ข่าว:

SMF - Just Installed!

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - id_kids

#1
ไม่ปฏิเสธครับสำหรับหลักฐานที่ท่านได้นำเสนอ
และผมก็ขอยืนยันว่ามันมีอยู่จริง
โดยเฉพาะหลักฐานที่มาจากแหล่งอ้างอิงทีเป็นที่ยอมรับได้ตามหลักวิชาการอิสลาม
อย่างเช่น เศาะหีหฺมุสลิม และอื่นๆ

กระนั้นก็ตาม...ท่านน่าจะนำเสนอตัวบทหะดีษดังกล่าวให้สมบูรณ์ด้วยนะครับ
ว่ารายละเอียดที่สมบูรณ์ของตัวบทดังกล่าวนั้นมีรายละเอียดอย่างไร
พี่น้องทีเขามาอ่านจะได้มีความเข้าใจที่มากขึ้นว่าใครคืออะฮฺลุลบัยตฺที่แท้จริง
ที่เราสมควรที่จะยึดมั่นตามที่ตัวบทหะดีษได้กำชับไว้

ไม่เป็นไรครับ ผมจะขอเชื่อว่าท่านอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปกปิดหรือปิดบังหลักฐานแต่อย่างใด
อาจเป็นเพราะความไม่รู้หรือความผิดพลาดของท่านก็อาจเป็นไปได้
ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวย่อมเกิดขึ้นได้ในตัวของมนุษย์

ก็สำหรับตัวบทหะดีษที่สมบูรณ์นั้นได้มีรายงานจากท่านซัยดฺ อิบนุอัรฺกอม เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า

قَامَ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - يَخْطُبُنَا بِمَاءٍ يُدْعَى خُمٌّ بَيْنَ مَكَّةَ وَالْمَدِينَةِ ، فَحَمِدَ اللَّهَ وَأَثْنَى عَلَيْهِ ، وَوَعَظَ ، وَذَكَرَ ثُمَّ قَالَ : أَمَّا بَعْدُ ، أَلا أَيُّهَا النَّاسُ ، إِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ يُوشِكُ أَنْ يَأْتِيَنِي رَسُولُ رَبِّي فَأُجِيبَهُ ، وَإِنِّي تَارِكٌ فِيكُمُ الثَّقَلَيْنِ ، أَحَدُهُمَا : كِتَابُ اللَّهِ ، فِيهِ الْهُدَى وَالنُّورُ ، فَتَمَسِّكُوا بِكِتَابِ اللَّهِ وَخُذُوا بِهِ ، فَرَغَّبَ فِي كِتَابِ اللَّهِ وَحَثَّ عَلَيْهِ ، ثُمَّ قَالَ : وَأَهْلُ بَيْتِي أُذَكِّرُكُمُ اللَّهَ فِي أَهْلِ بَيْتِي ثَلاثَ مَرَّاتٍ فَقَالَ لَهُ زَيْدٌ وَحُصَيْنٌ : مَنْ أَهْلُ بَيْتِهِ ؟ أَلَيْسَ نِسَاؤُهُ مِنْ أَهْلِ بَيْتِهِ ؟ قَالَ : بَلَى إِنَّ نِسَاءَهُ مِنْ أَهْلِ بَيْتِهِ ، وَلَكِنَّ أَهْلَ بَيْتِهِ مَنْ حُرِمَ الصَّدَقَةَ قَالَ : وَمَنْ هُمْ ؟ قَالَ : آلُ عَلِيٍّ وَآلُ الْعَبَّاسِ ، قَالَ : كُلُّ هَؤُلاءِ حُرِمَ الصَّدَقَةَ ، قَالَ : نَعَمْ

ความว่า "ภายหลังจากนั้น(ท่านซัยดฺ อิบนุอัรฺกอม)ได้กล่าวว่า มีวันหนึ่งท่าน เราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยืนขึ้นอ่านคุฏบะฮฺในหมู่พวกเราที่แอ่งน้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกกันว่า "คุม\\\" อันเป็นชื่อสถานที่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างนครมักกะฮฺกับนครมะดีนะฮฺ (เรียกว่า เฆาะดีรฺ คุม) ดังนั้น ท่านก็กล่าวคำสรรเสริญอัลลอฮฺและชมเชยต่อพระองค์ สั่งสอนและตักเตือน แล้วกล่าวว่า \\\"ต่อไปนี้โปรดเข้าใจเถิดว่า โอ้ท่านทั้งหลาย! ฉันนี้ไม่มีอื่นใดนอกจากเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งทูตของพระเจ้าของฉันใกล้จะมาหา แล้วฉันจะตอบว่า ฉันได้ละทิ้งไว้ในหมู่พวกท่านสิ่งหนักสองอย่าง หนึ่งในสองคือ กิตาบุลลอฮฺ ในนั้นมีทางนำและแสงสว่าง ดังนั้นท่านทั้งหลายจงรับเอาคัมภีร์ของอัลลอฮฺ\\\" และท่านได้กระตุ้นให้ยึดมั่นในสิ่งที่มีอยู่ในกิตาบุลลอฮฺ แล้วท่านก็กล่าวอีกว่า \\\"และจงเอาใจใส่ต่ออะฮฺลุลบัยตฺของฉัน ฉันขอเตือนพวกท่านให้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺในเรื่องอะฮฺลุลบัยตฺของฉัน ฉันขอเตือนพวกท่านทั้งหลายให้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺในเรื่องอะฮฺลุลบัยตฺของฉัน และฉันขอเตือนพวกท่านทั้งหลายให้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺในเรื่องอะฮฺลุลบัยตฺของฉัน"

ซึ่งตัวบทที่ท่านไม่ได้นำเสนอไว้นั้น ทั้งๆที่เป็นหะดีษตัวบทเดียวกันนั้นคือ

"แล้วท่านหุศ็อยนฺได้กล่าวแก่ท่านซัยดฺว่า "ใครคืออะฮฺลุลบัยตฺของท่านนบี ปวงภรรยาของท่านมิใช่ส่วนหนึ่งจากอะฮฺลุลบัยตฺของท่านดอกหรือ" ท่านซัยดฺตอบว่า "ใช่ ปวงภรรยาของท่านเป็นส่วนหนึ่งในอะฮฺลุลบัยตฺของท่าน แต่อะฮฺลุลบัยตฺของท่าน(ยังมีอีก) คือผู้ที่ถูกห้ามกินซะกาตหลังจากท่าน(นบีจากไป)" เขาถามต่อไปว่า "เขาเหล่านั้นคือใคร" ท่านซัยดฺตอบว่า \\\"พวกเขาคือวงศ์วานของท่านอลี วงศ์วานของท่านอะกีล วงศ์วานของท่านญะอฺฟัรฺ    วงศ์วานของท่านอับบาส" และเขาถามต่อไปว่า "พวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่ถูกห้ามกินซะกาตหรือ" ท่านตอบว่า "ใช่แล้ว"  

((มุสลิม, เศาะหีหฺ, หมวดฟะฎออิลิศเศาะหาบะฮฺ, บรรพฟะฎออิลิ อลี อิบนุอบีฏอลิบ, หมายเลขหะดีษ : 6378))

ขอต่ออัลลอฮฺทรงประทานทางนำแก่ข้าพเจ้าและท่านเจ้าของเว็บ รวมทั้งพี่น้องทุกท่าน
อามีน ยาร็อบบัลอาละมีน