วาฮาบี และ อะชาอิเราะฮ์ เป็น กาเฟร หรือไม่ ?

[L-umar]

วาฮาบีและอะชาอิเราะฮ์ เป็นกาเฟร หรือไม่ ?

จากอีเมล  lift2u@gmail.com
ส่งเมื่อ 14 มิถุนายน 2552 15:14:41
ถึง l-umar2@hotmail.com  เป็นอีเมลของเวปมาสเตอร์

ได้ถามมาว่า    วาฮาบีกับอะชาอิเราะฮ์  ในทัศนะของอะฮ์ลุลบัยต์ เป็น " กาเฟร " หรือไม่ 



ตอบ -   

ในฐานะที่เราเป็นผู้ปฏิบัติตามกิตาบและอะฮ์ลุลบัยต์นบี จึงต้องย้อนกลับไปยังคำพูดของบรรดาอิหม่ามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ว่า พวกท่านเหล่านั้นได้กล่าวถึงเงื่อนไขการเป็นมุสลิมไว้อย่างไร


หะดีษจากอะฮ์ลุลุบัยต์

عَنِ ابْنِ أَبِي عُمَيْرٍ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ حُمْرَانَ   عَنْ أَبِي عَبْدِ اللَّهِ (ع) قَالَ :
مَنْ قَالَ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ مُخْلِصاً دَخَلَ الْجَنَّةَ وَ إِخْلَاصُهُ أَنْ يَحْجُزَهُ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ عَمَّا حَرَّمَ اللَّهُ

ท่านอบูอับดุลเลาะฮ์ ( อิม่ามศอดิก บุตรมุฮัมมัด บาเก็ร บุตรอะลี ซัยนุลอาบิดีน บุตรฮูเซน บุตรอะลี ) กล่าวว่า  : 

บุคคลใดก็ตามที่กล่าวคำว่า  ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลเลาะฮ์เท่านั้น) ด้วยความบริสุทธิ์ใจ  เขาจะได้เข้าสวรรค์   และความอิคล๊าศของเขาคือ การที่เขาจะต้อง(ให้ถ้อยคำ) ลาอิลาฮะอิลลัลเลาะฮ์ ป้องกันตัวเขาให้ออกจากสิ่งที่อัลเลาะฮ์ต้องห้าม.

สถานะหะดีษ  : เศาะหิ๊หฺ   
ดูหนังสือวะซาอิลุช-ชีอะฮ์  โดยอัลฮุรรุลอามิลี  เล่ม 15 : 256 หะดีษที่  20439


عَنْ سَمَاعَةَ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي عَبْدِ اللَّهِ ع أَخْبِرْنِي عَنِ الْإِسْلَامِ وَ الْإِيمَانِ أَ هُمَا مُخْتَلِفَانِ فَقَالَ إِنَّ الْإِيمَانَ يُشَارِكُ الْإِسْلَامَ وَ الْإِسْلَامَ لَا يُشَارِكُ الْإِيمَانَ فَقُلْتُ فَصِفْهُمَا لِي فَقَالَ الْإِسْلَامُ شَهَادَةُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَ التَّصْدِيقُ بِرَسُولِ اللَّهِ ص بِهِ حُقِنَتِ الدِّمَاءُ وَ عَلَيْه‏

สิมาอะฮ์เล่าว่า : ฉันได้ถามท่านอบูอับดุลเลาะฮ์(อิม่ามศอดิก) ว่า : จงบอกฉันถึงอิสลามและอีหม่านว่า ทั้งสองแตกต่างกันหรือไม่ 
ท่านตอบว่า :  แท้จริงอีหม่านมีส่วนรวมอยู่ในอิสลาม  แต่อิสลามมิได้รวมอยู่กับอีหม่าน
ฉันกล่าวว่า  : ท่านโปรดอธิบายมันทั้งสองแก่ฉันด้วยเถิด
ท่านกล่าวว่า : อัลอิสลามคือ การปฏิญาณตนว่า  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์(เพียงองค์เดียวเท่านั้น) และเชื่อต่อสิ่งที่ท่านรอซูลุลเลาะฮ์(ศ)ได้นำมันมา  เลือด(ชีวิต)ก็จะได้รับการปกป้องต่อเขาคนนั้น....

สถานะหะดีษ  : เศาะหิ๊หฺ   
ดูหนังสืออัลกาฟี  โดยอัลกุลัยนี  เล่ม 2 : 25 หะดีษที่  1



ฝ่ายซุนนี่ได้รายงานหะดีษทำนองนี้ไว้เช่นกันคือ

عَنِ الزُّهْرِىِّ أَنَّهُ سُئِلَ عَنْ قَوْلِ النَّبِىِّ -صلى الله عليه وسلم- « مَنْ قَالَ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ دَخَلَ الْجَنَّةَ ».

ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า : บุคคลใดก็ตามที่เขากล่าวว่า  ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลเลาะฮ์เท่านั้น)   เขาจะได้เข้าสวรรค์   

สถานะหะดีษ  : ฮาซัน 
ดูเศาะหิ๊ห วะดออีฟ สุนันติรมิซี  เล่ม 6 : 138 หะดีษที่ 2638  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี

قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم  : مَنْ شَهِدَ أَنْ لا إِلَهَ إِلا اللَّهُ دَخَلَ الْجَنَّةَ
قال الألباني : إسْنَادُهُ حسن صحيح انظر كتاب السلسلة الصحيحة  ج 5 ص 454  ح : 2344

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า : บุคคลใดก็ตามที่ปฏิญาณตนว่า  ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์ เขาจะได้เข้าสวรรค์   

สถานะหะดีษ  : ฮาซัน เศาะหิ๊หฺ
ดูซิลซิละตุซเศาะฮีฮะฮ์  เล่ม 5 : 454 หะดีษที่ 2344  ตรวจทานโดยเชคอัลบานี

ท่านรอซูลุลเลาะฮ์(ศ)กล่าวว่า :

أُمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتَّى يَشْهَدُوا أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ ، وَيُقِيمُوا الصَّلاَةَ ، وَيُؤْتُوا الزَّكَاةَ ، فَإِذَا فَعَلُوا ذَلِكَ عَصَمُوا مِنِّى دِمَاءَهُمْ وَأَمْوَالَهُمْ إِلاَّ بِحَقِّ الإِسْلاَمِ ، وَحِسَابُهُمْ عَلَى اللَّهِ

ฉันถูก(อัลเลาะฮ์)บัญชาว่า ให้ต่อสู้กับมนุษย์ จนกว่าพวกเขาจะกล่าวว่า  ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์(ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลเลาะฮ์) และแท้จริงมุฮัมมัดคือรอซูลของอัลเลาะฮฺ และพวกเขาดำรงนมาซ จ่ายทานซะกาต 
เมื่อพวกเขาได้ปฏิบัติสิ่งเหล่านั้นแล้ว เลือด(ชีวิต)ของพวกเขา ทรัพย์สินของพวกเขาย่อมได้รับการพิทักษ์จากฉัน  ยกเว้นตามสิทธิแห่งอิสลาม

เศาะหิ๊หฺบุคอรี หะดีษ 25

مَنْ شَهِدَ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ ، وَاسْتَقْبَلَ قِبْلَتَنَا ، وَصَلَّى صَلاَتَنَا ، وَأَكَلَ ذَبِيحَتَنَا ، فَهُوَ الْمُسْلِمُ

บุคคลใด(ก็ตาม)ปฏิญาณตนว่า ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์(ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลเลาะฮ์)  ,เขาหันหน้าสู่กิบลัตของเรา ,เขาทานอาหารตามการเชือดของเรา  เขาผู้นั้นคือ มุสลิม...

เศาะหิ๊หฺบุคอรี หะดีษ 393

أُمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتَّى يَقُولُوا لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ فَمَنْ قَالَ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ عَصَمَ مِنِّى مَالَهُ وَنَفْسَهُ

ฉันถูก(อัลเลาะฮ์)บัญชาว่า ให้ต่อสู้กับมนุษย์ จนกว่าพวกเขาจะกล่าวว่า  ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์(ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลเลาะฮ์) ดังนั้นผู้ใดได้กล่าวว่า ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์ ทรัพย์สินของเขา ชีวิตของเขา ย่อมได้รับการพิทักษ์จากฉัน

เศาะหิ๊หฺมุสลิม หะดีษ 134


                        หะดีษดังกล่าวมิได้หมายความว่า " มุสลิม " คนหนึ่งแค่กล่าวคำว่า " ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะฮ์ " เขาก็จะได้ขึ้นสวรรค์ เพราะนั่นเป็นเงื่อนไขของความเป็นมุสลิม     แต่เขาจะต้องมีศรัทธาตามที่คัมภีร์กุรอ่านระบุไว้อาทิเช่น

لَيْسَ الْبِرَّ أَنْ تُوَلُّوا وُجُوهَكُمْ قِبَلَ الْمَشْرِقِ وَالْمَغْرِبِ وَلَكِنَّ الْبِرَّ مَنْ آَمَنَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآَخِرِ وَالْمَلَائِكَةِ وَالْكِتَابِ وَالنَّبِيِّينَ

มิใช่ความดีแต่อย่างใดที่สูเจ้าทั้งหลาย จะผินหน้าของพวกสูเจ้าไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก แต่ทว่าความดีคือ ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลเลาะฮ์ ต่อวันสุดท้ายต่อบรรดามลาอิกะฮ์ต่อคัมภีร์และต่อบรรดานบี...

ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์   อายัตที่ 177


และมุสลิมยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัตินมาซวาญิบ ถือศีลอดเดือนรอมฎอน จ่ายทานซะกาตและไปประกอบพิธีหัจญ์หากมีความสามารถ


บทสรุป –
หากบุคคลใดก็ตามมีอีหม่านและปฏิบัติอิบาดัตตามที่กล่าวมา เขาก็คือ " มุสลิม "

ผู้ปฏิบัติตามอะฮ์ลุลบัยต์ไม่ควรไปฮุก่มบุคคลดังกล่าวด้วยคำว่า " กาเฟร "  เพราะความคลั่งใคล้ในมัซฮับของตนเหมือนที่พวกวาฮาบีปฏิบัติกันมาจนเป็นประเพณี

และชีอะฮ์ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกับชีอะฮ์ทั่วไปหรือระดับอุละมาอ์ประเภทสุดโต่งที่เที่ยวไปฮุก่มมุสลิมด้วยกันว่าเป็นกาเฟร
เพราะคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดและอะฮ์ลุลบัยต์ได้ระบุชัดเจนว่าเงื่อนไขความเป็นมุสลิมคืออะไร


ทางเวปมาสเตอร์จึงขอตอบว่า 

                                                             วาฮาบีและอะชาอิเราะฮ์ ไม่ใช่กาเฟร