(อ)ตอนช่วงฆ็อยบะตุซ-ซุฆรอ และเขาได้พบปะกับบรรดาตัวแทนอิม่ามมะฮ์ดีตอนอยู่ที่กรุงแบกแดด  เชคกุลัยนีก็ได้อาศัยอยู่ที่นั่น เชคกุลัยนีสิ้นชีพในปีที่ตัวแทนคนสุดท้ายของอิมามมะฮ์ดีชื่อ อาลี บิน มุฮัมมัด อัสสะมะรีย์สิ้นชีพพอดี   ,


สมัยของอะลี บิน ฮุเซน บิน บาบะวัยฮฺ อัลกุมมี (บิดาของเชคศอดูก),


สมัยเชคศอดูก ( มรณะฮศ.381 ) เจ้าของหนังสือมันลายะห์ฎุรุฮุลฟะกีฮ์


สมัยเชคตูซี่ ( มรณะฮศ.460 ) เจ้าของหนังสือตะห์ซีบุลอะห์กาม,อัลอิสติบศ็อร,อัต-ติบยาน,อัลฆ็อยบะฮ์ตูซี,อะมาลีตูซี,อัลฟะฮ์ร็อสและริญานตูซี


จนมาถึงยุคปัจจุบันนี้ว่า อุละมาอ์ชีอะฮ์และชีอะฮ์สามัญชนต่างรู้ว่า อิม่ามมะฮ์ดี(อ)ประสูติแล้วแต่ท่านหายตัวไปและยังไปปรากฏตัว   ชีอะฮ์ทุกชนชั้นทุกระดับไม่เคยสงสัยในเรื่องนี้ ซึ่งนี่คือรากฐานความเชื่อ(อะกีดะฮ์)ของชีอะฮ์และมัซฮับชีอะฮ์


เมื่อได้พิจารณาเหตุผลดังที่กล่าวมา จึงสร้างความแน่ใจให้เชื่อได้ว่า ชายที่ชื่ออัลมะฮ์ดี บุตรชายของฮาซัน อัลอัสการีย์ได้เกิดแล้วจริงและยังมีชีวิตอยู่




คำถามสำหรับพวกตะอัซซุบ


หลักฐานจากคัมภีร์กุรอ่าน  /  หะดีษของทั้งสองฝ่าย   รวมทั้งเหตุผลเหล่านี้  ได้พิสูจน์ว่า


ท่านอิม่ามมะฮ์ดี   บุตรท่านอิม่ามฮาซัน อัสการี (อ)  ได้กำเนิดขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอนในยุคศตวรรษที่สามแห่งฮิจเราะฮ์ศักราช

ทำไมท่านจึงกล่าวอย่างไร้เหตุผล ว่า ท่านอิม่ามมะฮ์ดียังไม่เกิด   ?

ท่านจะปฏิเสธหลักฐานหะดีษษะเกาะลัยน์กระนั้นหรือ  ที่กล่าวว่า กุรอ่านกับอะฮ์ลุลบัยต์ต้องอยู่คู่กันเสมอ

ท่านจะปฏิเสธหะดีษสิบสองผู้นำกระนั้นหรือ

ท่านไม่ต้องการทำความรู้จักอิม่ามผู้นำที่แท้จริงในยุคที่ท่านดำรงชีวิตอยู่กระนั้นหรือ

ท่านต้องการเสียชีวิตในสภาพ  ญาฮิลียะฮื กระนั้นหรือ  ???


สมจริงแล้วดังที่อัลลอฮ์ ตะอาลาตรัสว่า

صُمٌّ بُكْمٌ عُمْيٌ فَهُمْ لَا يَعْقِلُونَ

وَالَّذِينَ كَذَّبُوا بِآَيَاتِنَا صُمٌّ وَبُكْمٌ فِي الظُّلُمَاتِ مَنْ يَشَأِ اللَّهُ يُضْلِلْهُ وَمَنْ يَشَأْ يَجْعَلْهُ عَلَى صِرَاطٍ مُسْتَقِيمٍ