ตอบโต้เวป แอนตี้ อัลเลาะฮ์ 5
อ้างอิงจากเวปแอนตี้ อัลเลาะอ์
หัวข้อ :
การปฏิเสธอิสลามของชีอะห์ 12 อิมาม » ชีอะห์ปฎิเสธอัลกุรอ่านอย่างไร
เมื่อเว็บไซต์อัลชีอะฮฺด็อทคอมตะกียะฮฺไม่สำเร็จ!!!!!!
ดู
http://www.antirafidah.com/board/viewtopic.php?t=40
สรุปเนื้อหาคือ
นายชัรฟุดดีน อามิลี แห่งกลุ่มอัซซาบิกูน เขาพยายามบอกกับชาวโลกว่า เขาคือฮีโร่อุตส่าห์ไปกอปปี้หะดีษจากอัลกาฟีในเว็บไซต์ชีอะฮ์มาแปลว่า
อิหม่ามของชีอะฮ์คือผู้รวบรวมคัมภีร์อัลกุรอ่าน ดังนี้
หนึ่ง -
"รายงานจากญาบิรว่า ฉันเคยได้ยินอบาญะอ์ฟัรได้กล่าวว่า ไม่มีผู้ใดในมวลมนุษย์ที่อ้างว่าเขารวยรวมอัลกุรอานไว้ทั้งหมดดังที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานมา นอกจากเขาเป็นคนโกหก และไม่มีผู้ใดรวมและจดจำอัลกุรอานดังที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานมา นอกจากอาลี บินอบีตอลิบและบรรดาอิหม่ามหลังจากเขาเท่านั้น"
สอง -
รายงานจากญาบิร จากอบีญะอ์ฟัร อลัยฮิสสลาม ได้กล่าวว่า ไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเขามีอัลกุรอานทั้งอักษรและความหมายนอกจากบรรดาวะซีย์ (ผู้ที่ได้รับการสั่งเสียให้ดำรงตำแหน่งอิหม่ามหลังจากท่านนบีสืบต่อมา) เท่านั้น"
เวปคิว 4 วิจารณ์
หนึ่ง - สะนัดของหะดีษ
กล่าวคือ เจ้าของบทความไม่เคยไปตรวจสอบการวิเคราะห์สะนัดหะดีษจากอุละมาอ์ชีอะฮ์บ้างว่า พวกเขาได้วิจารณ์สองหะดีษนี้ไว้อย่างไร
เพราะจิตใจของเขาโสมมหมกมุ่นเกินกว่าจะหาความเข้าใจสัจธรรม
สอง - มะตั่น หะดีษ
กล่าวคือ เจ้าของบทความนี้ไม่เคยเปิดตาอ่านคำอธิบายความหมายของหะดีษบทนี้จากอุละมาอ์ชีอะฮ์บ้างว่า เขาอธิบาย สองตัวบทหะดีษนี้ไว้อย่างไร
เพราะจิตใจของเขามืดบอด เกินกว่าที่จะเปิดใจรับฟังคำอธิบายจากชีอะฮ์
ทำไมเราจึงสร้างเวปคำถามสำหรับซุนนี่นี้ขึ้นมา ?
กล่าวคือ ในฐานะที่อะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ทั้งวาฮาบีและอะชาอิเราะฮ์ได้อ้างว่า อะฮ์ลุสสุนนะฮ์คือมัซฮับเดียวที่ถูกต้อง
เราจึงสร้างคำถามต่อสิ่งที่พวกท่านเชื่อและปฏิบัติ แต่เราชีอะฮ์ไม่เข้าใจหรืออาจแปลความหมายไม่ถูกต้องใจพวกท่าน
แล้วปิดท้ายบทความต่างๆของเราด้วยคำว่า
คำถามสำหรับซุนนี่ หรือ
คำถามสำหรับวาฮาบี เพื่ออะไร ???
เพื่อให้พวกท่านที่เหมาสัมปะทานว่าเป็นชาวสววรค์ สามารถเข้ามาอรรถาธิบายบทความต่างๆได้อย่างอิสระ
แต่ถ้าท่านจะเข้ามาสร้างคำถาม เราจะลบ เพราะชื่อเว็บคือกฏบอกแล้วว่า คำถามสำหรับซุนนี่
และนี่คือ ความเปิดกว้างทางวิชาการของชีอะฮ์ แต่ถึงกระนั้น พวกท่านก็กล่าวหาว่า เราสร้างเว็บนี้ขึ้นมาเพื่อโจมตีพวกท่าน
จะอธิบายรายละเอียดในคราวต่อไป
เว็บคิว 4 วิจารณ์
วิเคราะห์สะนัดหะดีษที่ 1
مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى عَنْ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنِ ابْنِ مَحْبُوبٍ عَنْ عَمْرِو بْنِ أَبِي الْمِقْدَامِ
มุฮัมมัด บินยะห์ยา จากอะหมัด บินมุฮัมมัด จากอิบนิมะห์บูบ จากอัมรู บินอบิลมิกดาม
สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊ห
ดูอัลกาฟี โดยเชคกุลัยนี เล่ม 1 : 288 หะดีษที่ 1
ตรวจทานโดยมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่าน
مركز البحوث الكومبيوترية للعلوم الإسلامية قم ايران
ส่วนสะนัดหะดีษที่ 2
مُحَمَّدُ بْنُ«» الْحَسَنِ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ«» الْحُسَيْنِ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ سِنَانٍ عَنْ عَمَّارِ بْنِ مَرْوَانَ عَنِ الْمُنَخَّلِ
มุฮัมมัด บินอัลฮาซัน จากมุฮัมมัด บินอัลฮูเซน จากมุฮัมมัด บินสินาน จากอัมมาร บินมัรวาน จากอัลมุนัคค็อล
สถานะหะดีษ : ดออีฟ
ดูอัลกาฟี โดยเชคกุลัยนี เล่ม 1 : 288 หะดีษที่ 2
ตรวจทานโดยมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่าน
مركز البحوث الكومبيوترية للعلوم الإسلامية قم ايران
เว็บคิว 4 วิจารณ์
เมื่อมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่านตรวจทานสะนัดหะดีษที่ 2 และระบุว่ามีสถานะ ดออีฟ
เราจึงไม่มีธุระกับหะดีษที่กลุ่มนักวิชาการตรวจสอบแล้วว่า ดออีฟ
ถาม ทำไมหะดีษที่ 2 จึงมีสถานะ ดออีฟ
ตอบ เพราะในสะนัดหะดีษบทนี้มี รอวี ( นักรายงาน ) คนหนึ่งชื่อ มุนัคค็อล
ซึ่งอุละมาอ์ชีอะฮ์สาขาริญาลได้วิจารณ์ถึงมุนัคค็อลไว้ดังนี้
منخل بن جميل الأسدي : ضعيف، فاسد الرواية.
رجال النجاشي ج 1 / ص 302 رقم 112
อันนะญาชีกล่าวว่า มุนัคค็อล บินญะมีล อัลอะสะดี ดออีฟ การรายงานไม่ดี ดูริญาล นะญาชี อันดับที่ 112
مُنَخَّلُ بنُ جَمِيْل، كُوْفيٌّ، ضَعِيْفٌ، في مذهبِهِ غُلُوٌّ
الرجال لابن الغضائري ج 6 / ص 2 رقم 14
อิบนุเฆาะฎออิรีกล่าวว่า มุนัคค็อล บินญะมีล ชาวกูฟะฮ์ ดออีฟ มัซฮับของเขานั้น ฆูล๊าต ดูริญาล อิบนิเฆาะฎออิรี อันดับที่ 14
منخل بن جميل الاسدي : ضعيف فاسد الرواية.
رجال ابن داود ج 1 / ص 274 رقم 516
อิบนุดาวูดกล่าวว่า มุนัคค็อล บินญะมีล ดออีฟ การรายงานใช้ไม่ได้มัซฮับของเขานั้น ฆูล๊าต ดูริญาล อิบนิดาวูด อันดับที่ 516
المنخل ابن جميل : كان كوفيا ضعيفا وفي مذهبه غلو
خلاصة الاقوال ج 55 / ص 12 رقم 10
อัลลามะฮ์ฮิลลีกล่าวว่า มุนัคค็อล อิบนิญะมีล เป็นชาวกูฟะฮ์ ดออีฟ และมัซฮับของเขานั้น ฆูล๊าต ดูคุลาเศาะตุลอักวาล อันดับที่ 10
หากว่า " วาฮาบี " จะไม่ยอมรับการตรวจสอบนี้ เราถือว่าเป็นสิทธิของเขา
เพราะขนาด " เศาะหิ๊หฺบุคอรี " ที่อะฮ์ลุสสุนนะฮ์เชื่อว่า ถูกต้อง ยังถูกเชคอัลบานี อุละมาอ์วาฮาบีฟัตวาว่า " ดออีฟ " เลย
แล้วนับประสาอะไร ที่พวกวาฮาบีจะมายอมรับการตรวจสอบของอุละมาอ์มัซฮับชีอะฮ์
คงเหลือเพียงหะดีษบทที่ 1 ที่เราจำเป็นต้องอธิบายให้ทุกท่านเข้าใจคือ
ดูหนังสืออัลกาฟี เล่ม 1 : 228 กิตาบุล ฮุจญะฮ์ หะดีษที่ 1
สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ
مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى عَنْ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنِ ابْنِ مَحْبُوبٍ عَنْ عَمْرِو بْنِ أَبِي الْمِقْدَامِ
عَنْ جَابِرٍ قَالَ سَمِعْتُ أَبَا جَعْفَرٍ ع يَقُولُ مَا ادَّعَى أَحَدٌ مِنَ النَّاسِ أَنَّهُ جَمَعَ الْقُرْآنَ كُلَّهُ كَمَا أُنْزِلَ إِلَّا كَذَّابٌ وَ مَا جَمَعَهُ وَ حَفِظَهُ كَمَا نَزَّلَهُ اللَّهُ تَعَالَى إِلَّا عَلِيُّ بْنُ أَبِي طَالِبٍ ع وَ الْأَئِمَّةُ مِنْ بَعْدِهِ ع
ท่านญาบิรกล่าวว่า ฉันได้ยินอบูญะอ์ฟัร ( อิม่ามบาเก็ร ) กล่าวว่า
ไม่มีผู้ใดจากมนุษย์ ที่อ้างว่า เขาได้รวบรวมคัมภีร์อัลกุรอานไว้ทั้งหมด เหมือนที่ถูกประทานลงมา นอกจาก เขาเป็นคนโกหก
และไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อาลี บินอบีตอลิบและบรรดาอิม่ามหลังจากเขาเท่านั้น.
.
ท่านจะไม่เข้าใจความหมายของหะดีษบทที่ 1 นี้ได้อย่างสมบูรณ์
นอกเสียจากว่า ท่านจะต้องทำความเข้าใจ สองประเด็นนี้เสียก่อนคือ
1. เรื่องการยืนยันว่า ท่านอิม่ามอะลี นั้นมี มุศหัฟ
2. มุศหัฟ ที่ว่านี้ คืออะไร
รายชื่ออุละมาอ์อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ที่ยืนยันว่า ท่านอิม่ามอะลี มี " มุศหัฟ " ส่วนตัวของท่าน
อิบนุกะษีรรายงานว่า
وقد روى أن عليا رضى الله عنه أراد أن يجمع القرآن بعد رسول الله صلى الله عليه و سلم مرتبا حسب نزوله أولا فأول كما رواه ابن أبى داود رحمه الله حيث قال : ثنا محمد بن اسماعيل الأحمسى ثنا ابن تفضيل عن أشعث عن محمد ابن سيرين قال : لما توفى النبى صلى الله عليه و سلم أقسم علي أن لا يرتدى برداء إلا لجمعة حتى يجمع القرآن فى مصحف ففعل
فضائل القرآن لابن كثير ج 1 / ص 39
แน่นอนมีรายงานหะดีษว่า แท้จริงท่านอะลี (ร.ฎ.) ต้องการรวบรวมคัมภีร์อัลกุรอ่าน หลังจากท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ. วะฟาต) โดยเรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่อัลกุรอ่านถูกประทานลงมาแต่ครั้งแรก ตามที่อิบนิอบีดาวูดรายงานไว้ เขากล่าวว่า มุฮัมมัด บินอิสมาอีลเล่าให้เราฟัง อิบนิ ตัฟฎีล เล่าให้เราฟัง จากอัชอัษ จากมุฮัมมัด อิบนิซีรีน เล่าว่า : เมื่อท่านนบี ( ศ ) วะฟาต ท่านอะลีได้สาบานว่า จะไม่สวมเสื้อคลุม ยกเว้นวันศุกร์ จนกว่าเขาจะรวบรวมอัลกุรอ่านไว้ในมุศหัฟ(เสร็จ) แล้วเขาได้ทำ(ตามนั้น).
อ้างอิงจาก
ฟะฎออิลุลกุรอ่าน โดบอิบนิกะษีร เล่ม 1 : 39
حدثنا عبد الله قال حدثنا محمد بن إسماعيل الأحمسي قال : حدثنا ابن فضيل ، عن أشعث ، عن محمد بن سيرين قال : لما توفي النبي صلى الله عليه وسلم أقسم علي أن لا يرتدي برداء إلا لجمعة حتى يجمع القرآن في مصحف ففعل
المصاحف لابن أبي داود ج 1 / ص 34 رقم 25
อิบนิซีรีนเล่าว่า : เมื่อท่านนบี ( ศ ) วะฟาต ท่านอะลีได้สาบานว่า จะไม่สวมเสื้อคลุม ยกเว้นวันศุกร์ จนกว่าเขาจะรวบรวมอัลกุรอ่านไว้ในมุศหัฟ(เสร็จ) แล้วเขาได้ทำ(ตามนั้น)
อ้างอิงจาก
อัลมะศอหิฟ โดยอิบนอบีดาวูด เล่ม 1 : 34 หะดีษที่ 25
عن محمد بن سيرين قال : لما توفي النبي صلى الله عليه و سلم أقسم علي أن لا يرتدي برداء إلا الجمعة حتى يجمع القرآن في مصحف ففعل
كنز العمال ج 13 / ص 109 رقم 36403
อิบนิซีรีนเล่าว่า : เมื่อท่านนบี ( ศ ) วะฟาต ท่านอะลีได้สาบานว่า จะไม่สวมเสื้อคลุม ยกเว้นวันศุกร์ จนกว่าเขาจะรวบรวมอัลกุรอ่านไว้ในมุศหัฟ(เสร็จ) แล้วเขาได้ทำ(ตามนั้น)
อ้างอิงจาก
กันซุลอุมมาล โดยอัลมุตกี ฮินดี เล่ม 13 : 109 หะดีษที่ 36403
อิบนุกุตัยบะฮ์บันทึกว่า
فخرجوا فبايعوا إلا عليا فإنه زعم أنه قال: حلفتُ أن لا أخرج ولا أضع ثوبي على عاتقي حتى أجمع القرآن
الامامة والسياسة - ابن قتيبة ، تحقيق الزيني ج 1 / ص 2
แล้วพวกเขาออกมา ให้บัยอะฮ์แก่เขา ยกเว้นท่านอะลี เพราะเขาอ้างว่า เขาได้สาบานไว้ว่าจะไม่ยอมออกไปนอก(บ้าน)และจะไม่ยอมสวมเสื้อผ้าของฉันบนไหล่ทั้งสองของฉัน จนกว่าฉันจะรวบรวมคัมภีร์กุรอ่าน(ให้เสร็จเสียก่อน)
อ้างอิงจาก
อัลอิมามะฮ์ วัสสิยาซะฮ์ โดยอิบนิกุตัยบะฮ์ เล่ม 1 : 2
عن محمد بن سيرين قال : لما توفى النبى - صلى الله عليه وسلم - أقسم على أن لا يرتدى برداء إلا لجمعة حتى يجمع القرآن فى مصحف ففعل
جامع الأحاديث ج 31 / ص 485 رقم 34631
มุฮัมมัด อิบนิซีรีน เล่าว่า : เมื่อท่านนบี ( ศ ) วะฟาต ท่านอะลีได้สาบานว่า จะไม่สวมเสื้อคลุม ยกเว้นวันศุกร์ จนกว่าเขาจะรวบรวมอัลกุรอ่านไว้ในมุศหัฟ(เสร็จ) แล้วเขาได้ทำ(ตามนั้น).
อ้างอิงจาก
ญามิอุลอะฮาดีษ โดยสิยูตี หะดีษที่ 34631
อิบนิ นะดีมกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ในหนังสืออัลฟะฮ์ร็อส หน้า 41
ท่านจะเห็นได้ว่า รายงานหะดีษของอุละมาอ์อะฮ์ลุสสุนนะฮ์นั้นสอดคล้องกับรายงานหะดีษของเชคกุลัยนีบทนี้ที่ว่า
ท่านอิม่ามอะลีคือบุคคลแรกที่ทำการรวบรวมคัมภีร์อัลกุรอ่านทั้งหมดไว้ในมุศหัฟของท่าน ก่อนที่บรรดาเศาะหาบะฮ์ทั้งหลายจะทำการรวบรวมอัลกุรอ่าน
ส่วนตัวมุศหัฟของท่านอะลีที่ว่านี้มีลักษณะหน้าตาอย่างไรนั้น จะรู้ได้เมื่อกลับมาพิจารณาตัวบทหะดีษที่ 1 ให้ดีอีกที
مَا ادَّعَى أَحَدٌ مِنَ النَّاسِ أَنَّهُ جَمَعَ الْقُرْآنَ كُلَّهُ كَمَا أُنْزِلَ إِلَّا كَذَّابٌ وَ مَا جَمَعَهُ وَ حَفِظَهُ كَمَا نَزَّلَهُ اللَّهُ تَعَالَى إِلَّا عَلِيُّ بْنُ أَبِي طَالِبٍ ع وَ الْأَئِمَّةُ مِنْ بَعْدِهِ ع
ไม่มีผู้ใดจากมนุษย์ ที่อ้างว่า เขาได้รวบรวมคัมภีร์อัลกุรอานไว้ทั้งหมด เหมือนที่ถูกประทานลงมา นอกจาก เขาเป็นคนโกหก
และไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อาลี บินอบีตอลิบและบรรดาอิม่ามหลังจากเขาเท่านั้น.
โปรดสังเกตุการใช้คำว่า - كما اُنْزِل - เหมือนที่ถูกประทานลงมา และ
คำว่า - كَمَا نَزَّلَهُ اللَّهُ تَعَالَى - เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา
ทั้งสองคำได้ชี้ชัดว่า วีธีการรวบรวมคัมภีร์กุรอ่านของท่านอะลีนั้นคือ เรียงตามลำดับอัสบาบุลนุซูลโองการกุรอ่าน
ไม่รวบรวมตามลำดับซูเราะฮ์อย่างที่เราพบเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เช่นนำบางซูเราะฮ์ที่ถูกประทานลงมาที่มะดีนะฮ์ไปใส่รวมไว้กับโองการที่
ประทานลงมาที่เมืองมักกะฮ์ หรือในทำนองกลับกันป็นต้น
เพื่อความเข้าใจขอยกตัวอย่างเช่น
โองการแรกๆที่ถูกประทานลงมากลับถูกนำไปวางไว้ในซูเราะฮ์ลำดับท้ายๆ เช่น
اِقرَأ بِاِسمِ رَبِّكَ الَّذي خَلَقَ
บทที่ 96 อายะฮ์ที่ 1
และโองการท้ายๆที่ถูกประทานลงมากลับถูกนำไปวางไว้ในซูเราะฮ์ลำดับต้นๆ เช่น
اليَوْمَ أكمَلتُ لَكُم دِينَكُم وَأتمَمتُ عَلَيكُم نِعمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمُ الاِسْلامَ دِيناً
บทที่ 5 อายะฮ์ที่ 3
ความหมายของหะดีษในอัลกาฟีก็คือ
การรวบรวมคัมภีร์กุรอ่านตาม - ترتيب نزول آياته - ลำดับการนุซูลโองการต่างๆนั่นเอง
ซึ่งการรวบรวมอัลกุรอ่านเช่นนี้ ท่านอิม่ามอะลีได้ดำเนินการเสร็จสิ้นหลังจากท่านนบี(ศ)วะฟาตก่อนใครๆทั้งสิ้น
หากผู้ใดก็ตาม อ้างว่าตัวเขาได้รวบรวมอัลกุรอ่านไว้เหมือนที่ท่านอิม่ามอะลีรวบรวมไว้
หรืออ้างว่าเขาสามารถจดจำลำดับการประทานซูเราะฮ์และอายะฮ์ได้เหมือนที่ท่านอะลีทำไว้ จึงถือว่าเขาคนนั้น " โกหก "
(( ไม่ได้แปลว่า ไม่มีใครเคยรวบรวมอัลกุรอ่านเลย นอกท่านอิม่ามอะลีคนเดียว ))
เหมือนที่นายชัรฟุดดีน อามิลีหยิบมาแปลแบบผิดๆ แต่พอชีอะฮ์หยิบหะดีษของอะฮ์ลุสสุนนะฮ์มาแปล ก็บอกว่าชีอะฮ์แปลหะดีษของพวกเขา
ไม่ถูก มันก็คือกันแหล่ะครับท่าน
หากใครสามารถหยิบมุศหัฟของใครก็ได้มาอ้างว่า มุศหัฟเล่มนี้รวบรวมไว้เหมือนที่ท่านอะลีรวบรวม ก็ช่วยเอามาแสดงด้วยนะครับ ???
และที่นายชัรฟุดดีนบอกว่า ชีอะฮ์นั้นได้ตะกียะฮ์เก็บซ่อนหะดีษนี้ไว้ แต่เขาคือฮีโร่ที่อุตส่าห์ไปค้นเจอหะดีษนี้มาเปิดเผย
อันนี้ต้องขอบอกตรงๆว่า นายชัรฟุดดีนค่อนข้างปัญญานิ่มมากๆ กล่าวคือ หากชีอะฮ์ต้องการเก็บซ่อนหะดีษนี้ไว้ แล้วชีอะฮ์ดันเอามาลง
ไว้ในเว็บไซต์ ซึ่งเว็บเป็นที่เก็บข้อมูลสำหรับสาธารณะที่ คนทั่วไปสามารถค้นหาได้อย่างง่ายๆ ถามว่ามีมีปัญญาชนท่านใดเขาเอาของมี
ค่าไปเก็บซ่อนไว้นอกรั้วบ้านหรือครับ ?
ที่เอามาลงก็เพื่อต้องการแสดง ต้องการเปิดเผยหะดีษนี้ให้ประชาชนศึกษา และมิใช่เอามาลงไว้เฉยๆแค่ตัวบทหะดีษ ชีอะฮ์ยังอธิบายไว้
อย่างชัดเจนด้วยเพียงแต่ นายชัรฟุดดีนไม่อ่านคำอธิบายเอง ท่านลองเข้าไปอ่านดูที่ไซต์ ชื่อ ชีอะฮ์เวป ตามนี้
http://www.shiaweb.org/books/waqfa/pa3.html
ท่านจะพบว่าเขาอธิบายหะดีษเหล่านี้ไว้อย่างชัดเจน ผมถึงบอกว่า นายคนนี้ค่อนข้างนิ่มจริงๆ
และสิ่งที่เราชี้แจงไปนั้น ก็ถูกปฏิเสธเช่นเคย ดังที่อัลเลาะฮ์ ตะอาลาตรัสว่า
إِنَّ الَّذِينَ كَفَرُوا سَوَاءٌ عَلَيْهِمْ أَأَنْذَرْتَهُمْ أَمْ لَمْ تُنْذِرْهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
خَتَمَ اللَّهُ عَلَى قُلُوبِهِمْ وَعَلَى سَمْعِهِمْ وَعَلَى أَبْصَارِهِمْ غِشَاوَةٌ وَلَهُمْ عَذَابٌ عَظِيمٌ
แท้จริงบรรดาพวกปฏิเสธ มันเท่ากันบนพวกเขา ไม่ว่าเจ้าจะตักเตือนพวกเขาแล้ว หรือไม่เคยตักเตือนพวกเขา พวกเขาก็จะไม่เชื่อศรัทธา
(เพราะ) อัลลอฮฺได้ประทับบนหัวใจของพวกเขา และบนการฟังของพวกเขา และบนสายตาของพวกเขาก็มีสิ่งบดบังอยู่ และสำหรับพวกเขาคือ
อะซาบ อะซีม
ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ : 6-7
ผมจึงเข้าใจแบบนี้ว่า แท้จริงพวกวาฮาบี นั้นเท่ากันสำหรับพวกเขา ไม่ว่าชีอะฮ์จะชี้แจงพวกเขาแล้ว หรือไม่เคยชี้แจงพวกเขามาก่อนเลย พวกวาฮาบีก็จะไม่เชื่อ เพราะจิตใจ หูและตาของพวกเขานั้นมฝาชีครอบอยู่นั่นเอง
เราคงเหลือคำอธิบายให้ชัดอีกเรื่องคือ คำว่า " มุศหัฟ "
จะกล่าวในตอนต่อไป
เรื่อง " มุศหัฟ - مُصْحَفٌ "
เท่าที่ผ่านมา วาฮาบีจะเอาคำนี้มาใช้หารัปทานบ่อยมาก กล่าวคือ พวกเขาพยายามโจมตีว่า
ชีอะฮ์ มีมุศหัฟหนึ่ง เป็นการเฉพาะ ที่ชาวอะฮ์ลุสสุนนะฮ์ไม่เคยพบเห็นหรือรู้จักมาก่อน
ถ้ามองตามตรรกะ ผมว่า ยาลูกกลอนของวาฮาบีสูตรนี้ค่อนข้างได้ผล
เพราะใครฟังก็คล้อยตามว่า อ้อ ชีอะฮ์ กับ สุหนี่ มันมี มุศหัฟกุรอ่าน ไม่เหมือนกันนี่หว่า
ความจริงที่แท้จริง ก็คือ พี่น้องสุหนี่โดยทั่วไปค่อยได้รับทราบว่า
บรรดาเศาะหาบะฮ์ แต่ละคนล้วนมี " มุศหัฟ " ส่วนตัว ด้วยกันทั้งนั้น
คล้ายๆสมุดไดอารี่ ที่เศาะหาบะฮ์แต่ละคนใช้จดบันทึกซูเราะฮ์หรือโองการกุรอ่าน ตามที่ท่านรอซูลุลเลาะฮ์(ศ)ได้สาธยายให้พวกเขาสดับฟัง
ตามวาระและโอกาสต่างๆนั่นเอง
แต่ส่วนมากมุสลิมเรารู้จักกันแต่ " มุศหัฟ อุษมานี "
والمراد بالمصحف العثماني مصحف عثمان بن عفان - رضي الله عنه - الذي أمر بكتابته وجمعه وكانوا يسمونه \\\"المصحف الإمام\\\" ، وسبب هذه التسمية \\\"الإمام\\\" هي مقولة عثمان (..... يا أصحاب محمد اجتمعوا فاكتبوا للناس إماماً) . (1)
ولعل كلمة المصحف الإمام كانت تشمل جميع المصاحف التي كتبت بأمر عثمان - رضي الله عنه - في أي مصر من الأمصار ، وليس مصحف المدينة أو المصحف الخاص بالخليفة فحسب.
المصحف العثماني المؤلف : عوض احمد الناشري الشهري ج 1 / ص 1
ความหมายของคำว่า มุศหัฟ อุษมานี นี้หมายถึง มุศหัฟของท่านอุษมาน บินอัฟฟาน (ร.ฎ.) ซึ่งท่านได้สั่งให้เขียนมัน รวบรวมมัน แล้วก็
เรียกกันว่า มุศหัฟ อิหม่าม
สาเหตุที่เรียก อัลกุรอ่านฉบับบนี้ว่า " อัลอิหม่าม " เพราะเป็นคำพูดของท่านอุษมานที่กล่าวว่า
(... โอ้อัศฮาบของนบีมุฮัมมัด พวกท่านจงทำการรวบรวม แล้วพวกท่านจงเขียนอิม่าม(กุรอ่าน)เพื่อประชาชนเถิด )
จึงคาดว่า คำ " มุศหัฟ อิหม่าม " นั้นเป็นคำที่ครอบคลุมบรรดามุศหัฟต่างๆที่ถูกเขียนขึ้นโดยคำสั่งของท่านอุษมาน ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหนึ่ง
เมืองใดจากเมืองต่างๆก็ตาม และไม่ใช่มุศหัฟของมะดีนะฮ์ หรือมุศหัฟคอศ (พิเศษ)โดยท่านคอลีฟะฮ์ ตามที่นึกคิดกัน
ดู อัลมุศหัฟ อุษมานี โดยอิวัฎ อะหมัด อันนะชิรี อัชชะฮ์รี เล่ม 1 : 1
قال الإمام أحمد بن حنبل : \\\" تحرم مخالفة خط مصحف عثمان في واوٍ أو ألفٍ أو يا ءٍ ، أو غير ذلك
تحريم كتابة القرآن الكريم بحروف غير عربية أعجمية أو لاتينية ج 1 / ص 29
อิหม่ามอะหมัดบินหัมบัลกล่าวว่า ห้ามมุคอละฟะฮ์กับ ค็อฏของมุศหัฟของท่านอุษมาน
ดู
ตะห์รีมุล กิตาบะติกุรอ่าน บิหุรูฟ ฆ็อยริอะเราะบียะฮ์ อะอ์ญะมียะฮ์ เอาลาตีนียะฮ์ เล่ม 1 : 29
ถามว่า เศาะหาบะฮ์อื่นจาก ท่านอิม่ามอะลี มีมุศหัฟของพวกเขาไหม ?
เรามาศึกษาหลักฐานของอะฮ์ลุสสุนนะฮ์เองไปพร้อมๆกันดังนี้
มุศหัฟของท่านอิบนุมัสอู๊ด
وبهذين الوجين عرف أن تأخير النساء عن آل عمران أنسب من تقديمها عليها في مصحف ابن مسعود
كتاب : أسرار ترتيب القرآن للسيوطي ج 1 / ص 6
สิยูตีกล่าวว่า
สองประเด็นนี้ จึงรู้ว่า การนำซูเราะฮ์อันนิสาอ์ ไปไว้หน้าซูเราะฮ์ อาลิอิมรอนนั้น.... มีอยู่ในมุศหัฟของท่านอิบนุมัสอู๊ด
ดู อัสรอรุ ตัรตีบิลกุรอ่าน เล่ม 1 : 6
มุศหัฟของท่านอุบัย บินกะอับ
وأتى بعد براءة بهود، كا في مصحف أبي بن كعب
أسرار ترتيب القرآن ج 1 / ص 10
สิยูตีกล่าวว่า การเอาซูเราะฮ์ฮูดมาไว้หลัง ซูเราะฮ์ บะรออะฮ์ (เตาบะฮ์)
เช่น มีอยู่ในมุศหัฟของท่านอุบัย บินกะอับ
ดู อัสรอรุ ตัรตีบิลกุรอ่าน เล่ม 1 : 10
มุศหัฟของท่านอะนัส บินมาลิก
وفي مصحف أنس سيعذبهم بالياء، وسكن عياش عن أبي عمر والياء.
إعراب القرآن لابن سيده ج 5 / ص 323
อิบนุสัยยดะฮ์กล่าวว่า และในมุศหัฟของท่านอะนัส (คำ) سيعذبهم เขียนด้วยตัวยาอ์
ดู อิ๊อฺรอบุลกุรอ่าน โดยอิบนุสัยยิดะฮฺ เล่ม 1 : 10
فصبر جميل أي: فأمري صبر جميل، أو فصبر جميل أمثل. وقرأ أبي، والأشهب، وعيسى بن عمر: فصبراً جميلاً بنصبهما، وكذا هي في مصحف أبيّ، ومصحف أنس بن مالك.
إعراب القرآن لابن سيده ج 6 / ص 5
อิบนุสัยยดะฮ์กล่าวว่า ..... และเช่น(บันทึกอยู่ )ในมุศหัฟของท่านอุบัย และมุศหัฟของท่านอะนัสบินมาลิก
ดู อิ๊อฺรอบุลกุรอ่าน โดยอิบนุสัยยิดะฮฺ เล่ม 6 : 5
มุศหัฟของอัลหาริษ บินสุวัยดฺ อันตัยมี หนึ่งจากอัศฮาบของท่านอับดุลเลาะฮ์
وقوله: {وَكَانُواْ أَحَقَّ بِهَا وَأَهْلَهَا...}.
ورأيتها في مصحف الحارث بن سويد التيمى من أصحاب عبدالله، \\\"وكانوا أهلها وأحق بها\\\" وهو تقديم وتأخير، وكان مصحفه دفن أيام الحجاج.
معانى القرآن للفراء ج 5 / ص 22
ฉันพบมันมี ( บันทึกอยู่ )ในมุศหัฟของอัลหาริษ บินสุวัยดฺ อันตัยมี หนึ่งจากอัศฮาบของท่านอับดุลเลาะฮ์
ดู มะอานี อัลกุรอ่าน โดยอัลฟัรรออฺ เล่ม 5 : 22
มุศหัฟของท่านหญิงอาอิชะฮ์
عن حميدة بنت أبي يونس قالت: قرأ على أبي وهوابن ثمانين سنة في مصحف عائشة: إن الله وملائكته يصلون على النبي، يا أيها الذين آمنوا صلوا عليه وسلموا تسليما، وعلى الذين يصلون الصفوف الأول. قالت: قبل أن يغير عثمان المصاحف.
الإتقان في علوم القرآن ج 1 / ص 258
หะมีดะฮ์ บินติอบียูนุสเล่าว่า ฉันอ่านกุรอ่านให้บิดาฉัน ตอนนั้นท่านอายุแปดสิบปี ในมุศหัฟของท่านหญิงอาอิชะฮ์ (บันทึกโองการนี้ว่า )....
ดู อัลอิตกอน ฟีอุลุมิลกุรอ่าน โดยสิยูตี เล่ม 1 : 258
มุศหัฟที่อยู่กับท่านหญิงหัฟเศาะฮ์
فَأَرْسَلَ عُثْمَانُ إِلَى حَفْصَةَ أَنْ أَرْسِلِى إِلَيْنَا بِالصُّحُفِ نَنْسَخُهَا فِى الْمَصَاحِفِ
ท่านอุษมานได้ส่งคนไปหาท่านหญิงหัฟเศาะฮ์ โดยให้นางส่งมุศหัฟมายังพวกเรา เราจะทำการคัดลอกมันในมุศหัฟต่างๆ
เศาะหิ๊หฺ บุคอรี หะดีษที่ 4987
ท่านจะเห็นได้ว่า
บรรดานักวิชาการอะฮ์ลุสสนนะฮ์กล่าวเองว่า
ก่อนที่ท่านอุษมาน บินอัฟฟานจะทำการรวบรวมและคัดลอกมุศหัฟต่างๆให้เป็นหนึ่งเพื่อนำมาใช้ให้เป็นสากล
เศาะหาบะฮ์แต่ละคนก็มีมุศหัฟกุรอ่านเป็นของเขาส่วนตัว และมีการจัดลำดับเรียบเรียงซูเราะฮ์ต่างๆแตกต่างกันไป
มุศหัฟของท่านอุบัย เอาซูเราะฮ์ที่สี่มาไว้หน้าซูเราะฮ์ที่สาม ถัดจากซูเราะฮ์ที่สาม คือซูเราะฮ์อันอาม แล้วตามด้วยซูเราะฮ์อัลอะฮ์รอฟ แล้วตามด้วยซูเราะฮ์อัลมาอิดะอ์...
มุศหัฟของท่านอิบนิมัสอูด เริ่มต้นด้วยซูเราะฮ์ที่สอง ต่อด้วยซูเราะฮ์ที่สี่... ซูเราะฮ์อาลิอิมรอน... ซูเราะฮ์อัลอะอ์รอฟ... ซูเราะฮ์อัลอันอาม... ซึ่งไม่เหมือนมุศหัฟฉบับปัจจุบัน
นายชัรฟุดดีนและพวกพ้องวาฮาบีทั้งหลายโหมโจมตีชีอะฮ์เรื่อง " มุศหัฟของบรรดาอิมามชีอะฮ์ " ที่กล่าวในตำรา " อัลกาฟี " ซะเพลิน
จนลืมไปว่า นักวิชาการอะฮ์ลุสสุนนะฮ์ได้กล่าวถึงหน้าตามุศหัฟอะลีเอาไว้ในตำราของอะฮ์ลุสสุนะฮ์มากมาย
เขาตำราปลาตายน้ำตื้น และที่สำคัญมุศหัฟอะลีนี้ ก็ไม่เหมือนใครจริงๆซะด้วย
เชิญชม ((( มุศหัฟ อะลี )))
มุศหัฟของท่านอะลี
ญะลาลุดดีน สิยูตีกล่าวว่า
فمنهم من رتبها على النزول وهو مصحف علي كان أوله اقرأ ثم المدثر ثم ن ثم المزمل ثم تبت ثم التكوير وهكذا إلى آخر المكي والمدني
الإتقان في علوم القران للسيوطي ج 1 / ص 171 ح 807
ส่วนหนึ่งจากซอฮาบะฮ์ ที่เรียบเรียงซูเราะฮ์ ตามลำดับนูซุล การประทานลงมา คือมุศหัฟของท่านอะลี ปรากฏว่า ท่านเริ่มต้นด้วยซูเราะฮ์อัลอะ
ลัก ซูเราะฮ์96 ... อัลมุดดัษษิร...อัลมุซซัมมิล...ซูเราะฮ์ตับบัตยะดา...ซูเราะฮ์อัตตักวีร และเช่นกันเรียงจาก(โองการที่ประทานลงมาที่) มักกะฮ์ก่อน
แล้วตามมาด้วยโองการที่ประทานที่มะดีนะฮ์
ดูอัลอิตกอน ฟีอุลูมิลกุรอาน เล่ม 1 : 171 หะดีษที่ 807
อัลกุรตุบีกล่าวว่า
قال ابن الطيب : إن قال قائل قد اختلف السلف في ترتيب سور القرآن فمنهم من كتب في مصحفه السور على تاريخ نزولها وقدم المكي على المدني ومنهم من جعل في أول مصحفه الحمد ومنهم من جعل في أوله : { اقرأ باسم ربك } وهذا اول مصحف علي رضي الله عنه
الكتاب : الجامع لأحكام القرآن ج 1 ص 95
المؤلف : محمد بن أحمد بن أبي بكر بن فرح القرطبي أبو عبد الله
โองการ " อิกเราะอฺ บิสมิ ร็อบบิกะ "นี่คือโองการแรกที่อยู่ในมุศหัฟของท่านอะลี
ดูตัฟสีรกุรตุบี เล่ม 1 หน้า 95
อัซ-ซัรกัชชี กล่าวว่า
وقال القاضى أبو بكر بن الطيب فإن قيل قد اختلف السلف فى ترتيب القرآن فمنهم من كتب فى المصحف السور على تاريخ نزولها وقدم المكى على المدنى ومنهم جعل من أوله اقرأ باسم ربك وهو أول مصحف على
البرهان في علوم القرآن للزركشي ج 1 / ص 259
โองการ " อิกเราะอฺ บิสมิ ร็อบบิกะ "นี่คือโองการแรกที่อยู่ในมุศหัฟของท่านอะลี
ดูอัลบุรฮาน ฟีอุลุมิลกุรอ่าน โดยซัรกัชชี เล่ม 1 หน้า 259
อัซ-ซัรกอนีกล่าวว่า
وهذا مصحف علي كان مرتبا على النزول فأوله اقرأ ثم المدثر ثم ق ثم المزمل ثم تبت ثم التكوير وهكذا إلى آخر المكي والمدني
الكتاب : مناهل العرفان في علوم القرآن ج 1 ص 244
المؤلف : محمد عبدالعظيم الزرقاني
มุศหัฟของท่านอะลีนี้ เป็นการเรียบเรียงตามลำดับนุซูล(โองการกุรอ่าน) ดังนั้นโองการแรกคือ อิกเราะอฺ จากนั้นคือซูเราะฮ์มุดัษษิร จากนั้น
ซูเราะฮ์ กอฟ จากนั้นซูเราะฮ์มุซซัมมิล จากนั้นซูเราะฮ์ตับบัต จากนั้นซูเราะฮ์อักตักวีร และเช่นกันได้เรียงตามมักกียะฮ์ตามาด้วยมะดะนียะฮ์
ดูมานาฮิลุลอิรฟาน ฟีอุลูมิลกุรอ่าน โดยอัซ-ซัรกอนี เล่ม 1 : 244
อัลซันญานีอธิบายว่า
ولقد وصف الزنجانى مصحف على رضى الله عنه بأنه كان في سبعة اجزاء
الكتاب : تاريخ القرآن الكريم ج 1 ص 75
المؤلف : محمد طاهر الكردي
มุศหัฟฉบับของท่านอะลี (ร.ฎ) นั้นแบ่งงอกเป็น เจ็ด ญุซอฺ
ดู ตารีคุลกุรอ่าน โดยมุฮัมมัด ตอฮิร อัลกุรดี เล่ม 1 : 75
ด็อกเตอร์มุฮัมมัด มุตินนีกล่าวว่า
فمنهم من رتبها على النزول ، وهو مصحف علي (- رضي الله عنه -) حيث كان أوله : أقرأ ، ثُمَّ المدثر ... ثُمَّ النساء ، ثُمَّ البقرة ثُمَّ آل عمران
الكتاب : سورة القصص دراسة تحليلية ج 1 ص 11
تأليف الكتور محمد مطني
ส่วนหนึ่งจากซอฮาบะฮ์ ที่เรียบเรียงซูเราะฮ์ ตามลำดับนูซุล การประทานลงมา คือ มุศหัฟของท่านอะลี ปรากฏว่า ท่านเริ่มต้นด้วยซูเราะฮ์อัลอะลัก ซูเราะฮ์96 ... อัลมุดดัษษิร...อัลมุซซัมมิล...ซูเราะฮ์ตับบัตยะดา...ซูเราะฮ์อัตตักวีร และเช่นกันเรียงจาก(โองการที่ประทานลงมาที่) มักกะฮ์ก่อนแล้วตามมาด้วยโองการที่ประทานที่มะดีนะฮ์
ดูหนังสือซูเราะตุลกิศ็อศ ดิรอสะฮ์ ตะห์ลีลียะฮ์ โดยด็อกเตอร์มุฮัมมัด มุตินนีก เล่ม 1 : 11
เมื่อท่านที่เคารพอ่านแล้ว จึงได้ข้อสรุปว่า
1. นักวิชาการอะฮ์ลุสสุนนะฮ์ เรียกกุรอ่านที่ท่านอะลีบันทึกว่า " มุศหัฟอะลี "
2. มุศหัฟอะลี เรียบเรียงคัมภีร์กุรอ่านตามลำดับที่อัลลอฮ์ ตะอาลาประทานลงมา
3. เมื่อมุศหัฟอะลีเรียงตามนุซูลอายะฮ์ จึงไม่เหมือนกับมุศหัฟฉบับอุษมานีที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
4. มุศหัฟของท่านอิบนุมัสอูด ท่านอิบนุอับบาส ท่านอะนัสบินมาลิก ท่านอุบัยบินกะอับ ท่านหญิงอาอิชะฮ์ และมุศหัฟที่อยู่กับท่านหญิงหัฟเศาะฮ์ ก็ไม่เหมือนกับมุศหัฟอุษมานีเช่นกัน
5. แต่หลังจากที่ท่านอุษมานทำการรวบรวมโองการกุรอ่านจากบรรดามุศหัฟต่างๆเพื่อทำให้เป็นสากล และเป็นที่ยอมรับของชีอะฮ์ที่ใช้อ่านกันเรื่อยมา จนถึงวันนี้
6. หากเราถามชาวสุหนี่ว่า มุศหัฟอะลี ที่พวกท่านกล่าวถึงในตำราอุลูมกุรอ่านและตัฟสีรของท่านนั้นเหมือนกับ มุศหัฟฉบับปัจจุบันหรือไม่ ? ถ้าท่านตอบว่า " เหมือน " ท่านก็โกหก เพราะอุละมาอ์ท่านกล่าวว่า มุศหัฟอะลีเริ่มต้นด้วย " อิกเราะอฺ " แต่มุศหัฟปัจจุบันเริ่มต้นด้วยซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ เพราะฉะนั้นอุละมาอ์สุหนี่ก็บอกว่าไม่เหมือน
7. ทีนี้ท่านลองกลับมาอ่าน หะดีษบทนี้กันอีกครั้ง
(( อบูญะอ์ฟัร ( อิม่ามบาเก็ร ) กล่าวว่า : ไม่มีผู้ใดจากมนุษย์ ที่อ้างว่า เขาได้รวบรวมคัมภีร์อัลกุรอานไว้ทั้งหมด เหมือนทีถูกประทานลงมา
นอกจาก เขาเป็นคนโกหก
และไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อาลี บินอบีตอลิบ
และบรรดาอิม่ามหลังจากเขาเท่านั้น )) ][/color]
ท่านว่าหะดีษชีอะฮ์กล่าวผิดหรือบกพร่องตรงไหนมิทราบ ลองอ่านแบบใช้สมองคิดตามสิครับ
วรรคที่กล่าวว่า
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อาลี บินอบีตอลิบ "
อธิบาย :
ท่านอิบนุมัสอูดกับท่านอิบนุอับบาสก็มีมุศหัฟไม่เหมือน
ท่านอะนัสบินมาลิกกับท่านอุบัยบินกะอับก็มีมุศหัฟไม่เหมือน
ท่านหญิงอาอิชะฮ์กับท่านหญิงหัฟเศาะฮ์ก็มีมุศหัฟไม่เหมือน
ท่านอะลี ก็มี มุศหัฟ ไม่เหมือนกับ ท่านอิบนุมัสอูด ,อิบนุอับบาส,อะนัสบินมาลิก,อุบันบินกะอับก็มีมุศหัฟ,ท่านหญิงอาอิชะฮ์และท่านหญิงหัฟเศาะฮ์ เช่นกัน
ผมว่า เชคกุลัยนีก็รายงานของเขาถูกแล้วนี่ เพียงแต่ไม่ถูกใจพวกวาฮาบีโสโครกเท่านั้นเอง
มีวรรคไหนที่บอกว่า มุศหัฟที่ท่านอะลีรวบรวมนั้นมีเพิ่มหรือลดน้อยไปกว่ากุรอ่านฉบับปัจจุบันหรือครับ คำว่า
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อาลี บินอบีตอลิบ "
ท่านก็สามารถกล่าวเช่นนี้ได้กับซอฮาบะฮ์อื่นเหมือนกันเช่น
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อิบนิมัสอูด "
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อิบนิอับบาส "
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อุบัยบินกะอับ "
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อะนัสบินมาลิก "
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อาอิชะฮ์ "
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก ฮัฟเศาะฮ์ "
และสุดท้าย
" ไม่มีผู้ใดรวม และจดจำอัลกุรอาน เหมือนที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ประทานมันลงมา นอกจาก อุษมาน บินอัฟฟาน "
ท่านว่า ถ้าเราพูดแบบนี้ เราผิดด้วยหรือ ?
แต่นั่นแหล่ะ หากนายชัรฟุดดีนอามิลีมีนิสียชอบปรักปรำผู้อื่น และใส่ร้ายผู้อื่นโดยสันดาน ที่ขุดไม่ออกเหมือนสันดอน เราคงแก้ยาก
เพราะอัลลอฮ์ตรัสว่า
إِنَّ اللَّهَ لَا يُغَيِّرُ مَا بِقَوْمٍ حَتَّى يُغَيِّرُوا مَا بِأَنْفُسِهِمْ
แท้จริงอัลเลาะฮ์จะไม่เปลี่ยนแปลงต่อกลุ่มชนใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวพวกเขาเอง
เป็นไปได้ไหมถ้าผมจะกล่าวว่า
แท้จริงอัลเลาะฮ์จะไม่เปลี่ยนแปลงสันดานทรามของนายชัรฟุดดีนอามิลี จนกว่านายชัรฟุดดีนอามิล จะเปลี่ยนแปลงตัวของเขาเอง
By Ja-la-lud-deen
จากกรุ๊ปสุนัขอะฮ์ลุลบัยต์ถึงสุนัขรับใช้นบีอุมัยยะฮ์ยุคอาคิริซซะมาน