Q4wahabi.com (Question for Wahabi)
หมวดหมู่ทั่วไป => อื่น ๆ => หัวข้อที่ตั้งโดย: L-umar เมื่อ มิถุนายน 16, 2010, 12:02:43 หลังเที่ยง
วิจัยความโรคจิตของพวกวาฮาบี
จากการสำรวจพฤติกรรมของพวกวาฮาบีที่ชอบทะเลาะเบาะแว้ง ชอบสร้างความขัดแย้งในสังคมมุสลิม จึงวิจารณ์ได้ดังนี้
สาเหตุหลักๆที่ทำให้จิตใจของพวกวาฮาบีหยาบคายไร้มารยาทคือ การก่อหรือสร้างความบาดหมางชิงชังในหมู่พี่น้องที่นับถือศาสนาเดียวกัน รวมทั้งในครอบครัวและชุมชนมุสลิมด้วย
ซึ่งสาเหตุที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ พวกวาฮาบีชอบหาเรื่องถกเถียงหรือฮุก่มฝ่ายตรงข้ามเสมอ
เราต่างรู้ดีว่า การที่คนเราอยู่ร่วมกันในสังคมมนุษย์ ย่อมต้องมีความเห็นต่างกันไปในปัญหาหนึ่งๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราจะทำอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาที่เห็นต่างกันโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเกิดกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง ?
ฉะนั้นสิ่งแรกที่เราต้องระวังให้มากคือ การประณามหรือการโต้แย้งแบบรุนแรงต่อฝ่ายที่เห็นไม่ตรงกับความคิดเห็นของเรา เพราะนิสัยของมนุษย์ทุกคนย่อมมีของที่ตนรักและที่ตนชังเป็นเรื่องปกติ☺☺☺
►ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อในเรื่องอัลลอฮ์ทรงอยู่ประจำที่หรือไม่ประจำที่
วาฮาบี(คณะใหม่)กล่าวว่า อัลลอฮ์อยู่บนอารัชเหนือชั้นฟ้า
ส่วนอะชาอิเราะฮ์(คณะเก่า)กล่าวว่าอัลลอฮ์อยู่ในทุกสถานที่ไม่ใช่เฉพาะบนอารัช
และทั้งสองฝ่ายต่างมีหะดีษกำกับสิ่งที่ตนเชื่อและชอบทำทั้งสิ้น
ทีนี้มันอยู่ที่ใครชอบ ใครไม่ชอบ แต่วาฮาบีได้หยิบเอาสิ่งนี้มาเป็นความขัดแย้ง(คิล๊าฟ)เอามาทะเลาะกันและฮุก่มฝ่ายตรงข้ามว่าเป็น พวกบิดอะฮ์ พวกเฎาะลาละฮ์ และในที่สุดก็เป็นกาเฟ็ร
ดังนั้นวิธีแก้โรคจิตสำหรับวาฮาบีที่มีอาการแบบนี้คือ ควรเล่าเรียนมารยามในการโต้เถียง ดังนี้
۞ กฏที่หนึ่ง – ต้องไม่เชื่อมั่น ยึดมั่นว่า ตนถูกอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
เราทุกคนไม่ใช่จะสามารถติดต่อสื่อสารโดยตรงไปยังชั้นฟ้าได้ และเราก็ไม่ได้รับวะห์ยูจากอัลลอฮ์ด้วย
วาฮาบีไม่สามารถติดต่อสื่อสารไปถามอัลลอฮ์ได้และวาฮาบีก็ไม่ได้รับวะห์ยูจากอัลลอฮ์ด้วย
ด้วยเหตุนี้เองเราทุกคนย่อมผิดพลาดได้เสมอ นะบี(ศ)บอกว่า อิจญ์ติฮาดผิดได้หนึ่งษะวาบ หากอิจญ์ติฮาดถูกได้สองษะวาบ
สมมุติวาฮาบีคนหนึ่งกล่าวว่า " ฉันถูก " และฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าฉันก็ถูก จนกระทั่งทั้งสองฝ่ายเข้าสู่ขบวนการโต้เถียงกันในเชิงวิชาการ เพื่อพิสูจน์ว่า " ใครถูกที่สุด " ไม่ใช่ใครถูกคือมุสลิม ส่วนใครผิดเป็นกาเฟ็ร การถกกันแบบนี้จะส่งผลกับสังคมไปในทางที่ดี
ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลาตรัสว่า
اُدْعُ إِلَى سَبِيلِ رَبِّكَ بِالْحِكْمَةِ وَالْمَوْعِظَةِ الْحَسَنَةِ وَجَادِلْهُمْ بِالَّتِي هِيَ أَحْسَنُ إِنَّ رَبَّكَ هُوَ أَعْلَمُ بِمَنْ ضَلَّ عَنْ سَبِيلِهِ وَهُوَ أَعْلَمُ بِالْمُهْتَدِينَ
จงเชิญชวน(ผู้คน)สู่แนวทางของพระเจ้าของสูเจ้าด้วยเหตุผลและการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งกับพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า แท้จริงพระเจ้าของสูเจ้าทรงรู้ดียิ่งต่อผู้ที่หลงออกจากทางของพระองค์และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งต่อบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง
บทที่ 16 : 125
۞ กฏที่สอง – วาฮาบีต้องพยายามฝึกมองคนอื่นหรือมองฝ่ายตรงข้ามไว้ในแง่ดี
วาฮาบีบางคนมักกล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามกับฉันนั้น ดื้อดึงกับฉัน(คือไม่เชื่อฉัน) เราไม่ทราบว่าเขาไปรู้มาจากไหนว่าคู่กรณีของเขาดื้อรั้นกับเขา หรือเพราะเขาเห็นว่า ความถูกต้องนั้นอยู่กับตัวเอง
ทำไมวาฮาบีไม่ลองเอาใจฝ่ายตรงข้ามมาใส่ใจเขาบ้างล่ะ
สมมุติถ้าฝ่ายตรงข้ามก็คิดและอยู่ในสภาวะเดียวกันกันเขาบ้าง แล้วจะเป็นอย่างไร
ท่านนะบี(ศ)สอนให้เรารักพี่น้องมุสลิมทุกคนเหมือนที่เรารักตัวเองมิใช่หรือ
ท่านนะบี(ศ)ได้สอนเราว่า
المؤمن مرآة المؤمن
[color=#FFFF00]ผู้ศรัทธาคือกระจกส่องผู้ศรัทธา(ด้วยกัน) [/color] ดูซิลซิละตุซ ซ่อฮีฮะฮ์ โดยเชคอัลบานี หะดีษที่ 926
นั่นหมายความว่า ท่านต้องพยายามนำพาตัวเองให้มองคนอื่นในแง่ดีเสมอ
แม้กระทั่งว่า ท่านได้กลิ่นสุราจากปากมุสลิมคนหนึ่ง ให้คิดว่าเขาอาจแค่บ้วนปากเท่านั้น
หรือเห็นมุสลิมคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านขายสุรา ให้ท่านคิดว่าเขาเดินเข้าไปทำธุระหนึ่งหรือขอเข้าไปปัสสาวะ หรือเห็นมุสลิมคนหนึ่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งในสภาพสองต่อสอง ให้ท่านคิดว่านั่นคือภรรยาของเขา
อิสลามต้องการให้เราพาตัวเราไปอยู่ในระดับนี้ เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพปกป้องดูแลตัวของพวกเราเอง
แต่สิ่งที่จะพาเราไปสู่ระดับนั้นได้คือ เราต้องมองพี่น้องมุสลิมในแง่ดีไว้เป็นหลักประจำใจ
ทีนี้ท่านลองย้อนกลับไปศึกษาพฤติกรรมคำพูดของพวกวาฮาบีตั้งแต่ระดับแกนนำจนถึงรากหญ้าดูสิว่า พวกเขาประพฤติ ปฏิบัติกับมุสลิมมัซฮับอื่นแบบไหน ท่านก็จะทราบได้ทันทีว่า
พวกวาฮาบีเช่น นายฟารีดเฟ็นดี้ นายริดอ สะมะดีและพวกพ้อง มีสันดานชอบหาเรื่องทะเลาะกับพี่น้องมุสลิมเป็นประจำ แม้กระทั่งเป็นเรื่องฟิกฮ์เล็กๆที่ไม่ใช่วายิบหรือซุนนะฮ์ก็ยังหาเรื่องทะเลาะ นี่แหล่ะที่เขาเรียกว่า พวกโรคจิต
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ศาสนาไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะกัน