Q4wahabi.com (Question for Wahabi)

หมวดหมู่ทั่วไป => หลักการศรัทธาในทัศนะของวาฮาบี ซุนนี่ และชีอะฮ์ => หัวข้อที่ตั้งโดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:37:45 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: ۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:37:45 ก่อนเที่ยง

۞                                                             พระเจ้า มี จริง  หรือ ???                                               ۞



สวัสดีครับท่านผู้อ่าน

วันนี้ผมมีคอลัมน์ที่น่าสนใจมานำเสนอผู้อ่านซึ่งอยากให้ท่านได้อ่านบทความนี้แล้วได้รับรู้เรื่องราวของพระเจ้าว่ามีความสำคัญอย่างไรต่อชีวิตของเรา

ขอบอกเลยนะครับว่า การมารู้จักพระเจ้าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องรู้จักและรับฟัง
อยากให้ผู้อ่านลองอ่านบทความนี้ก่อน แล้วค่อยสรุปว่าพระเจ้ามีจริงไหม คำถามที่ว่า พระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริง  นั้นเป็นคำถามที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนค้นหาคำตอบกันมาอยู่ตลอด ไม่เพียงนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น หลายคนเองก็อาจสงสัยด้วยเช่นกันรวมถึงทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ด้วย ว่า

แท้จริงแล้วโลกนี้มีพระเจ้าไหม ?
พระเจ้ามีจริงหรือเปล่า ?
พระเจ้ามีผลอย่างไรต่อชีวิตของเรา , มีใครที่ตอบได้บ้าง ?
หรือบางคนอาจจะไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้เลยก็เป็นได้
บางคนอาจเคยได้ยินมาเฉยๆ
บางคนไม่เคยสนใจ
บางคนมองว่าเป็นเรื่องของศาสนายิว,คริสต์และอิสลาม

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อถามความคิดเห็นเรื่องราวของพระเจ้ากับคนทั้งโลก คำตอบที่ได้จะอยู่ใน 3 จำพวก คือ

1. บางคนเชื่อว่ามีพระเจ้า
2. บางคนเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า
3. บางคนเชื่อว่าไม่แน่ใจว่ามีพระเจ้า

จาก 3 ข้อที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่ตัวความคิดของบุคคลว่า  จะเชื่ออย่างไรกันบ้าง บ้างก็บอกว่ามีพระเจ้า , บ้างก็บอกว่าไม่มีหรอก งมงาย , บางคนบอกไม่แน่ใจ สุดท้ายแล้วตกลงว่ามีจริงหรือไม่มีจริงกันแน่ ?

แต่สุดท้ายแล้วปัญหาเหล่านี้จะไม่เป็นที่สงสัยอีกต่อไปเมื่อมันจะไปจบอยู่ที่สิ่งไหนเป็น "ความจริง"

ผู้อ่านเองก็สามารถรู้ได้ว่าพระเจ้าเป็นความจริงหรือไม่จริงได้ง่ายๆ เพียงแค่ผู้อ่านเปิดใจที่จะรับฟังเรื่องราวของพระเจ้า ตั้งแต่ต้นจนจบ

แล้วค่อยตัดสินใจว่า  แท้จริงแล้วมีพระเจ้าหรือไม่

แต่ถ้า อคติ ไม่อยากรู้ ยังอยากเป็นกบในกะลาอยู่ก็เชิญปิดบทความนี้ไปได้เลยครับ บทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้ที่แสวงหาความจริงแห่งชีวิตเท่านั้น.



นานาเหตุผล ที่ท่านต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังว่า  

พระเจ้ามี  และ มีพระเจ้า


นิวตัน

http://i617.photobucket.com/albums/tt258/auddy228/Sir-Isaac-newton.jpg

นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้เชื่อในพระเจ้าอย่างจริงใจ
ท่านมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจเหมือนกัน แต่ไม่เชื่อพระเจ้า

วันหนึ่งนิวตันทำรูปจำลองของระบบสุริยะสำเร็จ โดยที่ใจกลางมีดวงอาทิตย์
และหมู่ดาวนพเคราะห์เรียงกันตามตำแหน่ง

เมื่อเคาะคานหมุน ดาวทุกดวง  ก็จะหมุนตามวงโคจรไปรอบ ๆ เป็นภาพที่สวยมาก

วันต่อมา เพื่อนของนิวตันมาเยี่ยม และสนใจรูปจำลองนี้อย่างมาก จึงถามว่าใครสร้าง

นิวตันว่า :   \\\"ไม่มีใครสร้างมันขึ้นหรอก มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญ\\\"

เพื่อนคนนั้นจึงพูดว่า : \\\"จะต้องมีผู้สร้างมันแน่  และต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ทางนี้ด้วย\\\"
นิวตัน : \\\"แค่รูปจำลองนี้ยังไม่อาจทำให้คุณเชื่อว่าไม่มีผู้สร้าง ฉะนั้นจักรวาลที่แท้จริงนั้น
คุณว่ามันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติอย่างบังเอิญได้หรือ? โดยไม่มีพระผู้สร้างมันขึ้น จะสมเหตุสมผลหรือ\\\"
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:43:43 ก่อนเที่ยง

หากข้าพเจ้าเจอนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่ง


ในสนามหญ้่าแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าคงไม่คิดว่ามัน "โผล่" ขึ้นมาเองโดยไม่มีที่มาที่ไป หรือ มัีนอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด ดูจากการออกแบบของมัน ข้าพเจ้าจะต้องเดาเอาว่าจะต้องมีใครสักคนหนึ่งออกแบบมันขึ้นมา แต่ข้าพเจ้าเห็นการออกแบบที่ยิ่งใหญ่และจำเพาะเจาะจงกว่านั้นมากนักในโลกรอบ ๆ ตัวเรา
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:49:34 ก่อนเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞


จากผลการสำรวจ ความนิยม เมื่อไม่นานมานี้พบว่า ชาวอเมริกัน 93% เชี่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีมนุษย์คนใดเคยเห็นพระเจ้าด้วยตาของตนเอง และคนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่า การดำรงคงอยู่ของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ไม่อาจพิสูจน์กันได้ด้วยการใช้เหตุผลโต้แย้งทางตรรกวิทยา.

ด้วยเหตุนี้คนที่เป็น พวกอเทวนิยม ชนิดสุดขั้วจึงกล่าวว่า ถ้าไม่อาจพิสูจน์ถึงการดำรงคงอยู่ของพระเจ้าได้แล้ว ทำไมคนเราจะต้องเชื่อด้วยว่าพระเจ้าทรงดำรงอยู่จริง?


คนที่ เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ก็ได้เขียนหนังสือ, บทความ, และสื่ออื่นๆ อีกมากมายเพื่อมายืนยันถึง การดำรงคงอยู่ของพระเจ้า ให้ผู้ที่ยังไม่แน่ใจได้รู้.

พวกเขายกตัวอย่างจากธรรมชาติ, สร้างเหตุผลตามหลักตรรกวิทยาโดยอาศัยข้อเท็จจริงและทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนข้อคิดในเชิงปรัชญา.

แต่ คนที่ไม่เชื่อ ก็เขียนหนังสือและบทความเพื่อชี้ให้เห็นว่าไม่มีพระเจ้าไว้เหมือนกัน.

ดังนั้น คนที่เชื่อ ก็ยังคงเชื่อ ส่วนคนที่ยังไม่แน่ใจก็ยังคงไม่แน่ใจต่อไป. ดังนั้น จึงมีคนบางส่วนที่ไม่ต้องการรับรู้เรื่องพระเจ้าอ้างว่า  การใช้เหตุผลโต้แย้งกันเรื่องพระเจ้าเช่นนี้จึงไม่ก่อเกิดประโยชน์อันใดต่อทั้งสองฝ่าย.

แต่เราพบว่า

มนุษย์สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองถึงการดำรงคงอยู่ของพระเจ้า.
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:53:56 ก่อนเที่ยง
หาจุดยืนในการค้นหาพระเจ้า

ถ้าเราจะหาคนสักคนหนึ่ง เราก็ต้องหาที่อยู่ของเขาให้ได้เสียก่อน.

ถ้าเราจะติดต่อกับอะไรสักอย่างหนึ่ง เราก็ต้องรู้ถึงอาณาบริเวณที่สิ่งนั้นดำรงอยู่.

คำถาม   พระเจ้าอยู่ที่ไหน  ?

ถ้าเอาคำถามนี้ไปถามวาฮาบี   เขาจะตอบว่า    พระเจ้าอยู่บนฟ้า  และเขาจะรีบบอกว่า  มุสลิมคนใดไม่เชื่อแบบนี้ คนนั้นผิด นี่แหล่ะ นิสัยโลกแคคบของวาฮาบี
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:56:26 ก่อนเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞

ในอดีตมีคนมากมาย พยายามจะพิสูจน์ว่า  พระเจ้าไม่มีจริง
แต่ยังหาเหตุผลยกมาสักข้อไม่ได้เลยว่า ทำไมพระเจ้าไม่มีจริง

ถ้าใครสักคน สามารถให้เหตุผลได้ว่า เหตุใดพระเจ้าไม่มีจริง
คนนั้นจะดังสนั่นโลกเพราะเป็นการลบล้างความเชื่อของคน ค่อนโลกลง

ปัจจุบันโลกเราเป็นวิทยาศาสตร์พอ
ที่คนจะเชื่อในสิ่งที่มีเหตุมีผล
และเรื่องพระเจ้าเป็นเรื่องที่คนบอกว่า   มีเหตุผล
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:59:36 ก่อนเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞


การพิสูจน์สิ่งว่า" มี " นั้นง่ายกว่าพิสูจน์สิ่ง " ไม่มี "

ในทางวิชาการมักจะไม่พูดว่า  ไม่มีคนทำวิจัยเรื่องนี้
เพราะเราไม่รู้ว่า อาจจะมีคนทำวิจัยเรื่องนี้อยู่อีกซีกโลกนึงก็ได้

การพิสูจน์ว่า " พระเจ้า มีจริง " ทำอย่างไร

ขอแนะนำแบบนี้  ถ้าท่านอยากพิสูจน์ว่ามีพระเจ้าหรือไม่
ให้ลองใช้คณิตศาสตร์ เรื่องตรรกศาสตร์
สามารถพิสูจน์ได้โดยการสร้างประพจน์
ถ้าแล้ว และ ถ้าแล้ว  เช่น

ถ้าพระเจ้ามีจริงแล้ว   พระเจ้าสร้างมนุษย์ TRUE
      T->T T

ถ้าพระเจ้ามีจริงแล้ว พระเจ้าไม่สร้างมนุษย์ก็ได้ TRUE
      T->F T

ถ้าพระเจ้าไม่มีจริงแล้ว พระเจ้าสร้างมนุษย์ มันเป็นไปไม่ไ้ด้ FALSE
      F->T F

ถ้าพระเจ้าไม่มีจริงแล้ว พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์  TRUE
      F->F T

จาก Logic ข้างต้น

พิสูจน์ได้ว่า   " พระเจ้า มีจริง "
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:03:37 หลังเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞
พระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์หรือสสาร เราไม่สามารถ ที่จะทดลองดูว่า พระเจ้ามีหรือไม่มี ด้วยการสัมผัส

เพราะพระองค์ไม่ใช่วัตถุ การเห็นหรือไม่เห็น ไม่ใช่การพิสูจน์ว่ามีหรือไม่มี

มีคนตาบอดมากมาย ที่ไม่เคยมองเห็นพ่อแม่ของตน แต่เขาเชื่อว่า เขามีพ่อแม่ และอีกหลายๆ สิ่ง มีการมองเห็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ เช่น
แสง ระยะทาง ขนาด และการเคลื่อนไหว การที่เรามองไม่เห็นเชื้อโรค การที่เราไม่เห็นลูกปืน ที่วิ่งจากกระบอกปืน การที่เรามองไม่เห็นดวงดาวบางดวง
และการที่เรามองไม่เห็น บางสิ่งในความมืด

นี่มิได้หมายความว่า  สิ่งเหล่านั้นไม่มี    นี่เป็นแต่เพียง แสดงให้เห็นว่า
ตามนุษย์มีขีดจำกัด แต่สิ่งเหล่านั้นมี และพระเจ้าก็มีด้วยทั้งๆ ที่เรามองไม่เห็น
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:06:01 หลังเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞


สิ่งมีชีวิตต้องมาจากสิ่งมีชีวิตเสมอไป

มนุษย์ต้องมาจากมนุษย์ด้วยกัน

มนุษย์จะมาจากสิ่งไม่มีชีวิตไม่ได้

เมื่อเป็นเช่นนั้น กลับไปเรื่อยๆ จนถึงมนุษย์คู่แรกในโลก

ซึ่งต้องมีมนุษย์คู่แรกมาจากไหน ?

มาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือ ?

ความเชื่อที่ว่า  สิ่งมีชีวิตมาจากสิ่งไม่มีชีวิต ขัดต่อหลักวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า กฎไบโอเจเนซิส

ซึ่งว่า   สิ่งมีชีวิต ต้องมาจากสิ่งมีชีวิตเสมอไป

ประโยคไหนมีเหตุผล กว่ากัน

ระหว่าง  สิ่งมีชีวิตมาจากสิ่งมีชีวิต หรือ  สิ่งมีชีวิตมาจากสิ่งไม่มีชีวิต

อันไหนงมงายและใช้ ความเชื่ออย่างขาดเหตุผล
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:07:56 หลังเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞

ทุกสิ่งต้องมีผู้สร้าง

ถ้าหากเราจะเปรียบเทียบหัวใจกับเครื่องสูบน้ำ ตากับกล้องถ่ายรูป เครื่องดนตรีกับหลอดเสียง

เราจะพบว่า

เครื่องสูบน้ำ กล้องถ่ายรูป และเครื่องดนตรี ก็ด้อยคุณภาพยิ่งกว่าหัวใจ

ตาและหลอดเสียง

ถ้าหากเราไม่เชื่อว่า  เครื่องสูบน้ำ กล้องถ่ายรูป และเครื่องดนตรี ซึ่งด้อยกว่าเกิดขึ้นเองโดยไม่มีผู้สร้าง

สิ่งที่ดีกว่าเหล่านี้เกิดขึ้นเองโดยไม่มีผู้สร้างหรือ  ?
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:09:44 หลังเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞

เมื่อมนุษย์ยังไม่สามารถประดิษฐ์นาฬิกา

มนุษย์ดูวันและเวลาด้วยปฏิทินและเงาจากแสงแดด

การโคจรของโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์นั้นแน่นอน และไม่คลาดเคลื่อน หมุนเวียนมาเป็นพันๆ ปี หรือมากกว่านั้น

แต่เวลาได้ผ่านพ้นไป มนุษย์สามารถประดิษฐ์นาฬิกาได้ นาฬิกาที่มนุษย์ประดิษฐ์ได้ ยังไม่ดีเท่ากับการโคจรของระบบสุริยะจักรวาล

ถ้าหากเราไม่เชื่อว่า นาฬิกาเกิดขึ้นเอง แต่ต้องมีผู้สร้าง เพราะว่ามันมีแบบ มีระเบียบ และระบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ต้องมีมันสมอง อยู่เบื้องหลังการค้นคิดนี้

ถึงแม้เราไม่เคยพบกับผู้สร้าง แต่เราก็แน่ใจว่า  ต้องมีผู้สร้างโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ที่โคจรอยู่ อย่างเที่ยงตรงจะไม่มีผู้สร้างหรือ?

สิ่งที่เลว และคุณภาพต่ำกว่า ต้องมีผู้สร้าง แต่สิ่งที่ดีกว่ามากมาย จะไม่มีผู้สร้างหรือ  ?
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:13:29 หลังเที่ยง
۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞

พระเจ้าผู้เที่ยงแท้ ไม่ใช่เป็นธรรมชาติ

เพราะว่าธรรมชาติ เป็นแต่เพียงกฎ

พระเจ้าคือผู้ที่ วางกฎธรรมชาติ

ธรรมชาติเพียงแต่บอกเราว่า อะไรเกิดขึ้น

ถ้าหากเราทำอย่างนี้ หรืออย่างนั้น สิ่งที่เราโยนขึ้นไป ต้องตกลงมา
นี่เป็นกฎธรรมชาติ เพราะแรงดึงดูดของโลก

แต่ธรรมชาติ ไม่ได้บอกว่า ใครโยนขึ้นไป ดังนั้นธรรมชาติไม่ใช่พระเจ้า

พระเจ้าคือผู้ที่วางกฎว่า   อะไรที่ขึ้นไป ต้องตกลงมา

กฎธรรมชาติมาจากไหน  ?

ท่านจะตอบเราหรือว่า  มาจากธรรมชาติ  !!!
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 02:24:17 หลังเที่ยง

۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞

บางคนบอกว่า \\\"ไม่มีพระเจ้า เพราะฉันไม่เคยเห็น พระองค์เลย\\\"
ในชีวิตประจำวันของเรามีหลายสิ่งที่เราไม่สามารถเห็นได้ แต่เรารู้ว่าสิ่งนั้นมี จริง

เราไม่สามารถเห็นลมได้
แต่เรารู้ว่า  มีลมแน่ ๆ เพราะเราเห็นมันพัดเสื้อผ้าที่ตากบนราว และใบไม้บนต้นไม้

เราไม่สามารถเห็นกระแสไฟได้
แต่เรารู้ว่า  มีแน่ขณะที่เปิดไฟ

เราไม่สามารถเห็นอากาศได้
แต่เรารู้ว่า  มีแน่เพราะเราไม่สามารถอยู่ได้ถ้า ไม่มีอากาศหายใจ

เราไม่สามารถเห็นความรักได้
แต่ เรารู้ว่า  มีความรักอยู่ในใจคนเหล่านั้นที่ห่วงใยเรา

เราไม่สามารถมองเห็นพระเจ้าได้
แต่เรารู้ว่า  มีพระเจ้าแน่ ๆ  เมื่อพิจารณาดูโลกอันแสนมหัศจรรย์ของเรา
มันเต็มไปด้วยความสวยงาม  สีสรร และการออกแบบอย่างน่าทึ่ง
ตั้งแต่แมลงตัวเล็กๆไปจนถึงจักรวาลอันกว้างใหญ่ ไม่มีที่สิ้นสุด
สารพัดสิ่งเหล่า นี้มิได้มีมาโดยบังเอิญ   ยกอย่าง  
หนังสือเล่มหนึ่ง  ตัวอักษรไม่ได้ปลิวไปในอากาศแล้วกระโดดลงไปจัดเรียงกันอย่างถูกต้องในแต่ละหน้า
แต่ต้องมีผู้หนึ่งเรียงทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อจะอ่านได้ความขึ้นมา
ฉะนั้นหนังสือต้องมีผู้ประพันธ์
- ใครสักคนเขียนขึ้นมา

ภาพเขียน ต้องมีจิตรกร
- ใครสักคนวาดขึ้นมา

อาคารต้อง มีสถาปนิก
- ใครสักคนออกแบบสร้างขึ้นมา

ทำนองเดียวกับโลกของเรา  มันมิได้เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ
ต้องมีผู้หนึ่งออกแบบสร้างมัน ตกแต่งมันเข้าด้วยกัน
นักออกแบบฝีมือฉกาจ  สถาปนิกชั้นยอด ผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่
ผู้นี้มีนามว่า \\\" อัลเลาะฮ์  หรือพระเจ้า \\\"
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 02:39:37 หลังเที่ยง

۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞

อัล-อุสตาซ อัช-ชัยค์ มุหัมมัด คอลีล ดิรอส ได้เล่าว่า

มีอาหรับชาวเขาคนหนึ่งได้ถูกถามว่า "ท่านรู้จักพระเจ้าของท่านได้อย่างไร?

ชาวอาหรับผู้นั้นได้ตอบด้วยคารมณ์คมคายว่า "อูฐตัวเมียมันบอกแก่เราว่า  ต้องมีอูฐตัวผู้และรอยเท้าที่ปรากฏบนพื้นดินนั้น มันบอกแก่เราว่า มีผู้เดินผ่าน
ดังนั้นท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวและพื้นดินที่ปูลาด มันจะไม่บอกแกเราบ้างหรือว่า  มีผู้สร้างที่ทรงไว้ซึ่งความสามารถและความรู้อย่างละเอียดรอบคอบ?"


       
ท่านอิบนุ กะษีร ผู้เชี่ยวชาญในทางอธิบายความหมายของอัลกุรอานได้เล่าไว้ในหนังสือของท่านว่า

มีชนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นพวกที่ไม่นับถือพระเจ้าได้มาหาท่านอบูหะนีฟะฮฺ(อีหม่ามหะนะฟี) ขอร้องให้ท่านแสดงหลักฐานในเรื่องการมีพระเจ้าผู้สร้างให้แก่พวกเขา

ท่านอบู หะนีฟะฮฺก็ยินดีและปฏิบัติตามคำขอร้อง แต่ท่านพูดกับพวกเหล่านั้นว่า "ก่อนอื่นฉันอยากเล่าเรื่องแปลกประหลาดให้พวกท่านฟังสักเรื่องหนึ่ง สำหรับตัวฉันเองก็ยังฉงนใจอยู่เหมือนกัน เรื่องมีดังนี้
ฉันได้ข่าวประหลาดว่า มีเรือสินค้าลำหนึ่ง ภายในเรือไม่มีคนอยู่แม้แต่สักคนเดียว กัปตันก็ไม่มี นายท้ายก็ไม่มี ช่างเครื่องก็ไม่มี ตลอดจนกลาสีลูกเรือและกรรมกร แม้แต่เครื่องควบคุมใดๆก็ไม่มีทั้งสิ้น
แต่เรือลำนี้ทำงานได้เองทุกอย่าง เช่น เอาของลงเรือเอง พอสินค้าเต็มลำแล้วก็ออกแล่นไปยังที่หมาย เมื่อถึงที่แล้ว ก็ขนสิ้นค้าขึ้นเอง แล้วก็แล่นกลับมาขนสินค้าลงอีก เรื่องเป็นเช่นนี้ฉันใคร่อยากถามท่านว่าพวกท่านเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? มันจะเป็นไปได้ไหม?"
พวกแขกเหล่านั้นก็ตอบว่า "มันเป็นเรื่องสุดวิสัยที่จะเชื่อว่าเป็นความจริง เป็นเรื่องเหลวไหลมากว่า
ท่านอบู หะนีฟะฮฺจึงพูดกับพวกนั้นว่า "เมื่อท่านไม่ยอมเชื่อเรื่องเรือประหลาดลำนั้นแล้ว เหตุไฉนท่านจึงจะไม่ยอมเชื่อว่า พิภพอันกว้างใหญ่ไพศาลเบื้องบนที่เต็มไปด้วยจักรวาลเช่น ดวงจันทร์ ดวงตะวันและดวงดาวอย่างเหลือคณานับ ทุกอย่างหมุนเวียนไปตามกฏเกณฑ์อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยได้จังหวะ ปราศจากความผิดพลาดก้าวก่าย ทางเบื้องล่างก็มีสิ่งของสุดวิสัยที่จะคำนวนได้ ทุกๆสิ่งได้ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยตามกำหนด เหตุใดท่านจึงไม่ยอมเชื่อว่า มีผู้คอยจัดการ และคอยบริหารควบคุมดูแล ?


เมื่อท่านอบู หะนีฟะฮฺส่งคำถามกลับไปเช่นนั้นพวกที่ไม่ยอมศรัทธาในพระเจ้าเหล้านั้นต่างนิ่งอึ้ง ครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่งก็ยอมจำนนต่อเหตุผลว่า พระเจ้าผู้สร้างนั้นมีแน่นอนและยอมรับนับถืออิสลามทันที

http://muslimpakhwang.spaces.live.com/blog/cns!9E31F6320550F05C!581.entry
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:17:57 หลังเที่ยง

۞  พระเจ้า มี จริง  หรือ ???  ۞


ผู้คนมากมายอยากรู้จักพระเจ้า และมีคนอีกมากมายที่ไม่เคยรู้จักพระเจ้า ต่างก็ตั้งคำถาม ถึงความเข้าใจนี้ พระเจ้ามีจริงอย่างไร แน่ใจได้อย่างไร ...

แล้วเราผู้ที่ได้ชื่อว่ารู้จักพระเจ้า สามารถตอบ ได้อย่างมั่นใจหรือยัง ...
อยากให้ทุกคนมีโอกาสแบ่งปัน ประสบการณ์ที่ทำให้เรามั่นใจ ถึงการมีอยู่จริง ให้กับคนอีกมากมายที่อยากจะรู้จักพระเจ้าในวันนี้
มีบางคนถามคำถามนี้กับตัวผม ในขณะที่เขามีประสบการณ์กับพระเจ้ามาแล้วเกือบ2ปี ผมอยากจะตอบคำถามนี้ให้เขาฟัง ...แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ตอบคำถามนี้หรือไม่ ที่ทำได้วันนี้คือ ตอบคำถามนี้ให้กับใครบางคน ที่อาจจะแวะเวียนเข้ามาอ่าน อยากรู้จักพระเจ้าหรือไม่อยากรู้จักก็ตาม ...
และหวังว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันทำให้บทความนี้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยประสบการณ์ และความเข้าใจส่วนตัวที่มีในการรู้จักพระเจ้ามาแบ่งปันกัน

ไม่ว่าคุณคิดอย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ ....ความจริง คือสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
►เริ่มต้นที่
สิ่งที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ว่าพระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่ เราคงต้องเริ่มต้นเหมือนกับการรู้จักใครสักคน

- รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร

- นิสัย ลักษณะ วิธีคิด

เพื่อเราจะสังเกตุได้ว่า คือพระเจ้า เมื่อมีโอกาสได้พบ (มีประสบการณ์กับพระเจ้า)
หรือเราอาจจะพิสูจน์ การมีอยู่จริงของพระเจ้าแบบตรรกศาสตร์ คือเริ่มต้นที่ความจริง ความเข้าใจก็ได้
ทั้งการเรียนรู้ที่นำไปสู่ประสบการณ์ หรือการมีประสบการณ์ที่นำไปสู่การเรียนรู้ อาจจะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นพร้อมกันก็ย่อมได้ แต่ให้สังเกตุให้ดีว่า เราต้องพร้อมที่จะรู้ พร้อมที่จะพิสูจน์ พร้อมที่จะศึกษา จะไม่มีประโยชน์ใดเลยที่เราอยากรู้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ แต่ไม่พร้อมที่จะพิสูจน์ การมีอยู่จริงนั้น
มีจริงแม้มองไม่เห็น
หลายสิ่งหลายอย่างมีอยู่จริงแม้เรามองไม่เห็น เช่นลม อากาศ กระแสไฟฟ้า คลื่นเสียง คลื่นวิทยุ เรามองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่เราสัมผ้สได้ และรับรู้ได้ไม่ยาก ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง
۞ อย่าจำกัดประสบการณ์ของตัวคุณเอง เพียงแค่การมองเห็นเท่านั้น ۞

มนุษย์ ประกอบไปด้วย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งแตกต่าง จากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
เรามีจิตวิญาณ มีความรู้สำนึกผิดชอบ อย่างที่ไม่มีในสิ่งอื่นใด ...เมื่อคุณทำผิด คุณจะรู้สึกได้ไม่ยาก ว่าสิ่งเหล่านั้นผิด ....การฆ่าคนตาย เป็นความผิด ที่ทุกคนก็รู้แม้ไม่มีบทบัญญัติของกฏหมายก็ตาม คนป่าลึกที่สุดก็เข้าใจเรื่องนี้
ศาสนา จึงเกิดขึ้นมาพร้อมกับการแสวงหา ส่วนที่ขาดหายไปของจิตใจ
หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ...เป็นส่วนหนึ่งของการแสวงหาของมนุษย์ ที่อยากจะรู้จักพระเจ้า
และเรื่องพระเจ้ายังเป็นเรื่องสามัญธรรมดาที่สุด ที่อยู่คู่กับมนุษย์มาโดยตลอด
แม้คนป่าที่ไม่เคยพบใครมาก่อน อยู่ส่วนลึกที่สุดของป่า ในเทือกเขาที่ไม่มีใครเคยไปถึง ทั้งพวกเขาและก็พวกเรา ต่างก็รู้ดีแก่ใจว่า
มีบางสิ่งอยู่สูงขึ้นไป บางสิ่งที่มีอำนาจและควบคุมทุกสิ่งอยู่ ...เกิดเป็นความเชื่อ เรื่องเทพเจ้า ผีสาง เทวดา ขึ้นมา
ทุกสรรพสิ่ง ก็กำลังบอกเรา
เพราะไม่มีอะไร เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ ใครเคยคิดว่า โลกอยู่ดีๆ ก็บังเอิญหมุน 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี มีฤดูกาล มีน้ำทะเล มีฝนตก มีสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องของความบังเอิญ เป็นวิวัฒนาการ ...
ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน

ไม่มีน้ำที่ระเหยขึ้นไปในอากาศในอุณหภูมิและสภาวะที่เหมาะสมก็จะไม่มีฝน

ไม่มีพืช สัตว์ก็อยู่ไม่ได้

ไม่มีดิน ต้นไม้ก็ไม่มีที่ยึด

ไม่มีวันและคืน โลกก็อยู่ไม่รอด ...

ทุกอย่างบังเอิญกันมากเหลือเกิน ผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย ก็เกิดหายนะได้

ใครเคยเรียน ทฤษฏี "  บิ๊กแบงค์ " บ้าง

การกำเนิดของจักรวาล คุณคิดว่ามันเป็นความจริงมั๊ยที่ เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของกลุ่มก๊าซ ทำให้เกิดระบบสุริยะ เกิดดวงดาวมากมาย และบังเอิญมีโลก ที่อยู่ในภาวะที่เหมาะเจาะพอดี จึงเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น
 
....ถ้าคุณเชื่อ เคยคิดมั๊ยว่า อะไรทำให้เกิดการระเบิด พลังมหาศาลมาจากไหน เอากฏง่ายๆ ทางฟิสิกส์มาอธิบายยังได้ ไม่ยากว่า
วัตถุจะไม่เคลื่อนที่ถ้าไม่มีแรงมากระทำ F=ma ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า
ผมเคยเรียนสิ่งเหล่านี้แต่ไม่เคยสงสัย แรงที่มากพอจะระเบิดได้ทั้งจักรวาล มันแรงมาก มันมาจากไหน ไม่งั้นทุกอย่างน่าจะอยู่คงที่ไม่ระเบิด

...แต่พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอย่างเฉพาะเจาะจง ไม่มีสิ่งใดเกิดจากความบังเอิญ มิใช่ดินและน้ำ จะบังเอิญก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตได้ โดยปราศจากผู้สร้าง
มิเช่นนั้นแล้วเราก็เป็นเพียงดินที่ปราศจากจิตวิญาณ ไร้ความรู้สึก
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:24:20 หลังเที่ยง
ก่อนอื่น  เราต้องทราบก่อนว่า  มนุษย์เราไม่มีทางที่จะพิสูจน์พระเจ้าได้เลย  เพราะอะไรน่ะหรือ ? ...  

ก็เพราะว่า พระเจ้าทรงอยู่เหนือความคิดของเรา  พระองค์ทรงสูงส่งเกินกว่าที่เราจะเข้าถึงด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า  พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างเรา  
เราไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้
ถ้าเช่นนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้ามีจริง ? ...

ก่อนอื่นมีอยู่ 3 ประการที่เราควรจะทราบ

1.   ถ้าพระเจ้าไม่สร้าง  มนุษย์จะรู้อะไรได้ ?

2.   ถ้าพระเจ้าสร้างแต่ไม่นำออกมาให้มนุษย์เห็น  มนุษย์จะรู้อะไรได้ ?

3.   ถ้าพระเจ้าสร้าง เอาออกมาให้เห็น  แต่ถ้าพระองค์ไม่สร้างสติปัญญาให้แก่มนุษย์  มนุษย์จะรู้อะไรได้ ?
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:28:13 หลังเที่ยง
จุดประสงค์ที่พระเจ้าทรงส่งคลื่นมาให้แก่มนุษย์

1. เพื่อให้มนุษย์ทั่วโลกเถียงไม่ได้เลยว่า  จักรวาล และโลกนี้ มีผู้สร้าง

ถ้าคุณเดินเข้าไปในป่า  ไปพบกระดาษยับ ๆ แผ่นหนึ่งที่มีรูปวาดที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (สงสัยว่าจะเป็นผีมือเด็กไม่เกิน 10 ขวบวาด)  ซึ่งเป็นภาพวาดของวิว หรือทิวทัศน์ของธรรมชาติ  มีดวงอาทิตย์  มีนก ภูเขา ต้นไม่ ฯลฯ  
คุณก็สามารถเข้าใจได้เลยทันทีว่า รูปนี้มีคนวาด  ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นคนวาดก็ตาม  
คุณสามารถเข้าใจได้ว่า  ถ้าจะเอาแผ่นกระดาษขาวเปล่า ๆ มาจ้องสักสิบ หรือร้อย หรือล้านล้านปี ก็ไม่มีทางเกิดรูปวิวเหล่านี้ได้  ถ้ามันจะเกิดรูปวิวเหล่านี้ได้  นั่นแสดงว่าจะต้องมีคนวาดขึ้นมาอย่างแน่นอน (และถ้ามีคนเถียงคุณว่า รูปนี้ไม่มีคนวาด  แต่มันบังเอิญเกิดขึ้นเอง  คุณจะเชื่อเขาหรือ ?  คนที่เถียงว่ารูปนี้เกิดขึ้นเอง ก็มีแต่คนโง่ คนบ้า คนไร้เหตุผล และเถียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น)
ขนาดรูปที่ไม่สวย ที่คุณพบนั้น  ยังเกิดขึ้นเองไม่ได้ แต่ต้องมีคนวาดขึ้นมา  
คุณลองคิดดูซิครับว่า  แล้วจักรวาลและธรรมชาติอันงดงามที่สวยกว่ารูปที่คุณเห็นหลายร้อยหลายพันเท่า มันจะเกิดขึ้นเองได้อย่างไร ... แน่นอน มันเกิดขึ้นเองไม่ได้  แต่ต้องมีผู้สร้างขึ้นมา ... คุณเข้าใจได้
พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้มีตาอยู่ในสมอง นั่นคือ ความเข้าใจ หรือสติปัญญาในการเข้าใจ

คนฝรั่งมีความคิดที่ว่า
\\\"ถ้าเขาเข้าใจ ก็เท่ากับตาของเขามองเห็นแล้ว\\\"
เช่นเดียวกัน  ถึงแม้เรามองไม่เห็นพระเจ้าผู้ทรงสร้าง  แต่เมื่อเราเห็นสรรพสิ่งในธรรมชาติแล้ว  เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า  จักรวาลนี้มีผู้สร้าง ...
คุณ see แล้วหรือยัง ?
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:47:33 หลังเที่ยง
2. ก็เพื่อให้มนุษย์ไม่มีข้อแก้ตัวเลยว่า พระเจ้ามีกฎบริสุทธิ์ให้กับเขา  และเขาต้องรับผิดชอบต่อกฎนั้น  

อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสว่า

إِنَّا كُلَّ شَيْءٍ خَلَقْنَاهُ بِقَدَرٍ

แท้จริงทุก ๆ สิ่งนั้นเราได้สร้างมันมาตามสัดส่วน

ซูเราะฮ์อัลเกาะมัร  : 49

มอเตอร์ไซด์ ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อให้ขับขี่  ไม่ใช่นำมาแบก  ถ้าใครนำมาแบก มันขัดวัตถุประสงค์ที่มันถูกสร้างมาแน่ ๆ
 
เช่นเดียวกับมนุษย์เรา ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นมา  โดยมีวัตถุประสงค์ให้เขาประกอบอามั้ลอิบาดะฮ์ และประกอบความดี  

ถ้าหากเขาใช้ผิดวัตถุประสงค์  เขาจะรู้สึกถึงการขัดแย้งภายในทันที

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ และมีกฎให้เขา  และพระองค์ทรงให้มนุษย์ตัดสินใจได้เองว่า จะทำตามกฎของพระเจ้าหรือไม่

หลังจากที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์แล้ว  พระองค์ได้ใส่กฎและจิตสำนึกผิดชอบลงไปในมนุษย์  จิตสำนึกผิดชอบนี้ มันจะเป็นพยาน และเห็นเหมือนสัญญาณกันขโมยให้แก่มนุษย์  เมื่อมนุษย์ทุกคนกำลังเผชิญเหตุการณ์ที่จะต้องเลือกระหว่างดีและชั่ว  

จิตสำนึกผิดชอบของเขาจะทำงานทันที  โดยมันจะชี้ให้เขารู้อยู่แก่ใจว่า  
อย่าเลือกในสิ่งที่ผิด (ทุกคนจะรู้สึกถึงการเตือนนี้ได้  โดยที่หัวใจเขาจะเต้นเร็วผิดปกติ)  
อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสว่า

إِنَّا هَدَيْنَاهُ السَّبِيلَ إِمَّا شَاكِرًا وَإِمَّا كَفُورًا

แท้จริงเราได้ชี้แนะแนวทางให้แก่เขาแล้ว บางทีเขาก็เป็นผู้กตัญญู และบางทีเขาก็เป็นผู้เนรคุณ
ซูเราะฮ์อัลอินซาน : 3
เพื่อจะได้ทดสอบมนุษย์ด้วยบัญญัติศาสนาข้อใช้ข้อห้าม  เพื่อดูว่าเขาจะเป็นผู้กตัญญูหรือผู้เนรคุณ และเราได้ให้เขามีสติปัญญาแยกแยะคือ  มีปราสาทฟังและเห็น ซึ่งหมายถึงการมีความเข้าใจและแยกแยะ และเราได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องและการหลงผิด ความดีและความชั่วด้วยการส่งบรรดาศาสดามา และประทานคัมภีร์ทั้งหลายเพื่อให้พิจารณาใคร่ครวญแล้ว
อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสว่า
وَهَدَيْنَاهُ النَّجْدَيْنِ
และเราได้ชี้แนะทางแห่งความดี และความชั่วแก่เขาแล้ว
ซูเราะฮ์อัลอัลบะลัด :  10

แต่มนุษย์มีสิทธิ์เลือก  ถ้าเขาเลือกที่จะฟังมัน  ไม่ไปทำผิด  เขาจะรู้สึกภูมิใจ และรู้สึกดี  แต่ถ้าเขาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังมัน และไปทำสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจว่าผิด  เขาจะรู้สึกถึงการขัดแย้งภายในจิตใจของเขาทันที  และถ้าเขาเถียงกับมันว่า \\\"ฉันไม่ผิดโว๊ย\\\"  มันก็จะตอบลึก ๆ ใต้จิตสำนึกของเขาว่า
\\\"ถ้าคุณไม่ผิด  ทำไมต้องกลัว  ทำไมต้องปิด  ทำไมต้องซ่อน ... คุณผิด\\\"

คำถามที่มนุษย์หลายคนสงสัย  นั่นก็คือ  
\\\"  พระเจ้าสร้างความชั่วใช่ไหม  ?  
ลูกไก่พันธุ์เลวต้องมาจากพ่อไก่พันธุ์เลวจริงหรือ
 
เมื่อมนุษย์เลวนั่นแสดงว่า  ผู้สร้างมนุษย์ต้องเลวด้วยใช่ไหม ?\\\"

۩ ถ้าถามพวกวาฮาบีว่า

ใครคือผู้สร้างความชั่วความเลว ?

พวกวาฮาบีจะตอบว่า  อัลเลาะฮ์สร้าง  ใช่หรือไม่ ?
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:53:37 หลังเที่ยง
ถ้าผู้ชายคนหนึ่ง เดินไปพบผู้หญิงแล้วขอแต่งงานทันที  คุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะรับปากแต่งงานกับชายหนุ่มไหม ?   ไม่มีทางเด็ดขาด
แต่ถ้าคบกันแล้ว 3 ปี  ชายหนุ่มคนนั้นได้พูดกับหญิงสาวคนนั้นว่า  \\\"เราคบกันมา  3 ปีแล้วนะ  แต่งงานกับผมเถิดครับ  เชื่อผมเถิด ว่าผมจะดูแลคุณให้มีความสุขตลอดชีวิต\\\"
ถ้าหญิงคนนั้นตอบชายหนุ่มว่า \\\"ฉันไม่เชื่อคุณหรอก  คุณทำให้ฉันเห็นก่อนซิว่า คุณจะให้ความสุขแก่ฉันตลอดชีวิตจริง ฉันจึงจะยอมแต่งกับคุณ\\\"  
ถ้าผู้หญิงคนนี้พูดอย่างนี้ ก็อย่าหวังเลยว่าเธอจะได้แต่งงาน  เพราะถ้าเธออยากรู้ว่าเขาให้ความสุขแก่เธอได้จริงหรือไม่  เธอต้องเชื่อก่อนจึงจะเห็น ...

เหมือนกับคุณจะนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น  ถ้ากัปตันบอกคุณว่า \\\"เชื่อผมเถอะ ขึ้นมาเลย  ผมจะพาคุณไปญี่ปุ่นได้แน่นอน\\\"
ถ้าคุณตอบว่า \\\"ฉันไม่เชื่อคุณหรอก  คุณพาฉันไปญี่ปุ่นก่อนสิ ฉันจึงจะเชื่อ\\\" ...
คุณลองคิดดูซิว่า ถ้าคุณตอบเช่นนี้มันสมเหตุผลกันไหม ?

ย้อนกลับมาที่ชายหนุ่ม หญิงสาวคู่นั้น  ตามความเป็นจริงแล้ว เมื่อพบกันไม่ถึง 1 นาที  ไม่มีทางที่หญิงสาวจะตอบรับการขอแต่งงานของชายหนุ่มแน่ ๆ  แต่เมื่อคบกันไปแล้ว 3 ปี  หญิงสาวก็เริ่มมีข้อมูลในการตัดสินใจว่า จะมอบชีวิตให้ชายหนุ่มหรือไม่  ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการตัดสินใจในการเลือกครั้งนี้มาก  เพราะมันเกี่ยวกับชีวิตทั้งชีวิต

เช่นเดียวกัน  เราไม่ใช่มาถึงก็เรียกร้องเชิญชวนให้คุณมาเชื่อว่าพระเจ้ามีจริงในทันที  
แต่เราขอให้คุณอ่านบทความเหล่านี้  

แล้วใช้ความคิดวินิจฉัยของคุณ คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณได้อ่านจากบทความเหลานี้ ในการตัดสินใจเลือกว่า  

จะเชื่อหรือไม่เชื่อว่า   พระเจ้า มีจริงๆ
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 04:49:48 หลังเที่ยง

۞  พระเจ้า มี จริง  หรือไม่ ???  ۞

ความมีตัวตนของพระเจ้าในมุมมองนักคณิตศาสตร์ และ Decision Theory

ตอนเรื่องของเลขศูนย์นั้น บอกว่าเลขศูนย์นั้นเป็นเรื่องท้าทายมาก เพราะว่าถ้าบอกว่าเลขศูนย์นั้นมี ก็เท่ากับว่าบอกว่าเรายอมรับถึงอินฟินิตี้ แล้วก็เลยไปท้าทายกับความคิดของอริสโตเติลที่บอกว่า พระเจ้าเป็นคนหมุนโลก และด้วยความคิดนี้แหละครับ ที่ทำให้เลขศูนย์นั้นไม่แพร่หลาย
แต่แล้วอยู่ดีๆครับ ก็มีนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งคิดพิเรนทร์ขึ้นมา ใช้คณิตศาสตร์มาบอกว่า ถึงจะมีเลขศูนย์ ถึงจะมีอินฟินิตี้ก็ไม่เป็นไร ยังไงๆ เราก็ต้องเชื่อว่าในโลกนี้มีพระเจ้าอยู่ดี เขาคนนั้นเป็นนักคณิตศาสตร์ชื่อดังที่เรารู้จักกันดีครับ ชื่อว่า ปาสคาล

แล้วทำไมปาสคาลถึงบอกแบบนั้น ???
ปาสคาลให้ concept ของ expected value ครับ คำว่า expected value คืออะไร

expected value ถ้าเทียบกับฟิสิกส์ก็คือจุดซีจี (center of gravity) หรือ จุดศูนย์ถ่วงของวัตถุ ถ้าเทียบในทางความน่าจะเป็น ก็คือค่าเฉลี่ยเมื่อทำการทดลอง เช่น
โยนเหรียญ ทอดลูกเต๋า
แล้ววิธีการหา expected value เป็นยังไง วิธีคิดก็คือการหาค่าเฉลี่ยแบบมีน้ำหนัก (weighted average) นั่นแหละครับ

คือ E(X)=Σxp(x) เมื่อ E(X) คือ expected value
หรือ expectation ของ X, x คือค่าตัวเลขใน sample space ของเรา
และ p(x) คือ ความน่าจะเป็นหรือโอกาสที่ x จะเกิดขึ้น (อันนี้ใช้กับเฉพาะ x ที่เป็น discrete คือ x เป็นตัวๆ นะครับ)
ยกต้วอย่างเช่น
ทอยลูกเต๋า มี 6 หน้าใช่ไหมครับ ดังนั้นเราสามารถหา ค่า expected value ได้
E(X)=1*(1/6)+2*(1/6)+...+6*(1/6)= 3.5
หรือยกตัวอย่างใหม่
โยนเหรียญหัวก้อย ถ้าออกหัวให้แทนด้วย 1 ก้อย ให้แทนด้วย 0 แต่สมมติต่อไปว่า หัวมีโอกาสออกได้มากกว่าก้อย สามเท่า
E(X)=1*(3/4)+0*(1/4)=0.75
ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ

เอาล่ะ คราวนี้เรามาดูกันว่าแล้วคุณปาสคาล เขาคิดยังไง
พระเจ้ากับ Expectated Value
►เขาบอกว่า เอาล่ะในโลกนี้มีสองกรณี

กรณีแรก พระเจ้ามีจริง

กรณีที่สอง พระเจ้าไม่มีจริง


แล้วในแต่ละกรณีก็มีสองความเชื่อ ซึ่งก็คือ เราเชื่อในพระเจ้า กับเราไม่เชื่อ

۩คราวนี้เรามาสมมติกันในกรณีแรกก่อนคือเราเชื่อในพระเจ้า
กรณีแรกพระเจ้ามีจริง ผลลัพธ์ ตายไปเราขึ้นสวรรค์ ให้ค่าความสุข เป็น อินฟินิตี้ ∞

۩กรณีที่สอง ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง ตายไปไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก ให้ค่าความสุขได้ 0
แต่ถ้าจะหาค่า expected value ได้ เราต้องให้ค่าความน่าจะเป็นด้วย อ่ะให้โอกาสที่พระเจ้ามีจริงนั้น แค่ 1%
E(X)=0.01*∞+0.99*0=∞

Θสรุป
แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอแค่มีโอกาสความน่าจะเป็นว่าพระเจ้ามีจริง ยังไงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่า Expected value ก็ ∞ ถูกไหมครับ

☻เอาล่ะมาดูในกรณีที่เราไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริงบ้าง
แต่พระเจ้ามีจริง ผลลัพธ์ ตายไปก็ตกนรกสิครับ ให้ค่าความสุข เป็น -อินฟินิตี้ (-∞)
กรณีที่สอง พระเจ้าไม่มีจริง ตายไปไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก ให้ค่าความสุขได้ 0
ดังนั้น เราก็จะสามารถหา Expected value ได้ ว่า -∞
เอาล่ะแล้วมาดูกันครับ ในทาง Decision Theory
ตอนแรกเราก็มาสร้างตารางกันก่อน วิธีการสร้างตารางก็ง่ายๆครับไม่ยุ่งยาก

หลักให้เป็น state of the world หรือเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ (ในกรณีนี้ก็คือ พระเจ้ามีจริงหรือเปล่า)
แถวให้เป็น ตัวเลือกที่เราตัดสินใจ  (เลือกจะเชื่อหรือเปล่า)
อย่างที่เห็นในตารางด้านล่างครับ
เชื่อ/พระเจ้า   มีจริงๆไม่ได้โม้    โม้แหกตา
เชื่อ    ∞ **    0
ไม่เชื่อ    -∞    0

วิธีการตัดสินใจนั้นก็มีหลายแบบครับ
เอาแบบง่ายที่สุดก่อน เรียกว่า Maximum Payoff หรือก็คือเลือกการตัดสินใจที่มีประโยชน์มากที่สุด ดูจากตารางนะครับ แล้วก็เลือกเอาอันที่มากที่สุด (ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ช่องที่มี ∞ นั้น ให้ค่ามากสุด) เพราะฉะนั้น เราก็ต้องเลือกที่จะเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง

เอาล่ะมาอีกกรณีเรียกว่า Maximax อันนี้ ก็คล้ายๆกับ Maximum Payoff ครับ แต่วิธีนี้นั้นจะเลือกเอา ค่าสูงสุดของบรรดาค่าสูงสุดทั้งหมด ดังนั้นวิธีนี้ ขั้นตอนการหาประกอบด้วย สองวิธีครับ

ขั้นแรกคือการหาประโยชน์สูงสุด แล้วขั้นก็สองก็คือเลือกเอาอันที่มากที่สุด (จริงๆแล้ว ค่าที่ได้ก็จะได้เหมือน Maximum Payoff ครับ)
เชื่อ/พระเจ้า   มีจริงๆไม่ได้โม้    โม้แหกตา   ค่าผลประโยชน์สูงสุด
เชื่อ    ∞     0     ∞ **
ไม่เชื่อ    -∞    0     0

ดังนั้นวิธีนี้เราก็จะเลือกเชื่อพระเจ้าอีกเหมือนกัน
อีกวิธีหนึ่งครับ เรียกว่า Maximin อันนี้ จะเลือกเป็นการหาโดยการเลือกเอาค่าที่มากที่สดของบรรดาค่าที่น้อยที่สุด วิธีการคล้ายๆกับ Maximax ครับ คือแต่แทนที่จะหา ค่าผลประโยชน์มากสุด ในแต่ละการตัดสินใจมา อันนี้เอาค่าประโยชน์น้อยสุดมา แล้วก็เลือกเอาค่าผลประโยชน์ที่มากสุดครับ
ดูตามตารางข้างล่างนะครับ
เชื่อ/พระเจ้า   มีจริงๆไม่ได้โม้    โม้แหกตา   ค่าผลประโยชน์น้อยสุด
เชื่อ    ∞     0   0 **
ไม่เชื่อ    -∞    0    -∞

เราก็จะเลือกได้อีกเหมือนกันว่า ต้องเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
เอาละ ในนี้จะมีอีกสองวิธีครับ คือ Minimin ซึ่งก็เลือกเอาค่าที่น้อยที่สุดของค่าที่น้อยที่สุด และอันสุดท้ายคือ Minimax ซึ่งก็เลือกเอาค่าที่น้อยที่สุดของผลประโยชน์มากสุด แต่สองกรณีนั้นเหมาะกับการใช้การตัดสินใจกับค่าเสียประโยชน์ เช่น ค่าใช้จ่ายมากกว่าครับ
วิธีสุดท้ายครับ เรียกว่า Minimax Regret
Regret แปลว่าเสียใจครับ แต่ถ้าจะให้แปลแบบลูกทุ่งก็คือ เลือกเอาอันที่เราเสียใจน้อยสุดนั่นแหละครับ วิธีการคือเราต้องการ Regret ก่อนครับ Regret นั้นหาได้จากว่า เอาค่าที่มากที่สุดลบกับค่าผลประโยชน์ที่ได้ในในแต่ละ state of the world ครับ
เชื่อ/พระเจ้า   มีจริงๆไม่ได้โม้    โม้แหกตา   Max Regret
เชื่อ    ∞-(∞)=0     0-0=0    0 **
ไม่เชื่อ    ∞-(-∞)=2∞    0-0=0    2∞

แล้ววิธีการหา Minimax ก็คือการเอาค่าน้อยที่สุดของค่ามากที่สุดครับ
ซึ่งก็เหมือนเดิมเลยคือการเลือกที่จะตัดสินใจว่า เชื่อว่าพระเจ้ามีจริงนั้นจะได้ผลดีที่สุด
เอาล่ะครับ ทั้งหมดก็คือมุมมองของพระเจ้าในแง่มุมของคณิตศาสตร์และทฤษฏีการตัดสินใจครับว่าทำไม บางคนถึงเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง :D

ที่มา Seife, C. Zero The biography of a dangerous idea, Penguin Book, NY 2000 ISBN0-14-029647-6
Bernstein, P. L. Agaist the Gods: The remarkable history of risk. John Wiley & Sons Inc. NY 1996 ISBN 978-0471121046
หนังสือเกี่ยวกับ Decision Theory นั้นหาได้ทั่วไปครับ หรือไม่ก็อาจจะหาอ่านจากหนังสือพวก Operation Research ก็ได้ครับ


อ้างอิงจากเวบ
http://gotoknow.org/blog/mathbeauty/91696
ชื่อ: Re:۞ พระเจ้า มี จริง หรือ ??? ۞
โดย: L-umar เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 04:58:47 หลังเที่ยง

۞  พระเจ้า มี จริง  หรือไม่ ???  ۞

หลักฐานการมีอยู่ของพระเจ้า

พระเจ้ามีหรือไม่ มิใช่เรื่องความเชื่อ แต่เป็นเรื่องของหลักฐานที่พิสูจน์ได้
 
จะทราบได้อย่างไร..ว่าอิสลาม คือคำสั่งใช้ของพระเจ้าจริง
พระเจ้ามีจริงหรือ?
        การจะพิสูจน์ว่าอิสลาม คือคำสั่งสอนและคำสั่งใช้ที่ มิได้มาจากการปั้นแต่งผูกเรื่องเรื่องราวขึ้นเองตามความคิดของมนุษย์? (ศาสดาหรือผู้รู้ศาสนา แต่งคำสั่งสอนขึ้นมาเอง)
เราสามารถพิสูจน์ความเป็น "สัจธรรม" หรือความเป็น "ของจริง" ในบทบัญญัติอิสลามทั้งที่มาในรูปของพระคัมภีร์และจริยวัตรของศาสนทูต
     การพิสูจน์สามารถทำได้ทุกรูปแบบไม่จำกัดเพื่อให้ตระหนักว่าคำสั่งนั้นเป็นของจริงหรือไม่ เพื่อให้มนุษย์ได้สามารถปฏิบัติตามคำสั่งใช้นั้นด้วยความศรัทธาอย่างแท้จริงไม่มีข้อตะขิดตะขวงใจ เนื่องจากการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระผู้เป็นเจ้าอาจหมายถึงการที่มนุษย์ต้อง "เปลี่ยนแปลง" พฤติกรรมจากสิ่งที่ เคยชิน  ชื่นชอบ  ถูกจริต  สะดวกสบาย  ดังนั้นการพิสูจน์ให้สิ้นสงสัยในอิสลาม การยืนยันถึงความถูกต้องในวิถีปฏิบัติ และการมุ่งหวังต่อผลลัพธ์ที่ดีงามถาวรจากการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า จึงเป็นสิ่งที่พระองค์ส่งเสริมให้ปฏิบัติ และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการพิสูจน์มาแล้วอย่างต่อเนื่องทุกยุคสมัยทุกวงการ  ทั้งจากผู้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าและจากผู้ปฏิบัติศรัทธา  ด้วยภูมิปัญญาที่หลากหลายวงการ ด้วยบุคลากรระดับมันสมองมากมาย  ด้วยเงินทองและทรัพยากรเกินกว่าจะคาดคำนวน!
การพิสูจน์ความจริงแท้ของอิสลาม  เริ่มกันตั้งแต่คำถามหลัก ๆ ว่า พระเจ้า(พระนามของพระองค์คือ "อัลเลาะห์") มีจริงหรือ?
     ผู้ถามต้องการให้ผู้ศรัทธาพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่าพระเจ้าที่อิสลามเรียกว่า อัลเลาะห์ มีอยู่จริงแม้จะไม่ได้บอกว่า "ช่วยพาฉันไปเจอหน่อย" แต่ความหมายก็คล้าย ๆ กัน  คือคำถามนี้ต้องการบอกว่า ถ้ามีต้องเห็น หรือ ได้ยินเสียง  หรือ สัมผัสได้ด้วยอะไรซักอย่างซิน่า... จะมีอยู่โดยไม่สามารถรับรู้ได้จะเป็นไปได้อย่างไร?
   คำถามของมนุษย์เกี่ยวกับเรื่องการมีอยู่ของพระเจ้านั้น"เป็นเหตุเป็นผลอย่างยิ่ง"  เพราะ  หากมีต้องเห็น  ได้ยิน  จับต้องได้  พูดง่าย ๆ ว่าสัมผัสของเราทั้ง 5 ตา หู จมูก ลิ้น กายต้องสัมผัสได้ หรือ..... อย่างน้อยสัมผัสที่ 6 คือ "ใจ" ต้องสัมผัสได้ หากพระเจ้ามีต้องสัมผัสได้ด้วยอะไรซักอย่าง หากสัมผัสไม่ได้ด้วยอะไรทั้งสิ้นย่อมไม่มี!   
ถ้าเช่นนั้น.... คำตอบในเรื่องนี้มีทางเลือกไม่มากคือ "มีพระเจ้า" กับ "ไม่มีพระเจ้า"  และการตอบว่า "ไม่มี" ง่ายกว่า  เพราะเมื่อตอบแล้วก็ไม่ต้องหาเหตุผลอธิบายอีก เคลมได้เลยว่าสัมผัสกับพระเจ้าไม่ได้   แต่หากจะตอบว่า "มีพระเจ้า" ก็ต้องหาทางอธิบายว่าเหตุใดจึงเชื่อว่ามีพระเจ้า หลักฐานคืออะไร  อยู่ที่ไหน  สัมผัสได้อย่างไรจะเข้าไปดูให้เห็น  ฟังให้ได้ยิน  สัมผัสให้รู้สึกถึงการมีอยู่ของพระเจ้าได้อย่างไร?
 
 
 
 
ดังนั้นคำตอบว่า "มีพระเจ้า" จึงผูกพันกับการตอบเรื่อง "หลักฐานของการมีพระเจ้า" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  คราวนี้เรามาดูหลักฐาน....
 
 
 
 
 
 
 
 
หลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีพระเจ้าอยู่จริงอาจพออธิบายได้ง่าย ๆ ดังนี้
 
 
 
 
หลักฐานที่ตั้งอยู่บนเหตุผล
 
 
 
 
หลักฐานประเภทนี้จะก่อให้เกิดความเชื่อ(ศรัทธา) ซึ่งมนุษย์จะเกิดความเชื่อหรือศรัทธาต่อสิ่งใด ผู้ใด  เรื่องใด  มนุษย์ต้องได้สัมผัสกับสิ่งนั้นผ่านระบบสัมผัสทั้ง 5 (ตา หู จมูก ลิ้น กาย) มาเสียก่อน ความเชื่อหรือศรัทธาจึงเกิดขึ้นมาได้
 
 
 
 
ตัวอย่างเช่น : คนที่เคยไปดูภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือย่อมเชื่อถือ 100 % ว่ามีภูเขาน้ำแข็ง (แบบนี้สัมผัสด้วยตา)
 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่เคยไปดูมากับตา แต่ได้ฟังคำบอกเล่าจากคนที่ตนเชื่อถือ ได้อ่านจากหนังสือ  ได้ดูจากTV, Internet หรือสื่ออื่น ๆ ที่ตนเองเชื่อถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ไว้วางใจได้  ปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้คนที่ไม่เคยไปดูภูเขาน้ำแข็ง เกิดความเชื่อมั่น 100 %ว่ามีภูเขาน้ำแข็งได้เช่นกัน
 
 
 
 
  ความเชื่อว่ามีภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือก็เกิดขึ้นได้ เพราะอะไร?
 
 
 
 
เพราะเราเชื่อคนที่เล่าให้ฟัง   เชื่อหนังสือ   เชื่อทีวี   เชื่ออินเตอร์เน็ท  
 
 
 
 
แล้วใครบอกเราว่า "มีพระเจ้า" มนุษย์เป็นผู้บอกเรางั้นหรือ?  
 
 
 
 
กรณีนี้คำบอกเล่าของมนุษย์ไม่น่าเชื่อถือเท่าไร เพราะมนุษย์ที่มาเล่าให้เราฟังไม่เคยไปพบพระเจ้ามาก่อน  หนังสือที่เขียนผู้เขียนก็ไม่เคยเห็น  ทีวีก็ไม่เคยจับภาพไว้  เว็นไซส์ต่าง ๆ ก็เช่นกัน
 
 
 
 
ถ้าเช่นนั้นใครคือผู้บอกเล่าที่น่าเชื่อถือที่สุด?
 
 
 
 
ตอบ ...  "ธรรมชาติ"
 
 
 
 
ธรรมชาติ มาบอกเราตั้งแต่เมื่อไร  ธรรมชาติบอกเราว่ามีพระเจ้านานแล้ววันนี้ก็บอกและวันหน้าก็ยังจะบอกต่อไป  "ธรรมชาติ" ธรรมชาติมิได้บอกเราด้วยคำพูดที่เปล่งออกมาเป็นเสียงของมนุษย์ หรือภาพ หรือวีดีโอ แต่ธรรมชาติทำยิ่งกว่านั้นอีกคือนำหลักฐานการมีอยู่ของพระเจ้ามาปรากฎกายให้เราเห็น ให้เราดม ชิม สัมผัสจับต้องได้ ด้วยตัวของเราเอง
 
 
 
 
ใช่ครับ.... ดอกไม้ที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้คุณนั่นแหละคือหลักฐานที่ธรรมชาตินำมาแสดงว่า "พระเจ้ามีอยู่จริง" ทำไมถึงคิดว่าธรรมชาติสื่อถึงเราอย่างนั้น?    
 
 
 
 
ก็เพราะว่ามันไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่นเลย หากธรรมชาติมิได้บอกต่อเราว่า "นี่ดอกไม้นี่คือหลักฐานว่ามีพระเจ้า(คือมีผู้สร้างมันขึ้นมา)" ธรรมชาติก็จะต้องบอกกับเราอีกอย่างหนึ่งว่า....
 
 
 
 
 "นี่...ดอกไม้นี่มันเกิดขึ้นเอง" ธรรมชาติอาจพูดต่อไปว่า "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดดอกแรกขึ้นตอนไหน(ว่ะ)"
 
 
 
 
ผมกำลังบอกว่า...เราพบเห็นบ้านในสวนแห่งหนึ่งเราเชื่อทันทีว่า "ต้องมีผู้สร้าง" สัมผัสทั้ง 5 ของเราส่งข้อมูลปัจจุบันไปตรงกับข้อมูลเดิมที่เคยรู้มาแต่เด็กว่ามีบ้านต้องมีผู้สร้าง "เราเชื่อทันทีว่าต้องมีผู้สร้าง
 
 
 
 
แต่เราพบดอกไม้ล้าน ๆ ดอก(ซึ่งมนุษย์ยังสร้างไม่ได้เลยซักดอก) ในสวนนับล้าน ล้าน ตร.กิโลเมตร เรากลับไม่เชื่อทันทีว่า "ต้องมีผู้สร้าง"  
 
 
 
 
ทำไมล่ะ?  ก็เพราะข้อมูลเดิมของเราผิดพลาด
 
 
 
 
เพราะเมื่อสัมผัสทั้ง 5 ของเราส่งข้อมูลไปว่า พบดอกไม้ล้านดอกเอ๊ะ...ใครสร้างดอกไม้นี้หนอ ข้อมูลเดิม(ผิด ๆ )ของเราก็ตะคอกกลับมาว่า "ธรรมชาติสร้าง! โง่จริงสอนเท่าไรไม่จำ" สัมผัสทั้ง 5 ของเราก็จ๋อยไปทันที
 
 
 
 
ใครบอกคุณว่าธรรมชาติสร้าง?   ธรรมชาติเคยบอกคุณหรือ?  หรือเป็นเพียง
 
 
 
 
"มนุษย์ที่ไม่รู้ความจริง หลาย ๆ คน สอนคุณผิดๆ จนคุณเกิดความเชื่อเช่นนั้น?"                                                                                                                                            
 
 
 
 
จนถึงวันนนี้   ธรรมชาติ ก็ไม่เคยพูดซักคำว่า "อั๊วสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา"
 
 
 
 
 
 
 
 
แต่ที่ธรรมชาติ  พูด บอก สื่อสารกับเราก็คือ  "เราคือกฎ... กฎของการเกิดสิ่งต่าง ๆ"  
 
 
 
 
"การที่น้ำไหลออกจากแก้วที่คว่ำหน้า ปรากฎการนี้เกิดขึ้นเพราะกฎแรงดึงดูด"
 
 
 
 
"เมื่อถึงเวลานอนมนุษย์ง่วง ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะกฎของร่างกาย"
 
 
 
 
"น้ำเดือดเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 100 องศา ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะกฎจุดเดือดของน้ำ"
 
 
 
 
 "และกฎที่มนุษย์ควรรู้ไว้อีกเรื่องหนึ่งคือ เมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้นมาย่อมต้องมีผู้สร้าง สิ่งนี้เรียกว่า กฎของการเกิด"
 
 
 
 
กฎของการเกิด ก็คือ "ธรรมชาติ  ธรรมะ + ชาติ" ธรรมชาติ คนที่เธอเคยเข้าใจผิดว่าเป็น "ผู้สร้าง" ฉันเป็นเพียงสิ่งถูกสร้างอีกชนิดหนึ่งที่เธอจับต้องไม่ได้ มองไม่เห็น  เหมือนที่เธอมองไม่เห็นกฎแรงโน้มถ่วง  กฎการระเหย  และกฎอีกมากมาย  "กฎ" อย่างพวกเราถูกสร้างขึ้นมาทำหน้าที่ต่าง ๆ กันไป...  ขอย้ำนะ...  "ธรรมชาติ หรือ กฎของการเกิด ก็ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับพวกมนุษย์นั่นแหละ....หยุดเข้าใจว่าเรา(ธรรมชาติ)คือ "ผู้สร้าง" เสียทีมันเป็นการเข้าใจผิด"
 
 
 
 
 
 
 
 
เอาล่ะครับท่านผู้อ่าน   ผมได้บอกให้ฟังแล้วว่า ธรรมชาติ นำหลักฐานนานาชนิดมาปรากฎต่อหน้าเรา เพื่อให้เราได้รู้ถึงการมีอยู่ของพระเจ้า หรือ พระผู้สร้าง และก็ทำให้เราก็ทราบว่า "ธรรมชาติ" หรือ "กฎของการเกิด" ก็เป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาบนโลกนี้เช่นกัน
 
 
 
 
ดังนั้นทั้งสิ่งถูกสร้างที่เรามองเห็นได้ สัมผัสได้ หรือสิ่งถูกสร้างที่เรามองไม่เห็น เช่น กฎสภาวะต่าง ๆ  ก็ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างมาทั้งสิ้น หากไม่แน่ใจก็ให้ลองถามตัวเองอีกครั้ง....
 
 
 
 
ถามตัวเองดูซิว่า อยู่ดี ๆ สิ่งต่าง ๆ ในโลก ในสุริยจักรวาล และมหาจักรวาลอันไกลโพ้นสุดคำนวนนับ  มันเกิดแว๊บ! .... แล้วก็ปรากฎขึ้นมาแทนที่ความว่างเปล่า(ที่มีอยู่เดิม)
 
 
 
 
ปรากฎขึ้นทั้งประเภทจับต้องได้  และจับต้องไม่ได้ แล้วก็ร่วมกันวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างเกิดจากความว่างเปล่าไม่มีอะไรมาก่อน แล้วอยู่ดี ๆ ก็มี?  ไม่มีใครไปทำอะไรทั้งนั้น...


Φเราจะศรัทธา(เชื่อ)แบบนั้นหรือ?  นั่นเป็นคำตอบของผู้มีปัญญาหรือ  ?